คอลัมนิสต์

พลพรรคคนรัก"ทักษิณ" ยามนี้..ทำอะไร สัญญาณเตือนถึงเส้นทางข้างหน้า ( 3 )

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บุคคลที่เข้าไปข้องแวะกับ"โทนี่ วู้ดซัม" หรือ "ทักษิณ" มักต้องประสพชะตากรรมบนถนนทางการเมืองไม่สวยนัก ยิ่งทำให้มองถึงหนทางข้างหน้า หากตัดสินใจร่วมหัวจมท้ายกับ"โทนี่ วู้ดซัม" จะเป็นอย่างไรต่อไป ...ติดตามได้ที่ เจาะประเด็นร้อน โดย เมฆาในวายุ

วีรกรรมของ"พลพรรคคนรักทักษิณ" ดำเนินมาถึงตอนสุดท้าย ในห้วงรัฐบาล"นายกฯโคลนนิ่ง" บุคคลเหล่านี้มีชะตากรรมเช่นใดบ้างหลังถวายชีวิตให้ "โทนี่ วู้ดซัม"  ทักษิณ ชินวัตร,  ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกฯน้องสาวของคนไกลดูไบ และวงศ์วาน

 

วันที่ 23 พ.ค.2554   ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับโอกาสและผลการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยวันที่ 3ก.ค.54   โดยหนึ่งคำถามที่ยิงตรงไปยังยิ่งลักษณ์ว่า "การโคลนนิ่งครั้งนี้จะรับทุกสิ่งที่ทักษิณเคยประสบหรือไม่"  ยิ่งลักษณ์สตั้นท์ไปชั่วขณะก่อนตั้งสติกลับมากล่าวว่า  "โคลนนิ่งคือการเข้าใจและรับหลักคิด การบริหารธุรกิจจากนายทักษิณ แต่การตัดสินใจนั้นจะตัดสินใจเอง"

 

ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น้องสาวทักษิณ ชินวัตร  ต้องคดีทุจริตจำนำข้าวหลบหนีไปอยู่ต่างแดน

 

สิ่งที่ "ยิ่งลักษณ์" ระบุในวันนั้นเกิดขึ้นท่ามกลางบางจังหวะหาแต้มซึ่งนารีขี่ม้าขาวหาเสียงไว้หลายพื้นที่ โดยหนึ่งนโยบายที่สตรีนางนี้ท่องจำและย้ำทุกเวทีว่า "จำนำข้าว 1.5 หมื่นบาท เอาไหมคะ?"

 

ตรงนี้คือปฐมบทมหากาพย์การโกงครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่งของสยามประเทศ โดยมี"หลากตัวละครอยู่ในบ่วงกรรมจำนำข้าว"....

อ้างอิง  รายงานฉบับสมบูรณ์กรณีการทุจริตการศึกษา:โครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ด ของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) 
 

ผลการศึกษาให้ข้อสรุปที่สำคัญ 6 ประการ

 

โดยขอให้น้ำหนักไปที่ประการแรกและประการที่สองของรายงานฉบับนี้ ซึ่งประการแรก ระบุว่า โครงการรับจำนำข้าว 5 ฤดูมีการรับจำนำข้าวเปลือก 54.35 ล้านตัน มีค่าใช้จ่ายรวม 9.85 แสนล้านบาท เป็นเงินซื้อข้าว 8.57 แสนล้านบาท เงินที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นเงินนอกงบประมาณที่กู้จากสถาบันการเงินของรัฐ โดยรัฐบาลไม่ต้องขออนุมัติจากรัฐสภา 

 

เมื่อสิ้นเดือนเม.ย.57 โครงการมีการขาดทุนทางการคลังสูงถึง 5.39 แสนล้านบาท (หรือเกือบ 53% ของค่าใช้จ่าย) แต่ถ้าหากรัฐบาลต้องใช้เวลาอีก 5-10 ปี ระบายข้าวในสต๊อกจำนวน 17.8 ล้านตัน คาดว่าภาระขาดทุนจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 6.78 แสนล้านบาท และ 9.10 แสนล้านบาทตามลำดับ ตัวเลขขาดทุนจริงจะสูงกว่านี้มาก เพราะรายงานผลการตรวจสต๊อกข้าวเมื่อกลางตุลาคม 2557 พบว่ามีข้าวที่ผ่านมาตรฐานเพียง 2.36 ล้านตันแม้จะมีข้าวหายเพียง 1.2 แสนตัน แต่ข้าวในสต๊อกกว่าร้อยละ 85มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน การคำนวณเบื้องต้นพบว่าผลขาดทุนจะเพิ่มเป็น 6.6 แสนล้านบาท

 

ต้นตอของการขาดทุนจำนวนมหาศาลเกิดจาก การรับจำนำในราคาสูง แต่ขายข้าวในราคาต่ำเพื่อมิให้ผู้บริโภคซื้อข้าวราคาแพงและการทุจริตที่เกิดจากรัฐบาลขายข้าวให้บริษัทพรรคพวกในราคาต่ำกว่าราคาตลาดมาก 

ประการที่สอง แม้ว่าชาวนาทั่วประเทศ (ทั้งผู้เข้าร่วมและไม่เข้าร่วมโครงการ) จะได้รับผลประโยชน์ส่วนเกิน (producer  surplus)เป็นมูลค่สุทธิสูงถึง 5.6 แสนล้านบาทจากโครงการรับจำนำข้าวแต่ประโยชน์ส่วนใหญ่ตกเป็นของชาวนารายกลางและรายใหญ่ ซึ่งอาศัยในเขตชลประทานของภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ข้อค้นพบสำคัญ คือ หากเรานับรวมผลประโยชน์และต้นทุนที่เกิดขึ้นกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในโครงการรับจำนำ

 

ปรากฏว่าต้นทุนสวัสดิการ (welfare cost หรือความเสียหายสุทธิต่อสังคม) สูงถึง 1.23 แสนล้านบาท ซึ่งหมายความว่าความสูญเสียต่อสังคมสูงกว่าประโยชน์ที่ตกแก่ชาวนาและผู้บริโภค ความสูญเสียนี้ยังไม่นับรวมความเสียหายอื่นๆ ที่วัดไม่ได้ เช่นชื่อเสียงและคุณภาพข้าวไทย การถลุงทรัพยากรจากพฤติกรรมแสวงหาค่าเช่าทางเศรษฐกิจ และการค้าข้าวแบบพรรคพวกที่ทำลายระบบการค้าแบบแข่งขัน เป็นต้น ดังนั้นวาทกรรมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่อ้างว่าโครงการรับจำนำข้าวเป็นประโยชน์ต่อชาวนา จึงเป็นเพียงความพยายามกลบเกลื่อนความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อสังคมแบบขาดความรับผิดชอบ


เพียงเท่านี้น่าวินิจฉัยได้แล้วว่า โครงการนี้ดี-สุจริต-เป็นธรรม-โปร่งใสหรือไม่ 


หากยังไม่แน่ใจ ลองวินิจฉัย สิ่งที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสะสางคดีค้างเก่าของ อคส. โดบระบุว่า "ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา ว่า อคส.ได้ดำเนินการส่งเรื่องให้อัยการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี และนาปรัง ตั้งแต่ปีการผลิต 2554-57 กับเจ้าของคลังเก็บข้าว ที่ อคส. เช่าเพื่อฝากเก็บข้าวในสต๊อกของรัฐบาล , โรงสี , เจ้าหน้าที่ อคส.ที่เกี่ยวข้อง รวม 1,143 คดี อยู่ในชั้นศาลปกครองกลาง 1,136 คดี ศาลปกครองสูงสุด 4 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 494,198 ล้านบาท และ อคส. ถูกฟ้อง 155 คดี ทุนทรัพย์ 4,782 ล้านบาท "


กลับเข้าเรื่องดีกว่า ตัวละครที่วงเวียนใกล้ชิดคนไกลบ้านและวงศ์วานในคดีทุจริตครั้งนี้พบว่า  บุญทรง  เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ในรัฐบาลนายกฯหญิง ถูกศาลพิพากษาจำคุกหนักถึง 42 ปี และ 36 ปี ตามลำดับ โยงมาถึงคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตจำนำข้าว ที่ "ยิ่งลักษณ์" เป็นจำเลย และหนีคำพิพากษา

 

 

เยาวภา วงศ์สวัสดิ์  สวมกอด ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร น้องสาว

 

คดีทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี ที่มีบุญทรง-นายภูมิ เป็นจำเลย( บุญทรงเป็นส.ส.เชียงใหม่และใกล้ชิด "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" พี่สาวของ ยิ่งลักษณ์  ส่วนนายภูมินั้นเคยเป็นส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังธรรมและใกล้ชิดทักษิณ ชินวัตรในช่วงเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม) ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2560 ว่า  "นายบุญทรง-นายภูมิ" และพวก ร่วมทำยุทธศาสตร์การระบายข้าว เพื่อนำบริษัท กว่างตง จำกัด และบริษัท ห่ายหนาน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเครือข่ายของอดีตนายกฯทักษิณ มาทำสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ไม่เปิดประมูลขายข้าวภายในประเทศ ทำให้ข้าวในท้องตลาดขาดแคลน ผู้ประกอบการค้าข้าวไม่สามารถหาซื้อข้าวในท้องตลาดได้ จำต้องไปหา ซื้อข้าวจากกลุ่มบริษัทและพนักงานของเครือข่ายทักษิณ จึงเป็น 2 นักการเมืองที่มีโทษจำคุกหนักที่สุด 42 ปี และ 36 ปี ตามลำดับ

 

