คอลัมนิสต์

พลังภายในกดดัน "ธรรมนัส" ขณะที่เจ้าตัวเปิดใจล่าสุดส่งสัญญาณ"อยู่หรือไป"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นัยว่าไฟเขียวจาก 2 ใน 3ป.ให้เช็กบิล"ธรรมนัส" กบฏบนเรือเหล็ก แต่สำหรับงานนี้ อาจไม่ง่าย เมื่อเช็คกำลังฟากฝ่ายหนุนลุงตู่ เทียบกับ การรวบรวมไพร่พลกก.บห.ฝ่าย"ธรรมนัส" แต่กับข้อความเปิดใจล่าสุดล้วนมีนัยยะ /เจาะประเด็นร้อน โดยเมฆาในวายุ

 

เริ่มชัดแล้วสำหรับกระแสข่าว 6 รมต.พรรคพลังประชารัฐเข้าพบ"สร.1" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังประชุมครม.ครั้งล่าสุด จบลง ท่ามกลางกระแสข่าวกรรมการบริหารพรรคที่เป็นรมต.ทยอยลาออก เพื่อบีบ"อดีตรมต.แป้ง"  ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ให้พ้นเก้าอี้เลขาธิการพรรคโดยพลัน

 

นัยว่าไฟเขียวจาก 2 ใน 3ป.ให้เช็กบิล"กบฏบนเรือเหล็กและสนิมใน พปชร."ให้หลุดร่อนไป มิให้รำคาญสายตาและจิตใจ

 

โดยตอนนี้ "ใครเป็นใคร สังกัดปีกไหนในพปชร."นั้น  "คมชัดลึก" เคาะชื่อกรรมการบริหารพรรคแต่ละคนได้ขั้นต้นแล้วว่า" ยืนอยู่ข้างใคร..."

 

แม้ก่อนหน้านี้จะมีการแบ่งรับ-แบ่งสู้เรื่องการขยับโครงสร้างภายในพรรคว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่  แต่กระแสข่าวที่ระบุกันหลากสื่อว่ากรรมการบริหารพรรคขั้วตรงข้าม"ร.อ.ธรรมนัส" ยื่นใบลาออกแล้วหลายคน แต่ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่พอจะล้างไพ่ได้หมดวง เพราะจากนั้นไม่นานมีการต่อสายตรงไปยังคนที่ยังแทงกั๊กแล้วว่า "ยุติการลงนามลาออกไว้สักครู่ แล้วมาคุยกันก่อน" นั้นเกิดขึ้นหลังจาก"ร.อ.ธรรมนัส"หลบไปเลียแผลใจที่เกาะสมุยในช่วงวันหยุดยาวและไปเช็กชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พร้อมกันในคราวเดียว

 

แต่เมื่อมีกระแสข่าวแบบนี้ปูดขึ้น ทำให้ "ร.อ.ธรรมนัส" ดอดเข้าพบ"ลุงป้อม" โดยพลันเพื่อเบรคพายุที่ปั่นขึ้นจากขั้วตรงข้ามในพรรคที่จะพัดตัวจนตกบัลลังก์

 

โดยตอนนี้ชัดแล้วเมื่อ"ร.อ.ธรรมนัส"  ลงนามในคำสั่งขอนัดประชุมกรรมการบริหารพรรควันที่ 28 ต.ค.นี้ เพื่อหารันเวย์ที่ดีที่สุด โดยพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคไฟเขียวแล้ว

 

แต่ การล้างไพ่ เปลี่ยนมือแจกไพ่ (เลขาธิการพรรค) นั้น อย่างไรเสียมันต้องเกิดขึ้นตามคำทำนายซึ่ง"เมฆาในวายุ" ฟันธงล่วงหน้าหลายคราวแล้ว

 

โดยคำยืนยันล่าสุด จากนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะกรรมการบริหารพรรค  ตอบคำถามถึงกระแสข่าวการลาออกของคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อเปิดทางในการปรับโครงสร้างว่า "ขณะนี้กำลังพูดคุยกันถึงการลาออก โดยวันที่ 28 ต.ค.นี้ จะคุยกันอีกครั้งอย่างเป็นทางการว่า จะปรับแก้อย่างไร ทุกคนต้องหาทางออกร่วมกัน  เหตุผลที่ต้องปรับโครงสร้าง เพราะรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐต้องเป็นเนื้อเดียวกัน เดินไปด้วยกัน หากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ไปทางเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ พรรคก็ทำงานยาก"

 

