คอลัมนิสต์

ศึก"ชิงพื้นที่"เพื่อไทย-ก้าวไกล ต้องหักดิบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พลัน เลขากกต.เข้าหารือ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รายงานกระบวนการยกร่างกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ย่อมทำให้ไทม์ไลน์การดำรงอยู่ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชัดขึ้น และยิ่งชัดขึ้นกับการ"ชิงพื้นที่"ในอนาคต/เจาะประเด็นร้อนโดย เมฆาในวายุ

พลันที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์  ภุมมา  เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เข้าหารือ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  ทำให้ปรากฎภาพเงื่อนเวลาของการดำรงอยู่ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับเส้นทางทางการเมืองที่เป็นไปในไม่ช้า แต่ยังมีภาพการ"แย่งชิงพื้นที่"ชัดขึ้นอีกด้วยโดยเฉพาะพรรคร่วมฝ่ายค้านระหว่าง เพื่อไทยและก้าวไกล อาจถึงขั้นต้องหักดิบ

 

“กกต.จะเป็นผู้จัดทำกฎหมายเลือกตั้งให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญ สำนักงาน กกต.ยกร่างเสร็จแล้ว 30 มาตรา ทั้งบัตร 2 ใบ รวมถึงวิธีการนับคะแนน จากนั้นจะเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ เมื่อ กกต.ใหญ่เห็นชอบแล้วจะรับฟังความเห็นปรับปรุงก่อนนำเสนอ ครม. ส่วนจะมีการนำเสนอครม.เมื่อไหร่อีกนานเลยกว่าทุกอย่างจะเสร็จ " วิษณุ เครืองาม  รองนายกฯ กล่าว 

 

บทสัมภาษณ์ข้างต้น แปลความได้เลยว่า รัฐบาลนี้มีเวลาทำงานเบาะๆครึ่งปีในการรอ” แก้กติกาหลักและกฎหมายลูก และยังไม่รู้ว่าบอลจะพลิกหรือไม่ในวันนั้น...

แต่อีกปรากฏการณ์หนึ่งที่สอดรับและน่าติดตามต่อคือ สิ่งที่”นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์” โพสต์เฟซ บุ๊กว่า “ครบรอบ 48 ปี เหตุการณ์ 14 ตุลาปีนี้ ขอประกาศจุดยืนการเมืองเรียกร้องประชาธิปไตย ขอยืนหยัดต่อสู้ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ให้เป็นประชาธิปไตยตามมาตรฐานสากล ขอยึดอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และเงื่อนไขของพรรคในการเข้าร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 256  (เงื่อนไขประชามติแก้ไขรธน.)และการปิดสวิตช์ ส.ว.ในมาตรา 272 เป็นเบื้องต้นให้สำเร็จก่อน ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบและเปลี่ยนแปลงสัดส่วน ส.ส.จากระบบเขต 350 เขตเป็น 400 เขต และระบบบัญชีรายชื่อจาก 150 คนเป็น 100 คน เป็นประเด็นปลีกย่อยแค่กระพี้ไม่ใช่แก่นแท้ประชาธิปไตย ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน ยืนหยัดสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงโดยเร็วที่สุด”

 

ตรงนี้แปลว่าอะไรกับสิ่งที่ “เดอะคึก เมืองคอน”ออกมาโพสต์ปั่นกระแสเคียงข้างในยามนี้....

 

เเน่นอนว่า ส.ส.ทั้งหลายย่อมไม่แฮปปี้กับกติกาหลักที่วางไว้ในยุคคสช.เพื่อให้พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำหน้าที่อย่างไร้รอยต่อคือเป็นนายกรัฐมนตรีสองช่วง(ยุคคสช.และยุคเลือกตั้ง) และในบทเฉพาะกาลนั้นสภาสูงยังเหลือสิทธิการลงมติเลือกสร.1ได้อีกหนึ่งวาระ( อธิบายง่ายๆเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ส.ว.ลงมติเลือกลุงตู่พร้อมกับสภาผู้แทนฯ โดยรัฐบาลมีวาระทำงานสี่ปี หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้า สมมติว่ารัฐบาลนี้ทำงานครบหรือเกือบครบวาระ ส.ว.ก็ยังเหลือสิทธิเลือกประมุขฝ่ายบริหารอีกหนึ่งครั้ง)

