คอลัมนิสต์

ปรากฎการณ์"ไพบูลย์ นิติตะวัน"เอฟเฟกต์ ส่งผลพรรคเล็กตีปีก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คำวินิจฉัยของศาลรธน.กรณี ไพบูลย์ นิติตะวัน เลิกพรรคประชาชนปฏิรูปเข้าสังกัดพลังประชารัฐ โดยไม่ทำให้เขาต้องพ้นสมาชิกภาพส.ส. กลายเป็นกรณีศึกษาให้พรรคการเมืองขนาดเล็กอื่นๆเริ่มขยับตาม เปลี่ยน-ย้าย"พรรค"กันวุ่น /เจาะประเด็นร้อน โดย เมฆาในวายุ

 

ยิ้มกันหน้าบานสำหรับ"นายไพบูลย์  นิติตะวัน" ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคพลังประชารัฐ หลังมติศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าการที่ "อดีตหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปและส.ส.เสียงเดียวของพรรค"ย้ายสังกัด  เพราะพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสุดสภาพการเป็นพรรคการเมือง ดังนั้นการที่นายไพบูลย์ย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ พรรคแกนนำตั้งรัฐบาลชุดนี้สามารถดำเนินการได้อย่างไร้ข้อครหา....

ไพบูลย์  นิติตะวัน  ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ

แน่นอนว่ากรณีคำวินิจฉัยศาลรธน.จะเป็น"คู่มือ"ให้พรรคจิ๋ว(พรรคหนึ่งเสียงที่ร่วมรัฐบาลคือ  พรรคพลังชาติไทย, พรรคประชาภิวัฒน์, พรรคพลังไทยรักไทย, พรรคประชานิยม, พรรคพลเมืองไทย, พรรคประชาธิปไตยใหม่,พรรคพลังธรรมใหม่ ) น่าจะเดินตามแนวทางนี้มาขึ้นเรือพปชร.

 

เพราะล่าสุด"นายพิเชษฐ์  สถิรชวาล" ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทยออกมาแบไต๋ให้รับรู้กันแล้วว่าเตรียมขยับตามนายไพบูลย์แน่นอน โดยอ้างสารพันเหตุผลทางกฎหมายที่บีบพรรคจิ๋วให้ขยับลำบาก  

พิเชษฐ์  สถิรชวาล ส.ส.พรรคประชาธรรมไทย

 

เป็นประการฉะนี้ พรรคพลังประชารัฐที่มีส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์ 119 คน น่าจะเพิ่มจำนวนผู้แทนราษฎรขึ้นมาในเร็ววันนี้จากบรรดาพรรคหนึ่งเสียง  และรอดูใกล้ๆวันที่กติกาหลักคือรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกชัดเจนขึ้นในช่วงกลางปีหน้าก็จะประเมินได้อีกว่าส.ส.และอดีตผู้สมัครส.ส.รวมทั้งคนหน้าใหม่การเมืองรายใด-จากพรรคไหนจะย้ายมาสังกัดพปชร.เพิ่มเติมบ้าง...(ตอนนี้หลายคนรู้ดีว่างูเห่าพรรคประชาชาติซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านคือ นายอนุมัติ ชูสารอ ส.ส.ปัตตานี ซึ่งทราบกันว่าใกล้ชิดบิ๊กพรรคพลังประชารัฐบางคนนั้นน่าจะเปลี่ยนขั้วในการเลือกตั้งคราวหน้าแน่นอน)

 

เท่ากับกำลังพลของพปชร.เพิ่มขึ้นค่อนข้างชัวร์จากพรรคจิ๋วเหล่านี้ในไม่กี่นาทีข้างหน้า

 

หันไปมองพรรคร่วมฝ่ายค้านกันบ้าง  เริ่มจาก "พรรคเพื่อไทย"นั้นจะขึ้นคำเตือนผู้แทนฯที่ไม่ทำตามมติพรรคในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุด

 

ปรากฎการณ์"ไพบูลย์ นิติตะวัน"เอฟเฟกต์ ส่งผลพรรคเล็กตีปีก

 

