คอลัมนิสต์

ป่วนแก้ รธน. ‘อนุทิน’ กอดสูตรมีชัย ขวางบัตร 2 ใบ

ป่วนแก้ รธน. ‘อนุทิน’ กอดสูตรมีชัย ขวางบัตร 2 ใบ

24 ส.ค. 2564

แก้รัฐธรรมนูญส่อแท้ง ‘อนุทิน’ ขวางสุดตัว พรรคภูมิใจไทยงดออกเสียง คว่ำบัตร 2 ใบ กับดักพรรคใหญ่ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

การแก้ไขรัฐธรรมนูญเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง ส.ส. เป็น “บัตร 2 ใบ” ส่อแววไม่ไปรอด เพราะชั้นกรรมาธิการ ได้แก้เกินหลักการ พรรคก้าวไกลเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ และพรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วย เล่นบท “งดออกเสียง” และ “งดใช้เสียง”

 

 

ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา 24-25 ส.ค.2564 มีระเบียบวาระสำคัญเป็นการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมชั้นวาระ 2 พิจารณารายมาตรา ว่าด้วยเรื่องระบบเลือกตั้ง ประเมินแล้ว พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ อาจผิดหวัง เพราะความไม่ช่ำชองเรื่องกฎหมาย

 

 

วันที่ 24 ส.ค.2564 พรรคภูมิใจไทย โดย ภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง ที่มีการเปลี่ยนบัตรเลือกตั้งเป็น 2 ใบ และจำนวน ส.ส.แบ่งเขต 400 คน แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ซึ่งพรรคภูมิใจไทย มีมติ 2 งด คือ งดออกเสียง และงดใช้เสียง

 

 

หลังการประชุมภายในของพรรคภูมิใจไทยที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ส.ค.2564 มีข่าวว่า ค่ายเซราะกราวจะโหวตไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งวาระ 2 และวาระ 3 แต่อาจมีการต่อรองกันของผู้ใหญ่ในพรรคร่วมรัฐบาล จึงมีมติแค่ “งดออกเสียง”

อนุทิน ชาญวีรกูล” ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญเรื่องระบบเลือกตั้งมาแต่แรก เพราะระบบเดิม บัตรใบเดียว-จัดสรรปันส่วนผสมนั้น ดีอยู่แล้ว

 

 

นับแต่รัฐประหาร 2549 มีการร่างรัฐธรรมนูญ 2550 และกำหนดระบบเลือกตั้งแบบพิสดาร คือ บัตร 2 ใบ ส.ส.เขตนั้นเลือกแบบพวงใหญ่ ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบสัดส่วนแต่ละภาค แทนที่ระบบบัตร 2 ใบ ในรัฐธรรมนูญ 2540 ที่เอื้อต่อพรรคใหญ่

 

 

ป่วนแก้ รธน. ‘อนุทิน’ กอดสูตรมีชัย ขวางบัตร 2 ใบ

ทีมคนหนุ่ม ค่ายสีน้ำเงินขวางแก้เป็นบัตร2ใบ

 

ปี 2554 มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยระบบเลือกตั้ง เป็นบัตร 2 ใบ คล้ายรัฐธรรมนูญ 2540 แต่ปี 2560 ระบบเลือกตั้งก็เปลี่ยนเป็น “บัตรใบเดียว” จัดสรรปันส่วนผสม

ว่ากันตามตรง การออกแบบกติกาข้างต้น เพื่อสกัดการเติบใหญ่ของพรรคการเมืองในเครือข่ายของทักษิณ ชินวัตร แต่ผลเลือกตั้งทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า จะแก้กติกาอย่างไร พรรคของทักษิณก็ชนะ ได้เป็นพรรคอันดับหนึ่ง

 

++

ใบเดียวตอบโจทย์

++

หากดูผลเลือกตั้งทั่วไป ปี 2562 ระบบเลือกตั้งจัดสรรปันส่วนผสม และมีบัตรใบเดียว เป็นกติกาที่ตอบโจทย์พรรคภูมิใจไทยมากที่สุด

 

 

ช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้แจ้งให้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ได้รับทราบว่า ไม่ชนะไม่เป็นไร แต่ขอให้ทำแต้ม “เขตละ 1 หมื่นคะแนน” หากใครทำยอดได้ “2 หมื่นคะแนน” มีโบนัสให้

 

 

ผลเลือกตั้งปี 2562 พรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส.เขต 39 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 12 คน รวมทั้งสิ้น 51 คน (ยังไม่รับรวมกลุ่ม ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล)

 

 

ภาคอีสาน ได้ ส.ส.เขต เป็นกอบเป็นกำจากสนามบุรีรัมย์เท่านั้น นอกนั้นเก็บเล็กผสมน้อย ทั้งนครราชสีมา,ศรีสะเกษ,สุรินทร์ และเลย รวมแล้ว มี ส.ส.อีสาน 16 คน ขณะที่พรรคเพื่อไทย ได้ 84 คน

 

 

ภาคกลาง มี ส.ส.เขต 15 คน ส่วนใหญ่ก็เป็นฐานเสียง “บ้านใหญ่” ไม่ว่าจะเป็นปราจีนบุรี และอุทัยธานี

 

 

ภาคใต้ ได้สร้างปรากฏการณ์พิเศษ มี ส.ส.ถึง 8 คน ตรงข้ามกับภาคเหนือ ที่ไม่มี ส.ส.เลย เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร

 

 

ดังนั้น หากกลับไปใช้กติกา “บัตร 2 ใบ” ตามรัฐธรรมนูญ 2540 พรรคภูมิใจไทย จะเสียเปรียบ อาจกลายเป็นพรรคขนาด 20 ที่นั่งเท่านั้น

 

++

แค่ตัวทำแต้ม

++

นาทีนี้ พรรคภูมิใจไทย มี ส.ส. 61 คน เพราะได้ ส.ส.มาเพิ่มอีก 10 คน จากพรรคอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล (แยกเป็น ส.ส.เขต 8 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 คน)

 

 

ป่วนแก้ รธน. ‘อนุทิน’ กอดสูตรมีชัย ขวางบัตร 2 ใบ

เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ของค่ายสีน้ำเงิน

 

ว่ากันตามจริง ส.ส.เขต 8 คน ที่มาจากค่ายสีส้ม หากประเมินกันตามความเป็นจริง โอกาสชนะในครั้งต่อไป ถือว่ายากมาก

 

 

แม้แต่อีก 3 ส.ส.เขต ค่ายสีส้มที่เตรียมตัวจะย้ายซบภูมิใจไทย อย่าง พีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย ,เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย และขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี ก็เสี่ยงต่อการสอบตกทั้งนั้น

 

 

ดังนั้น ส.ส.เก่าจากค่ายสีส้ม คงเป็นตัวช่วยทำแต้ม เพื่อหวังได้เก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มเท่านั้น เมื่อมองโดยภาพรวมแล้ว “เสี่ยหนู” จึงเลือกที่จะเอาระบบเลือกตั้งแบบเดิม