บุญทรง เตริยาภิรมย์  อดีตรมว.พาณิชย์  ถูกคุมขังจากคดีทุจริตจำนำข้าว เป็นเวลา 42 ปี

วันที่ 25 ส.ค. 60 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.22/2558 ระหว่าง อัยการสูงสุดกับ "ยิ่งลักษณ์" เรื่อง ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

 

เมื่อถึงเวลาฟังคำพิพากษา อดีตนายกฯ หญิงไม่ปรากฏตัว โดยทนายจำเลยยื่นคำร้องว่าได้รับแจ้งจากจำเลยว่าป่วยด้วยโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน มีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ขอเลื่อนอ่านคำพิพากษา
 

ศาลพิเคราะห์แล้วเชื่อว่าจำเลยหลบหนี จึงได้ออกหมายจับจำเลยและปรับนายประกันเต็มตามสัญญา ให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 ก.ย. 2560   หลายฝ่ายเชื่อว่า การไม่ปรากฏตัวของอดีตนายกฯ หญิงไม่ได้เกิดจากอาการป่วย แต่เป็นชะตากรรมที่ซ้ำรอยนาย ทักษิณ  ซึ่งต้องหลบหนีคดีออกนอกประเทศ


ต่อมา ศาลอ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2560 มีคำพิพากษาจำคุก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา

 

25 ส.ค.60 นายกฯหญิงนัดหมายครม.และผู้เกี่ยวข้องไปศาล โดยเจ้าตัวย้ำกับจำเลยทุกคนว่า ไปศาลแน่นอน แต่สุดท้ายนารีขี่ม้าขาวปรากฏกาย ณ ต่างแดน แต่ผู้ร่วมละครบ่วงกรรมจำนำข้าวต้องเข้าซังเต....

 

"นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล-นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ" 

 

นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล

 

คดีฮั้วประมูลจัดอีเวนท์ 240 ล้านบาท ในโครงการ“โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020”นั้น  ต้นทางมาจากเดือน ม.ค.2556 คณะรัฐมนตรีได้มีมติยกร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ( "ร่าง พ.ร.บ สองล้านล้านบาท" )และเดือน ก.พ.2556 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งประเทศเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำร่าง พ.ร.บ. สองล้านล้านบาท และเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการจัดนิทรรศการ สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน โดยให้นำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนครบถ้วน ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินโครงกรจัดนิทรรศการไปแล้วทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้แก่ กรุงเทพฯ จ.หนองคาย จ.นครราชสีมา และ จ.พิษณุโลก

 

โครงการนี้มาจากการหาเสียง โดยท่อนหนึ่งที่หลายคนจำได้ขึ้นใจคือ "รถไฟฟ้ายี่สิบบาทตลอดสาย เอาไหมค่ะ?"

 

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 63  "นิวัติไชย เกษมมงคล" โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) แถลงข่าวชี้มูลความผิด "ยิ่งลักษณ์"  พร้อมพวกกรณีอนุมัติและดำเนินการจัดนิทรรศการ การสัมมนา และการโฆษณาประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ “โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020” วงเงิน 240 ล้านบาท โดยมิชอบ เพราะเอื้อสื่อมวลชนสองรายให้จัดอีเว้นท์นี้

สุรนันท์  เวชชาชีวะ  อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรียุคที่ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร เป็นนายกฯ

 

โดยป.ป.ช. เสียงข้างมาก (5:2เสียง) ชี้มูลความผิด "ยิ่งลักษณ์" , มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด "สุรนันทน์ เวชชาชีวะ" เลขาธิการนายกรัฐมนตรีขณะนั้น  และมติเสียงข้างมาก( 6 : 1 เสียง) ชี้มูลความผิด"นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล"   รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 

 

ส่วนบริษัทสื่อมวลชน 2 แห่งและผู้มีอำนาจกระทำการแทนนั้น ป.ป.ช.มีมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 3 เสียง ชี้มูลความผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าว ขณะที่กลุ่มข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐนั้น     ป.ป.ช. มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป (คดีนี้มีผู้ที่ถูกกล่าวหาคือนักการเมือง ข้าราชการ และเอกชน 17 ราย)


"เดอะปุ้ม"คือโฆษกพรรคทรท.ยุคแรก และเคยร่วมงานกับคนหน้าเหลี่ยมตั้งแต่พรรคพลังธรรม ส่วนนิวัฒน์ธำรงคือคนในเครือชินคอร์ปมานานนม

 

สุดท้ายก็ต้องไปสู้ความกันอีกหลายยกและลุ้นว่าจะรอดหรือร่วงกับการสังฆกรรมตามดำริของนายใหญ่และนายกฯหญิง

 

ส่วนภาวะในอนาคต  บุคคลแวดล้อม "โทนี่ วู้ดซัม" จะมีชะตากรรมอย่างไรกันบ้าง หากยังเล่นตามบทที่นายใหญ่ลิขิตนั้น.... รอติดตาม
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