โดย 3 ส.ส.ที่ถูกภาคทัณฑ์และใช้เป็นเงื่อนไขในการพิจารณาส่งลงสมัคร ส.ส.สมัยหน้า คือ นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ, นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ , นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี ขณะที่ ส.ส.ที่ถูกว่ากล่าวตักเตือน 1 คน คือ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี และผู้ที่ยังไม่สามารถพิจารณาได้เนื่องจากพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะติดเชื้อโควิด-19 คือ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก

 

แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยต้องเสียนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์และนางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ในข้อหาขัดมติพรรค-ไม่ร่วมกิจกรรมพรรค ไปให้พรรคอื่นๆ โดยค่อนข้างแน่นอนว่า"เจ๊ก้อย"น่าจะไปขึ้นฝั่งรัฐบาล ส่วน"เอลวิสเมืองพิชัย"นั้นยังแทงกั๊ก

 

บวกกับกระแสเช็กชื่อว่าใครยังอยู่-ใครเริ่มปันใจย้ายขั้วบ้าง เพราะตอนนี้พรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคทยอยเดินสายเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.หลายจังหวัดไปแล้ว โดยผู้แทนฯเมืองหลวงรวมทั้งอีสานบางเขตของพท.นั้น รู้กันดีว่าสังกัดมุ้งของคุณหญิงหน่อย หากยังไม่ชัดเจน แม้"โทนี่ วู้ดซัม"จะออกมาการันตีอนาคตของพท.งวดหน้าว่าต้องแลนด์สไลด์เท่านั้น และอย่าลืมสาแหรกพรรคของพท.ที่แตกตัวไปคราวก่อนคือพรรคเพื่อชาติ-พรรคประชาชาติ-พรรคเสรีรวมไทยนั้น จะหาเหตุยุบรวมพรรคหรือไม่  หากกติกาบัตรสองใบนำมาใช้ พรรคแนวร่วมของพท.ก็เหนื่อยแน่ 

 

ปรากฎการณ์"ไพบูลย์ นิติตะวัน"เอฟเฟกต์ ส่งผลพรรคเล็กตีปีก

 

ส่วนพรรคที่มีความระส่ำมากสุด (แม้จะเก็บอาการไว้ได้บ้าง) นั้นคือ"พรรคก้าวไกล"  หลังเสีย"นายวินท์ สุธีรชัย" อดีตส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่ลาออกจะไปตั้ง"พรรครวมไทยยูไนเต็ด" ผนวกกับงูเห่าสีส้มเวอร์ชั่นสองในเบื้องต้น 6 เสียงที่ยังสังกัดพรรคนี้และแกนนำพรรคยืนยันไม่ขับออกจากพรรค (นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี, นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย ,นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย, นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ,นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. ) แปลว่า พรรคสีส้มเวอร์ชั่นสองน่าจะเหลือส.ส.วันนี้ที่เป็นเลือดแท้กว่า 40 ชีวิต

 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์  หัวหน้าพรรคก้าวไกล

 

อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้พรรคสีส้มเวอร์ชั่นแรกคือ"พรรคอนาคตใหม่" พบว่า ผลการเลือกตั้งส.ส.วันที่ 22 มี.ค.2562 "อนค."มีผู้แทนฯสองระบบรวม 81 คน (ส.ส.บัญชีรายชื่อ 50 คน,ส.ส.เขต 31 คน    

 

หลังจากนั้นนางจุมพิตา จันทรขจร ส.ส.นครปฐม เขต 5 ลาออกเนื่องจากป่วยไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ต้องเลือกตั้งซ่อม พรรคอนาคตใหม่พ่ายแพ้ให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา ทำให้เหลือ ส.ส. 80 คน  ) แต่เมื่อถูกตัดสินให้ยุบพรรคอนาคตใหม่นั้น  พรรคสีส้มเวอร์ชั่นสองที่ชื่อ"พรรคก้าวไกล"เหลือผู้แทนฯมาร่วมตั้งลำ 55 คน

 

ยามนั้นกระแสข่าว "งูเห่าสีส้ม" มีมาตั้งแต่การชิงจังหวะประกาศการตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยที่อ้างตัวว่าเป็น"ฝ่ายประชาธิปไตย" กับพรรคพลังประชารัฐที่โดนข้อครหาว่าเป็น"พรรคสืบทอดอำนาจคสช."  พบว่า คะแนนสองสภาในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่  5 มิ.ย.2562  มีผลดังนี้ 

