ตายน้ำตื้น "ทักษิณ" พ่วงคนสนิท พิษดราม่า 112
ดราม่า 112 ยังไม่จบ "ทักษิณ" เจอแดงตาสว่างสอนมวย ยกบทเรียนจารุพงศ์-จักรภพ แรมรอนเร่ร่อนหนีตาย นายใหญ่มีข้อจำกัด สู้ไม่สุด ไม่ทะลุเพดาน คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก
ยังไม่จบกรณี “ทักษิณ” กับประเด็นดราม่า 112 เมื่อกลุ่มแดงตาสว่าง ออกมาชำแหละพฤติกรรมเดิมๆที่ไม่เคยเปลี่ยน และไม่สรุปบทเรียนที่ลูกน้องต้องไปลี้ภัยในต่างแดน
“ทักษิณ” คงลืมเหตุการณ์แดงตาสว่าง แบกกล่องรายชื่อผู้สนับสนุนแก้ ม.112 จำนวน 3 หมื่นรายชื่อไปให้ ส.ส.เพื่อไทยที่สภาฯ แต่กลับถูกเขี่ยทิ้งไม่มีความหมาย
แม้วันนี้ “ทักษิณ” จะเล่นหลายหน้า ใช้ทั้งเพื่อไทย และกลุ่มแคร์ ประคองฐานเสียงเดิม และช่วงชิงฐานเสียงคนรุ่นใหม่ แต่แดงเจ้าเก่าไม่ยอมให้อภัย
วันที่ 3 พ.ย.2564 สมยศ พฤกษาเกษม อดีตนักโทษคดี 112 และแกนนำกลุ่มแดงตาสว่าง ได้ลุกขึ้นโพสต์เฟซบุ๊ควิจารณ์แนวคิดทักษิณ กรณีดราม่า 112 ด้วยสเตตัส “ทักษิณ ชินวัตร ตายน้ำตื้นอยู่เสมอ”
แดงตาสว่างอย่างสมยศ ชี้ให้เห็นความเขลาของ “ทักษิณ” ที่อ้างว่า ตัวบทกฎหมาย ม.112 ไม่เป็นปัญหา เป็นเรื่องของผู้บังคับใช้กฎหมาย ควรหันหน้ามาพูดกัน
ตอนหนึ่ง สมยศได้ยกตัวอย่างคนใกล้ชิด ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยการเมือง
“...ทักษิณ อาจลืมไปแล้วว่า อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ที่ทำงานให้พรรคเพื่อไทยเต็มที่ในช่วงวิกฤติของพรรค โดนกล่าวหามาตรา112 จนต้องลี้ภัยไปต่างแดน อีกคนหนึ่ง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ถูกกล่าวหาตามมาตรา112 จนต้องไปตายอยู่ต่างแดน อีกคนหนึ่งที่ช่วยงานทักษิณและพรรคเพื่อไทยเต็มที่ ก็คือ จักรภพ เพ็ญแข ก็ถูกกล่าวหาตามมาตรา 112 จนตัวเองต้องหลบภัยไปต่างแดน อีกคนหนึ่ง ที่ปกป้องทักษิณ ทุกลมหายใจของเขา สุนัย จุลพงศธร ก็ต้องระเห็จไปอยู่อเมริกา ด้วยถูกกล่าวหาตามมาตรา 112 ..”
ช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กลุ่มแดงตาสว่าง เคลื่อนไหวทำกิจกรรมคึกคัก และพยายามจะยกเพดานการต่อสู้ด้วยการเสนอแก้ไข ม.112 แต่ก็ถูกแดง นปช. และเพื่อไทย ลอยแพ
หลังรัฐประหาร 2557 แกนนำแดงตาสว่างบางคนหนีข้ามแดนไปอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เสียชีวิตสูญหายก็หลายคน ส่วนคนสนิทของ “ทักษิณ” ก็ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกา อาทิเช่น จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และสุนัย จุลพงศธร
‘แก่แล้วสู้ไม่ไหว’
มือทำงานที่ใกล้ชิด “ทักษิณ” อย่าง จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีมหาดไทย ได้จัดตั้งองคก์รเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ที่สหรัฐฯ หวังจะประสานการต่อสู้กับแดงตาสว่างในประเทศเพื่อนบ้าน ตามยุทธศาสตร์โลกล้อมไทย
พอลงมือทำจริง 2-3 ปี จารุพงศ์เจอข้อจำกัดของทักษิณเรื่องเพดานการต่อสู้ จึงต้องแปรสภาพเป็นองค์กรเอ็นจีโอ ทำงานช่วยเหลือเพื่อนผู้ลี้ภัย
ต้นเดือน ก.ย.2564 จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวเวบไซต์ประชาไท เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยบอกว่า ตัวเขาไม่มีปืน ไม่มีอำนาจที่จะต่อสู้ จึงลี้ภัยมาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยเพื่อตั้งหลัก และขอใช้สติปัญญา ความรู้ความสามารถ ส่งต่อความรู้และอุดมการณ์เพื่อให้ประชาชนคนรุ่นหลังได้ตาสว่าง
“วันนี้ คน gen X gen Y ตาสว่างเยอะแล้วนะ เขารู้อนาคตเขาแล้ว เขาจึงออกมาสู้ ผมเองก็ได้แต่สนับสนุนเขาเท่านั้นเอง ทางใจนะ แต่ไม่ได้คิดจะออกไปต่อสู้อะไรอีกแล้วเพราะเราอายุมากแล้ว เราต่อสู้มาเยอะมากแล้ว”
จารุพงศ์ยอมรับสภาพความเป็นจริงของชีวิต จึงใช้ชีวิตเยี่ยงคนสูงวัยในสหรัฐฯ ติดตามข่าวสารจากเมืองไทย และรอคอยที่จะได้กลับบ้านเหมือนนายใหญ่-ทักษิณ
‘รักนายไม่ลืม’
แดงตาสว่างอีกคนหนึ่งที่รักและเคารพ “ทักษิณ” ไม่เคยจืดจาง นั่นคือ จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีที่ต้องหนีคดี 112 ไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน
จักรภพเคยวาดฝันกับจารุพงศ์ จะผลักดันองค์กรเสรีไทย เป็นหัวหอกในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในทางสากล ประสานกับแดงตาสว่างที่กระจัดกระจายอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ขบวนการดังกล่าว เจอทางตันไปต่อไม่ได้
ทุกวันนี้ จักรภพทำได้เพียงอัพสเตตัสในเฟซบุ๊คส่วนตัว คอยให้กำลังใจกลุ่มราษฎร และเยาวชนรุ่นใหม่ได้ต่อสู้ตามแนวทางที่เขาปรารถนาจะก่อการ แต่ไม่สำเร็จ
จักรภพไม่เคยตำหนิ “ทักษิณ” แม้จะรู้ว่านายใหญ่มีข้อจำกัดมากมาย จึงทำให้การต่อสู้ขององค์กรเสรีไทยไปไม่สุดทาง
มิเพียง “ทักษิณ” เท่านั้นที่ตายน้ำตื้น เพราะข้อจำกัดของตระกูลชินวัตร องค์กรเสรีไทย ของจักรภพและจารุพงศ์ก็ตายน้ำตื้น เพราะนำขบวนการแดงตาสว่างไปผูกติดกับนายใหญ่เช่นกัน