แต่ร่างแก้ไขรธน.สิบสามฉบับที่ชงขึ้นมาเมื่อคราวก่อนก็มีการเสนอเรื่องนี้ไว้ด้วยแต่ไม่ผ่านเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกรัฐสภา(ส.ส.และส.ว.ร่วมลงมติ) ดังนั้นสิ่งที่”เดอะคึก เมืองคอน” ปั่นกระแสขึ้นมาอีกครั้งนั้น จะปั่นขึ้นหรือไม่และจะเกิดเมื่อใด....

 

เพราะที่ผ่านมาหลายพรรคไม่เห็นด้วยกับกติกาหลักฉบับนี้ แต่เมื่อมีจังหวะแก้ไขได้ในบางมาตราก็ดำเนินการไปแล้ว แต่แก่นแท้ประชาธิปไตยตามที่”เดอะคึก เมืองคอน”ระบุไว้กลับมิได้โดนแตะต้อง แบบนี้มิต้องคิดเยอะ เพราะแน่นอนว่าคนที่ยังพอได้เปรียบในกติกานี้คือ”ลุงตู่” เพราะมีแบ็กอัพไว้ในมือแน่นอนแล้ว”สองร้อยห้าสิบชีวิต”

 

แบบนี้แปลว่าหากแคนดิเดตนายกฯจากพรรคต่างๆที่เสนอชื่อไว้ช่วงหาเสียงและต้องมาประชันกันสองชีวิตบนเวทีย่านเกียกกาย(ว่าที่ฝ่ายรัฐบาลและว่าที่ฝ่ายค้านเสนอชื่อว่าที่นายกฯได้ฝั่งละหนึ่งชื่อ)ในวันข้างหน้า แน่นอนว่าส.ส.แต่ละฝั่งย่อมหนุนคนของตัวเอง แต่จุดชี้ขาดคือ”สภาสูง” หากส.ว.ลงน้ำหนักไปในทางใดทางหนึ่ง ฝ่ายนั้นย่อมมีสิทธิสูงที่จะเดินเข้าตึกไทยคู่ฟ้า (เหมือนการลงมติเลือกนายกฯครั้งที่แล้วระหว่างพลเอกประยุทธ์กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ(พรรคเพื่อไทยถอนสามแคนดิเดตนายกฯและมอบสิทธิให้อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่แทน)

 

แต่ยามนี้กลับพบว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ขยับกับการปลดล็อกส.ว.เพื่อไม่ให้สภาสูงเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกนายกฯ เมื่อเป็นเช่นนี้ อนุมานขั้นต้นได้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลน่าจะแพ็คกันต่อ...แล้วไปวัดดวงกันหลังเลือกตั้งว่าแคนดิเดตนายกฯของพรรคใดควรทำหน้าที่ผู้นำประเทศ(ดูจำนวนส.ส.ของแต่ละพรรคที่จะมาตั้งรัฐบาล/การแบ่งโควตากระทรวง/ร่างนโยบายรัฐบาล) ดังนั้นแนวโน้มพรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้น่าจะมีสิทธิได้ไปต่อกับมติของส.ว.

 

ส่วนขั้วตรงข้ามคือพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันนี้ หากบางพรรคไม่สวิทช์ขั้วก็น่าจะจองสิทธิว่าที่ฝ่ายค้านต่ออีกสมัยหนึ่ง และรอดูพรรคน้องใหม่ที่แตกตัวจากพรรคต้นสังกัดเดิมและพร้อมลงสนามแล้วว่า จะไปแตะมือขั้วใดในวันข้างหน้า(หากมีส.ส.แจ้งเกิดได้)

 

