คอลัมนิสต์

ไฉนยามนี้...หลากพรรค "ยึดขอนแก่น เป็นหมุดหมายการเมือง"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พรรคการเมืองต่างลงพื้นที่พบปะประชาชนกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัด"ขอนแก่น" ดูเป็นหมุดหมายสำคัญของหลายพรรคที่กำลังหมายปอง เป็นการกำหนดยุทธศาสตร์แบบไม่ได้นัดหมายที่ต้องช่วงชิงพื้นที่ตรงนี้ให้ได้ /เจาะประเด็นร้อน โดยเมฆาในวายุ

พรรคการเมืองต่างลงพื้นที่พบปะประชาชนกันอย่างคึกคัก ไม่ใช่แค่การเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทุกภัยอย่างเดียว หากแต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ให้เกิดภาพจำในตัวบุคคลสังกัดพรรครับการเลือกตั้งที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองในช่วงเวลานี้หรือเมื่อไหร่ การซักซ้อมเตรียมความพร้อมจตลอดเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญ 

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้องโฟกัสเป็นพิเศษในพื้นที่ภาคอีสาน  อย่างจังหวัด ขอนแก่น  หลายหลากพรรคไม่ว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ลงพื้นที่ทำกิจกรรมการเมือง-เปิดตัวว่าที่สมาชิกพรรคและผู้สมัครส.ส.กันเนืองๆ 

 

มาเอกซเรย์กันสักหน่อย จังหวัดนี้มีผู้แทนราษฎรระบบเขตได้สิบคน (การเลือกตั้ง 24มี.ค.2562) และเลือกตั้งครั้งหน้าจ.ขอนแก่นอาจจะมีส.ส.เพิ่มขึ้น   เพราะ"ขอนแก่น"นั้นนับเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ของภาคอีสานและเป็นจังหวัดใหญ่(ระบบราชการ-ธุรกิจ-การศึกษา-สาธารณสุข-คมนาคม)อันดับต้นๆ ของประเทศเช่นกัน

ข้อมูลจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น  ระบุว่า  จ.ขอนแก่นมี  26  อำเภอ 199 ตำบล  2,331  หมู่บ้าน และ 389  ชุมชน   องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  จำนวน 225 แห่ง ( องค์การบริหารส่วนจังหวัด  1 แห่ง  เทศบาล  75 แห่ง  เทศบาลนคร1 แห่ง เทศบาลเมือง  6 แห่ง เทศบาลตำบล  77 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล  140 แห่ง)

 

ประชากรของจ.ขอนแก่นรวมทั้งสิ้น 1,805,895 คน (ชาย 889,505 คน หญิง 916,390 คน)  โดยจ.ขอนแก่นมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ(รองจากกรุงเทพมหานคร นครราชสีมา และอุบลราชธานี)  และเป็นอันดับ 3  ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (รองจากนครราชสีมา และอุบลราชธานี) 


ปี 2560 จังหวัดขอนแก่นมีผลิตภัณฑ์มวลรวม (Gross Provincial Product : GPP) จำนวน 204,122 คิดเป็นร้อยละ 1.3 ของ GDP ประเทศไทย ประชากรมีรายได้ต่อหัว 117,560 บาท/คน/ปี อยู่ลำดับที่ 31 ของประเทศ จาก 77 จังหวัด เป็นลำดับที่ 1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สาขาการผลิตที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัดขอนแก่น คือ ภาคนอกเกษตร มีมูลค่า 182,752 ล้านบาท ในขณะที่ภาคเกษตรมีมูลค่า 21,369 ล้านบาท

 

ภาคนอกเกษตร มีมูลค่าอันดับ 1 คือ สาขาอุตสาหกรรม มีมูลค่า 70,760 ล้านบาท ร้อยละ 34.67รองลงมาคือ การขายส่ง ขายปลีก  มีมูลค่า 26,322 ล้านบาท ร้อยละ 12.90   สาขาการศึกษา มีมูลค่า 25,765 ล้านบาท ร้อยละ 12.62 สาขาเกษตรกรรม มีมูลค่า 21,369 ร้อยละ 10.47 และสาขาการเงิน    มีมูลค่า 12,820 ล้านบาท ร้อยละ 6.28
 
ข้อมูลขั้นต้นนั้น จ.ขอนแก่นจึงเป็นเสมือนหมุดหมายการเมืองของหลากพรรคที่หวังปักธงพรรคในพื้นที่นี้ให้ได้

 

ผลการเลือกตั้งวันที่26มี.ค.2562 ในสิบเขตของจ.ขอนแก่นนั้น  พรรคเพื่อไทยกวาดไปได้ 8 ที่นั่ง  แต่ต่อมาเสียไป 1เขต (เขต7 อ.มัญจาคีรี-หนองเรือ เพราะนายนวัธ เตาะเจริญสุข พ้นสภาพส.ส.ทำให้เกิดการเลือกตั้งซ่อมวันที่22ธ.ค.2562  นายสมศักดิ์ คุณเงิน ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐได้รับเลือกตั้ง  ชนะนายธนิก มาสีพิทักษ์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยที่ลงแทนนายนวัธ)
พรรคพลังประชารัฐคว้าได้1เขต(เขต 2  อ.ซำสูง และอ.เมืองบางส่วน) โดยนายวัฒนา ช่างเหลา ชนะนางอรอนงค์ สาระผล จากพรรคเพื่อไทยไปได้

 

พรรคอนาคตใหม่ ปักธงได้1 เขต (เขต1 อ.เมืองบางส่วน)  โดยนายฐิตินันท์ แสงนาค ชนะนายจักริน พัฒน์ดำรงจิตร แชมป์เก่าหลายสมัยจากพรรคเพื่อไทยไปได้ และต่อมานายฐิตินันท์ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย 