เมื่อถามว่า กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐที่จะลาออกขณะนี้เกินกึ่งหนึ่งหรือยัง นายชัยวุฒิ  กล่าวว่า "ยังไม่ถึง จริงๆ ยังไม่ถึงขั้นลาออก เป็นการพูดคุย ยังไม่มีการลาออก หากลาออกจะแถลงข่าว"

 

เมื่อถามว่า การจะปรับโครงสร้างพรรคครั้งนี้ เพราะมองว่าเลขาธิการพรรค มีปัญหาใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ ย้อนถามว่า “แล้วคุณคิดว่ามีปัญหาหรือไม่ ขอสื่อมวลชนดูกันเอง ว่าในอดีตเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง”

 

เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่า "ร.อ.ธรรมนัส" มีปัญหาหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “ผมคิดว่ามีนะ  ไม่เช่นนั้นไม่มีการพูดคุยกันเพื่อจะปรับโครงสร้างแต่ไม่ขอพูดในรายละเอียด เพราะเชื่อว่าประชาชนและสื่อมวลชนรู้อยู่แล้วว่าคืออะไร  ขอให้เดินไปข้างหน้า อย่าพูดถึงอดีต”


แปลว่า เก้าอี้พ่อบ้านพปชร.ต้องเปลี่ยนคนทำงานเป็นครั้งที่สี่(คนแรกคือนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ คนที่สองคือนายอนุชา นาคาศัย คนที่สามคือร.อ.ธรรมนัส )  


งานนี้"โทนี่ วู้ดซั่ม" ยังอดไม่ได้เพราะมีการพูดเรื่องนี้ในรายการ CareTalk x Care Clubhouse ในหัวข้อ วันนี้ประยุทธ์ พรุ่งนี้…ใคร" เหน็บแนมพปชร.แบบไม่ยั้งและคล้ายเปิดทางให้อดีตผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อันดับที่ 55 พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งปี 2557 รายนี้กลับชายคาโอเอไอ ทาวเวอร์ แม้วันวานคนในพท.จะจัดหนักช่วงที่ร.อ.ธรรมนัสได้เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ก็ตาม

 

ดังนั้นคำตอบที่ "โทนี่ วู้ดซั่ม" ระบุล่าสุดในเรื่องนี้นั้นคือ "สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำ เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าอยากอยู่นาน เมื่อจะเล่นงาน "ร.อ.ธรรมนัส"  ผมก็อยากจะบอกคนในพรรคว่า คิดว่าในพรรคพลังประชารัฐเหมือนประกอบกำลังคนจากหลายแหล่ง เรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัวมีสูง ก็อาจจะต่อสู้กัน งัดข้อกันดู แต่ในที่สุดน่าจะเอาไม่อยู่ เพราะ "ร.อ.ธรรมนัส" เป็นนักเลง พูดจาดีๆ น่าจะรู้เรื่อง 

 

แต่ถ้าเล่นกับเขาก็ไม่ยอม เรื่องไม่จบ ไม่ใช่ว่าจะลาออกแล้วตั้งกรรมการบริหารใหม่ เพราะเป็นพรรคที่ประกอบชั่วคราว คงไม่จบง่ายๆ ส่วนจะแตกหรือไม่นั้น เชื่อว่าคงอยู่กันแบบนี้ เหมือนผัวเมียพร้อมเลิก อยู่คนละห้อง แต่ยุทธศาสตร์มีไว้แล้ว คือซื้ออย่างเดียว การเมืองถ้ามีการใช้สตางค์ซื้อกันหนักๆ มันก็พัง ประชาชนรับเงิน 500 บาท อยู่ 4 ปีตกปีละ 100 บาท แต่ค่าครองชีพจากการเมืองเฮงซวยแพงกว่าที่รับไป ถึงได้บอกว่ารับเงินใครก็รับไปเถอะ แต่กากบาทเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งนั้น"


ถ้อยคำบางช่วงในวันนั้นที่"ร.อ.ธรรมนัส" ตอบกับสังคมคือ "ผมเคยสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อกับพรรคการเมืองหนึ่ง หากไม่มีการรัฐประหารครั้งที่แล้วก็คงได้เป็นส.ส.ทำไมถึงไม่มีปัญหา แต่ทำไมถึงมีปัญหาในครั้งนี้ และไม่ถูกโจมตีอะไรเลย"

 