ดังนั้นเมื่อพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลในฐานะหัวหอกต้านลุงตู่ต้องหวังที่จะคว้าส.ส.ให้มากสุด เพื่ออาศัยฉันทามติในการตั้งรัฐบาลใหม่ บัตรเลือกตั้งสองใบ(ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ)ย่อมทำให้บางพรรคได้เปรียบ/เสียเปรียบ แต่ตามหน้าเสื่อแล้วอัตราต่อรองของพรรคเพื่อไทยน่าจะมีมากที่สุดกับส.ส.สองระบบ และการต่อสู้เพื่อชิงมวลชนนั้นพรรคเพื่อไทยตอนนี้เน้นน้ำหนักมาไฟท์กับพรรคก้าวไกลแบบไม่เป็นทางการในตอนนี้(อย่าลืมรอยหมางบนกระดานการเมืองที่เคยมีเป็นระยะระหว่างแกนนำพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะในช่วงศึกซักฟอกและการลงมติร่างกฎหมายบางฉบับในวันวาน) เพราะ”โทนี วู้ดซัม”ออกมาขยับในคลับเฮ้าส์ช่วงแปดเดือนมานี้มันชัดแล้วว่านำนโยบายเก่าๆสมัยไทยรักไทยฟีเวอร์มาปัดฝุ่นและไกด์ไลน์คร่าวๆให้เพื่อไทยเดินตาม

 

บวกกับเคยสอนมวยพรรคสีส้มเวอร์ชั่นสองไว้บ้างในบางคราว (แน่นอนว่าทุกครั้งย่อมมีการคอมเม้นท์หนักๆไปยัง3ป.ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจากปากของโทนี วู้ดซัม แต่แปลกว่าโทนี วู้ดซัมแทบไม่คอมเม้นท์พรรคร่วมเรือเหล็ก)นัยว่าชิงมวลชนกันล่วงหน้ากันแล้วของสองพรรคแกนนำฝ่ายค้าน

 

แต่พรรคก้าวไกลของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็เน้นลงพื้นที่หลายจังหวัดเพื่อหวังชิงคะแนนและปักธงส.ส.เขตให้ได้( โดยเฉพาะภาคอีสาน เพราะอย่าลืมว่าชาวบ้านในภาคนี้ยังนิยมสีแดง (แม้จะสู้ไปกราบไป)และบางส่วนปันใจให้สีส้ม(เพราะยังยืนสู้แบบไม่เกรงกลัว)ตรงนี้อาจเป็นช่องให้พรรคก้าวไกลบุกไปชิงแต้มจากพรรคเพื่อไทย )  

 

เพราะอย่างน้อยๆหนึ่งเขตเลือกตั้ง  ประชาชนหนึ่งคนใช้สิทธิเลือกตั้งส.ส.ได้สองใบ ใบหนึ่งคือ ส.ส.เขต คะแนนอาจจะเป็นของเพื่อไทย แต่บัญชีรายชื่ออีกหนึ่งคะแนนนั้น พรรคสีส้มเวอร์ชั่นสองอาจได้ไป( มีความเป็นไปได้สูงในการชิงแต้มของสองพรรคนี้)เว้นแต่ว่าผู้สมัคร ส.ส.เขตของพรรคสีส้มเวอร์ชั่นสองจะดี/เด่น/ดังกว่าพรรคเพื่อไทย

 

ตรงนี้คิดหรือว่าโทนี วู้ดซัมจะอ่านหมากของพรรคก้าวไกลไม่ออก ดังนั้นในยามหน้าคงต้องจับตาการหักดิบเฉือนคมของสองพรรคแกนนำฝ่ายค้านว่าจะเปิดศึกอย่างเป็นทางการเมื่อใด และรอดูว่าพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รวมทั้งพรรคเส้นทางใหม่ของนายจาตุรนต์ ฉายแสง จะแชร์แต้มจากพรรคเพื่อไทยอย่างไร เนื่องจากสองพรรคนี้แตกหน่อจากพรรคเพื่อไทย

 

ตรงนี้คือการบ้านที่โทนี  วู้ดซัมต้องวางแผนอีกชั้นหนึ่งและผลจะออกมาเช่นใด รอชม...

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