 

อย่าลืมว่าการเลือกตั้งส.ส.ตั้งแต่ปี2544-ครั้งล่าสุด พบว่า พรรคไทยรักไทย-พลังประชาชน-เพื่อไทย ตีตราจองหลายเขตเลือกตั้ง (การเลือกตั้งปี2548 ทรท.ได้ผู้แทนฯขอนแก่นยกจังหวัด และปี 2550 ก็เช่นกัน พรรคพลังประชาชนได้ผู้แทนฯยกจังหวัด แต่เมื่อโดนยุบพรรคทำให้ส.ส.บางส่วนย้ายไปพรรคภูมิใจไทย)

 

ตรงนี้เองหรือไม่ที่ทำให้หลายพรรคหวังได้ผู้แทนฯในจ.ขอนแก่นแบบเป็นกอบเป็นกำ แต่คล้ายว่ามีเพียงบางพรรคเท่านั้นที่หวังลุยเต็มสูบในพื้นที่นี้ และบางพรรคยังไม่ขยับเพราะอาจรู้ว่าบางครั้งลงสนามแล้วอาจเหนื่อยฟรีสำหรับบางพื้นที่ แต่คงต้องมาบ้างในยามหน้าไม่อย่างนั้นคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่พอจะเก็บเกี่ยวไว้ได้จะตกไปอยู่กับคู่แข่ง

 

ปฏิทินการเมือง บ่งชี้ไว้ว่า วันที่ 13 ต.ค. 2564  ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค , นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นายวัฒนา ช่างเหลา และนายสมศักดิ์ คุณเงิน  ในฐานะส.ส.ขอนแก่น พปชร. เข้าพบปะสมาชิกพรรค และสังเกตการณ์การประชุมเลือกตั้งตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ ประจำ จ.ขอนแก่น   ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด  โดยก่อนหน้านี้พปชร.จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนในจังหวัดนี้

 

เพราะขอนแก่นนั้น "ผู้กองตุ๋ย" มีส.ส.ในมุ้งปักธงในพื้นที่นี้อย่างเป็นทางการ หากไม่ลุยให้เต็มสูบ เก้าอี้พ่อบ้านพรรคมีหวังสะเทือนแน่แท้....

 

วันที่ 16 ต.ค.2564 พรรคก้าวไกล(กก.)ได้กำหนดจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2564  ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น  โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรค , สมาชิกพรรค, ส.ส.ของพรรค รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในหลายจังหวัดของภาคอีสาน เข้าร่วมประชุม(มีการเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ของพรรค   คือนายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น ในเขต อ.น้ำพอง,นายอดิศักดิ์ สมบัติคำ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.มหาสารคาม, นางอรนุช ผลภิญโญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ เขต อ.คอนสาร และนายวีรนันทร์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 )  และในวันนั้นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคยังได้ประกาศขออาสาเป็นนายกฯคนต่อไป

 

โดยก้าวไกลนั้นหวังที่จะล้างพิษงูเห่าสีส้มให้ได้รวมทั้งขยายจำนวนส.ส.ในขอนแก่นและเขตที่หวังชนะหลายเขต

วันที่ 20 ต.ค.2564  คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมด้วยนายพงศกร อรรณนพพร ประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ นายต่อพงษ์ ไชยสาสน์และทีมงานพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่มอบสิ่งของ พร้อมพบปะพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วมเทศบาลตำบลเมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยทสท.เปิดตัวนางสาวรัมภามาศ ทีฆธนานนท์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคไทยสร้างไทย จ.ขอนแก่น เขต 1 ซึ่งเป็นทายาทนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเมืองเก่าหลายสมัย 

 

คุณหญิงหน่อยมีนายพงศกรมายืนข้างกายและเป็นกำลังหลักในขอนแก่น เพราะอย่าลืมว่าตระกุลอรรณพพรนั้นยังมีส.ส.สองคนในพท. และการเดินสายเปิดตัวคนที่ใช่สำหรับทสท.ก็ต้องรีบดำเนินการ ไม่อย่างนั้นอาจโดนพรรคคู่แข่งชิงตัวไปได้

 

วันที่ 28 ต.ค. 2564  พรรคเพื่อไทย (พท.)จะจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี  ณ จังหวัดขอนแก่น  ในหัวข้อ “พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” โดยพท.นั้นหวังมาล้างตาและคว้าขอนแก่นกลับมาอยู่ในลิสต์ "ชนะยกจังหวัด" เพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้และเป็นจำนวนมือส.ส.ที่เป็นตัวแปรในการเป็นฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้านในยามหน้า


หากมองแบบนี้ ชี้ได้ว่า สามพรรคคือ พลังประชารัฐ-เพื่อไทย-ก้าวไกล ตั้งหมุดหมายการเมืองในอีสานไว้คือ"ขอนแก่น"และอาจจะมีบางจังหวัดที่พรรคเหล่านี้จะไปปักหมุดหมายการเมืองเพิ่ม (อาทิ อุดรธานี,อุบลราชธานี,นครราชสีมา) เพราะทุกพรรครู้ดีว่าชนะเลือกตั้งและเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้นั้น ส.ส.อีสาน 116เขต ในวันวาน(อาจเพิ่มขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า)

 

คือสิ่งที่พรรคต่างๆต้องปักธงในเขตเหล่านี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

แต่ตอนนี้พรรคใดสะดวกลุยพื้นที่ไหนที่คล้ายเป็นความหวังได้ก็ต้องลุยไปก่อน...เพราะหากล่าช้าจะสายเกินไปที่จะสมหวังในวันข้างหน้า
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