 

500 เสียงสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์  จันทร์โอชา (19 พรรคการเมือง และ วุฒิสภา) ประกอบด้วย ส.ว. 249 เสียง, พลังประชารัฐ 116 เสียง,ประชาธิปัตย์ 51 เสียง,ภูมิใจไทย 50 เสียง,ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง,รวมพลังประชาชาติไทย 5 เสียง,ชาติพัฒนา 3 เสียง,พลังท้องถิ่นไท 3 เสียง,รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 เสียง,พลังชาติไทย 1 เสียง, "พรรคจิ๋ว"  10 เสียง

 

244 เสียงที่สนับสนุน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  ได้แก่,พรรคเพื่อไทย 136 เสียง,พรรคอนาคตใหม่ 79 เสียง,พรรคเสรีรวมไทย 10 เสียง,พรรคประชาชาติ 7 เสียง,พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 เสียง,พรรคเพื่อชาติ 5 เสียง,พรรคพลังปวงชนไทย 1 เสียง

 

งดออกเสียง 3 คน ประกอบด้วย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา, นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ,นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ  ส.ส. ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย 

 

และในวันนั้นมีหนึ่งปรากฏการณ์การเมืองคือ"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ลาออกจากการเป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่อาจสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเป็นสร.1ได้

 

ช่วงนั้นลือกันหึ่งว่า "งูเห่าสีส้ม"พร้อมปรากฏตัว เพียงแต่รอจังหวะเท่านั้น...ต่อมาปรากฏการณ์"งูเห่าสีส้มเวอร์ชั่นแรก"ฟักตัวออกจากไข่  ในการลงมติร่าง พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯและร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563  ส.ส.พรรคสีส้มเวอร์ชั่นแรกสี่คนที่โหวตสวนมติพรรค จน"อนค."มีมติขับ"กบฏ"ออกจากพรรค( สี่คนนั้นคือ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี ,พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี , น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่,นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี  ทำให้อนค.เหลือ ส.ส.76 คน  

 

โดยหลังจากสี่ส.ส.ถูกขับออกจากพรรค พบว่า  พ.ต.ท.ฐนภัทรย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ น.ส.ศรีนวลย้ายไปพรรคภูมิใจไทย น.ส.กวินนาถและนายจารึกย้ายไปอยู่พรรคพลังท้องถิ่นไท)

 

"งูเห่าสีส้มเวอร์ชั่นสอง" คือ หลังจากที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ    ส.ส.10 คนย้ายสังกัดไปอยู่ฝั่งรัฐบาล  โดย  9 คนย้ายไปพรรคภูมิใจไทย คือนายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี ส.ส.กทม., ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. ,นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. ,นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่, นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี, นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา ,นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น, นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ,นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนนายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร ย้ายไปพรรคชาติไทยพัฒนา 

 

ล่าสุดอดีตผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ในวันวานจ่อสละยานไปขึ้นกับพรรคอื่นๆกันแล้ว ล่าสุดคือ น.ส.ณิชชา บุญลือ  อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางกะปิ-วังทองหลาง พรรคอนาคตใหม่ โพสต์ภาพคู่กับคุณหญิงสุดารัตน์ไปแล้ว แปลว่าพรรค สีส้มเวอร์ชั่นสองภายใต้การนำของ"นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์"ที่ตอนนี้กำลังลุยพบมวลชนหลายจังหวัดนั้นยังฝันว่าจะมีผู้แทนฯเพิ่มหลายคนในคราวหน้า แต่ความจริงพบการไหลออกเนืองๆแบบนี้จะไปได้ดั่งฝันจริงหรือสำหรับพรรคก้าวไกล

 

รอจับตาการทิ้งไพ่จากคนการเมืองหลัง"ไพบูลย์เอฟเฟกต์"ว่าจะเกิดขึ้นตามบทวิเคราะห์นี้หรือไม่...และจะอ้างเหตุผลใดขึ้นมาชี้แจงกับสังคม
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