แต่วันนี้รอยร้าวที่เกิดขึ้น "ร.อ.ธรรมนัส" คงต้องทบทวนตัวเองว่า 1.จะลุยไปตั้งพรรคอีสานล้านนา   2.กลับชายคาเก่าที่เคยร่วมงานกับนายทักษิณ  ชินวัตร ที่พรรคไทยรักไทยตั้งแต่ปี25423 จะทนทู่ซี้อยู่กับพปชร.(เพราะความจริงแล้วขยับลำบากจากคดีในวันวานที่ยังค้างคาในบางองค์กรอิสระ)ก็ต้องคิดกันต่อ

 

เพราะอย่าลืมว่า 1.เลือกตั้งครั้งหน้า จะใช้กติกาบัตรสองใบ มันเหนื่อยแน่หากต้องออกไปลุยตั้งพรรคใหม่ แต่มันคุ้มหากพอได้ผู้แทนฯสัก 5 คนขึ้นไปเพื่อมีแรงต่อรองกับขั้วตั้งรัฐบาล   2.แต่หากกลับรังเก่านั้น ถามใจตัวเองและคนในพท.สักนิดว่า"ทำใจและปั้นหน้าตอบสังคมได้หรือเปล่ากับเหตุวันวานที่พท.จัดเต็มอดีตรมต.แป้งไปแบบนั้น" 3.ทนอยู่กับพปชร.แต่โดนลดบทบาท กลายเป็นผู้แทนฯธรรมดาคนหนึ่ง เพราะขยับลำบาก ราคาทางการเมืองนั้นอยู่ที่การสร้างบารมี แต่วันนี้ผู้กองตุ๋ยโดนดิสเครดิตจากคนกันเองเยี่ยงนี้

 

อย่างไรก็ดี "ร.อ.ธรรมนัส" โพสต์ข้อความล่าสุดผ่านเพจส่วนตนเมื่อวันที่27 ต.ค.64  โดยเนื้อหาสื่อความหมายออกไปทำนองเหมือนยอมรับชะตากรรรมทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในเร็ววัน 

 

เนื้อความระบุว่า  ผมยืนยันกับพี่น้องประชาชนอีกครั้งว่า ต่อให้ผมไม่มีตำแหน่งใดๆเลย  เหมือนก่อนเข้ามาในวงจรการเมือง เป็นเพียง ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ผมก็จะอุทิศตนช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่เหมือนเดิมตามที่ผมได้ตั้งใจไว้ำไม่เปลี่ยนแปลง 

 

ผมเกิดมาจากครอบครัวชาวนา เป็นลูกชาวนาฐานะยากจน ต่อสู้ชีวิตมาจากจนถึงวันนี้ พอมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีไม่ขัดสน ผมเข้าใจดีครับว่า ความลำบากของคนยากจนนั้นเป็นอย่างไร ผมคิดถึงพี่น้องประชาชาชนเป็นที่ตั้งเสมอ ผมอาจจะไม่ใช่คนที่พูดเก่ง มีวาทศิลป์ แต่ขอให้ดูผลงาน ความทุ่มเท ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง และให้สิ่งนั้นเป็นคำพูดแทนตัวของผมครับ

 

ขอขอบพระคุณทุกกำลังใจจากทุกๆท่านในทุกๆช่องทางครับ 

 

พลังภายในกดดัน "ธรรมนัส" ขณะที่เจ้าตัวเปิดใจล่าสุดส่งสัญญาณ"อยู่หรือไป"

 

เมื่อพิจารณาจากข้อความเปิดใจล่าสุด ย่อมน่าจับตามองเส้นทางการเมืองของร.อ.ธรรมนัสจะเดินไปทางใดต่อไป ต้องจับตา 

 

ส.ส.พลังประชารัฐ สายร.อ.ธรรมนัส ตอนนี้มีกำลังพลดังนี้

 

ภาคเหนือ นายบุญสิงห์ วรินทรลักษณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, จีรเดช ศรีวิลาศ ส.ส.พะเยา เขต 2 ,นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เขต 1,นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก เขต 1, นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก เขต 3,นายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง เขต 4 

 

ภาคอีสาน นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ,นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 ,นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น เขต 7,นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ เขต 2

 

พลังภายในกดดัน "ธรรมนัส" ขณะที่เจ้าตัวเปิดใจล่าสุดส่งสัญญาณ"อยู่หรือไป"
ภาคกลาง นางสาวจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร เขต 3
 

ภาคใต้  นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 4 และกลุ่มของอดีตรมต.แป้งยังแตะมือกับปีกของ"นายวิรัช รัตนเศรษฐ "ไว้ด้วย

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