คอลัมนิสต์

“เศรษฐา ทวีสิน” ซีอีโอแสนสิริ มีคำตอบเรื่องการเมือง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เอาจริงมั้ย “เศรษฐา ทวีสิน” บอสใหญ่แสนสิริ หอมกลิ่นการเมือง จะเลือกเพื่อไทยหรือ Call Out รายวัน คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

โลกยุคดิจิตอล มีนักธุรกิจใหญ่ในเมืองไทยไม่กี่คน ที่กระโจนเข้ามาเล่นโซเชียล และแสดงความเห็นทางการเมือง แม้อาจจะดูสุ่มเสี่ยงกับการถูกมองว่า อยู่ฟากฝั่งการเมืองสีไหน

 

สำหรับ “เศรษฐา ทวีสิน” ซีอีโอบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) นักธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทย ได้สื่อสารเรื่องราวขององค์กร ,เศรษฐกิจ,สังคม,ไลฟ์สไตล์,กีฬา และการเมือง ผ่านทวิตเตอร์ @Thavisin ทุกวัน

 

นับแต่ปลายปีที่แล้ว “เศรษฐา” ได้ใช้โชว์จุดยืนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเยาวชนบนท้องถนน และวิจารณ์การแก้วิกฤตการเมืองของรัฐบาลประยุทธ์ต่อเนื่อง กระทั่ง เกิดการระบาดของโควิดรอบใหม่ เจ้าของอาณาจักรแสนศิริ ได้ออกมากระทุ้งรัฐบาลบ่อยครั้ง

 

“เศรษฐา ทวีสิน” ซีอีโอแสนสิริ มีคำตอบเรื่องการเมือง

ทวิตเตอร์ของ เศรษฐา ทวีสิน

อย่างเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2564 เศรษฐา ทวีตข้อความว่า “เศรษฐกิจ-การเมืองต้องไปด้วยกัน เศรษฐกิจโตแต่การเมืองไม่ดี ประเทศก็ไม่สงบ ผมขอ Call Out ให้รัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญและจริงใจแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำ คนรวยรวยขึ้น คนจนจนลง คนตัวเล็กเข้าไม่ถึงวัคซีนล้มตายมากมาย พวกท่านไม่เห็นหรือ ต้องฟังเสียงประชาชนบ้าง อย่าฟังแต่เสียงเยินยอที่อยากได้ยิน”

มิเพียงเท่านั้น ท่ามกลางความสิ้นหวังของผู้คน เศรษฐา ได้ขายฝันแนวทางการสร้าง “เศรษฐกิจไทย” ยุคหลังโควิด ผ่านสื่อออนไลน์หลายสำนัก มาถึงวันนี้ มีคนเริ่มจับตามองการขยับตัวของเขา ว่าจะเข้าสู่การเมืองหรือไม่?

 

++

เรื่องบังเอิญ

++

ชีวิตส่วนตัวของ เศรษฐา ทวีสิน วัย 58 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโท (บริหารธุรกิจ-การเงิน) Claremont Graduate School สหรัฐอเมริกา เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ อภิชาติ จูตระกูล และ วันจักร์ บุรณศิริ ซึ่งถือเป็น 3 ทหารเสือที่นำพาบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ให้ขับเคลื่อนในวงการอสังหาริมทรัพย์

 

 

10 ปีที่แล้ว ชื่อของ “เศรษฐา” ตกเป็นข่าวดังพาดพันกับการเมืองไทย แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธว่า ไม่เคยคิดจะเล่นการเมือง ต่างจากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บางคนที่เปิดหน้าแสดงตัวว่า ฝักใฝ่ฝ่ายไหน

 

ช่วงวิกฤตโควิด เศรษฐา ได้จัดทำโครงการช่วยเหลือประชาชนในหลายด้าน พร้อมเขียนบทความมองข้ามช็อตเตรียมความพร้อมหลังมรสุมลูกนี้จบ พร้อมข้อเสนอ 8 ข้อ ให้รัฐบาลและทุกภาคส่วนช่วยกันพิจารณา

 

ตรงจุดนี้แหละ ที่หลายฝ่ายจับตามองตัวเขามากขึ้น และโยงไปหา “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังหา “ผู้นำ” มาเป็นจุดขายใหม่ของพรรคเพื่อไทย

 

บังเอิญเหลือเกิน ช่วงเดือน ก.ค.2564 จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 พรรคเพื่อไทย ได้ประสานงานช่วยเหลือโรงพยาบาลในพื้นที่ขยายโรงพยาบาลสนาม ซึ่ง ส.ส.จิราพร โพสต์เฟซบุ๊ค ขอบคุณภาคเอกชนรายหนึ่ง ที่ส่งเตียงสนามให้โรงพยาบาลพนมไพร และโรงพยาบาลโพนทราย และโรงพยาบาลหนองฮี

 

ภาคเอกชนรายนั้น ก็คือ “เศรษฐา ทวีสิน” ซีอีโอแสนสิริ ที่ทวีตข้อความว่า “แสนสิริซื้อเตียงกระดาษ ส่งไปช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดที่ต่างจังหวัด ครั้งนี้ส่งไปสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ เพื่อส่งต่อไปที่ รพ.สนามที่ขาดแคลนเตียง...”

 

รูปธรรมข้างต้นนี้ มองว่างานช่วยเหลือสังคมก็ได้ หรือจะข้ามช็อตไปถึงเส้นทางการเมืองของ "เศรษฐา ทวีสิน" ก็ได้เช่นกัน

 

++

ไม่เป็นนายกฯ

++

สุดสัปดาห์ที่แล้ว “เศรษฐา” ไปร่วมวงเสวนาทางข่าวสด-Clubhouse ว่าด้วยเรื่องโควิด สุขภาพและเศรษฐกิจไทย แต่ก็ถูกถามว่า มีเสียงเชียร์ให้เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม มีความสนใจบ้างหรือไม่

 

 

เศรษฐา ตอบว่า “ไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน ตอนนี้ผมมั่นใจว่าผมยังไม่สามารถที่จะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยได้..ผมว่ามันไม่ใช่ เพราะต้องแบกภาระของประชาชน 70 ล้านคนไว้ ถ้าเราทำไม่ได้มันไม่ใช่เราพังคนเดียว มันพังทั้งประเทศ”

“เศรษฐา ทวีสิน” ซีอีโอแสนสิริ มีคำตอบเรื่องการเมือง

เศรษฐา ทวีสิน

 

นอกจากนี้ เศรษฐายังเสนอว่า “ผมเชื่อว่ามีผู้ใหญ่หลายท่านที่มีความสามารถ มีความเหมาะสม มีความพร้อมมากกว่า นักการเมืองก็ไม่ใช่หมายความว่าจะใช้ไม่ได้ ก็มีหลายท่านหลายพรรคที่เสนอตัวอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติ และไม่ใช่ว่านาย ก นาย ข หรือจะเป็นนายเศรษฐามานั่งได้ ผมว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ”

 

 

นี่คือท่าทีของซีอีโอแสนศิริ ต่อข้อสงสัยของหลายคนว่า เขาจะลงมาลุยการเมืองหรือไม่? เนื่องจากระยะนี้ เขาได้แสดงบทบาทผู้นำทางความคิดในการแก้ไขวิกฤตชาติบ่อยครั้ง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง