คอลัมนิสต์

ที่เก่าเวลาเดิม "ม็อบ 15 สิงหา" ปะทะเดือด "ดินแดง" ขยับใกล้จลาจล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ป่วนไล่ประยุทธ์ "ม็อบ 15 สิงหา" สายปะทะไม่ฟังสายสันติ แก๊สน้ำตากลบคาร์ปาร์ค คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ม็อบ 15 สิงหา ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.ออกแบบ “คาร์ปาร์ค” ไว้อย่างดี หวังสร้างมิติใหม่การชุมนุมทางการเมือง โดยไม่มีเหตุปะทะ เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ด่วน "ไฮโซลูกนัท" ตาบอด หลังถูกยิงขณะร่วมม็อบ13สิงหา

เคลื่อนแล้วขบวน "Car Park"  ณัฐวุฒิ นำขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์

"ม็อบ15สิงหา" ปะทะเดือด สามเหลี่ยมดินแดง แก๊สน้ำตาปลิวว่อน มวลชนเจ็บหลายราย

 

ช่วง 17.00 น. วันที่ 15 ส.ค.2564 ตามเวลานัดเป๊ะ กลุ่ม “สองล้อจรยุทธ์” ยกขบวนมายังบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ถ.วิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าบ้านพัก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี(ภายใน ร.1 รอ.ทม.) ซึ่งเป็นจุดที่มีการปะทะกันไปหลายครั้งระหว่างเจาหน้าที่ตำรวจ คฝ. และกลุ่มผู้ชุมนุม ไปก่อนหน้านี้ 

 

เมื่อเจอกำแพงกั้น กลุ่มวัยรุ่นได้ปาประทัดยักษ์และก้อนหินข้ามผ่านตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งคาดว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ตั้งแถวอยู่ ซึ่งมีเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะยิงแก๊สนํ้าตา และฉีดนํ้าแรงดันสูงใส่เป็นการตอบโต้

เหมือนฉายหนังม้วนเก่า ม็อบ 1 สิงหา, ม็อบ 7 สิงหา, ม็อบ 10 สิงหา, ม็อบ 11 สิงหา และม็อบ 13 สิงหา รวมถึงม็อบ 15 สิงหา ซึ่ง “ณัฐวุฒิ” ออกตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว หากเกิดเหตุปะทะ ก็ไม่เกี่ยวกับคาร์ปาร์ค เพราะเขาชูธงสันติ


พลันที่มีเสียงพลุ แก๊สน้ำตาที่สมรภูมิสามเหลี่ยมดินแดง สิ่งที่เรียกว่า “คาร์ปาร์ค” ของณัฐวุฒิ ก็ถูกกลบไปด้วยข่าวสาร “ม็อบเดือด” รอบใหม่ ณ ที่เก่าเวลาเดิม

 

ที่เก่าเวลาเดิม "ม็อบ 15 สิงหา" ปะทะเดือด "ดินแดง" ขยับใกล้จลาจล

นักข่าวภาคสนามบางสำนักระบุว่า ผู้ชุมนุมกลุ่มที่มาเปิดศึกกับ คฝ.นั้น แยกตัวมาจากขบวนคาร์ม็อบของกลุ่มทะลุฟ้า ขณะที่ขบวนสองล้อกลุ่ม “ม่อน อาชีวะ” มุ่งหน้าแยกราชประสงค์

 

++
สองล้อจรยุทธ์
++

มีข้อน่าสังเกตจากเหตุปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุม กับตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ที่สามเหลี่ยมดินแดง 6-7 ครั้ง ส่วนใหญ่จะเกิดเหตุหลัง “คนทำม็อบ” ประกาศยุติการชุมนุมไปแล้ว

 

ผู้จัดการชุมนุม จะใช้สื่อใหม่อย่างเฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ นัดหมายคนมาทำกิจกรรม ถึงเวลาก็โพสต์ข้อความ “ยุติการชุมนุม” โดยไม่ต้องรับผิดชอบเหตุปะทะใดๆ ที่เกิดขึ้นภายหลัง นักวิเคราห์การเมืองบางคน เรียกว่า “ฮ่องกงโมเดล”

 

ผู้ชุมนุมที่อยู่แถวหน้าปะทะตำรวจ คฝ. จะเป็นกลุ่มเยาวชน ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์เข้าร่วมขบวนม็อบ มีทั้งอาชีวะ และวัยรุ่นทั่วไป ซึ่งไม่มี “แกนนำ” ที่ชัดเจน

 

ที่น่าสนใจ การเคลื่อนไหวของ “สายปะทะ” หรือ “สายบวก” จะมีกลุ่มยูทูบเบอร์ ที่ทำตัวเป็นสำนักข่าวภาคประชาชน คอยติดตามรายงานสดทุกครั้ง 

 

จะว่าไปแล้ว ขบวนการสายบวก มิใช่เกิดโดยธรรมชาติ หากมี “ตัวละครลับ” คอยกำกับการแสดง ฉากเขย่าขวัญรัฐบาล และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหมด้วยเหตุการณ์ “ปะทะเดือด” รายวัน 

เกมนี้เกมยืดเยื้อ ใครจะอดทนได้นานกว่ากัน เพราะ “จอมบงการ” ป่วน ก็รู้ว่า หากถึงขั้นจลาจล จะตามมาด้วยกฎอัยการศึก และกองทัพออกสู่ท้องถนน

++
พลังโกรธแค้น
++

พิชิต ลิขิตสมบูรณ์ โพสต์เฟซบุ๊คเรื่อง “แนวทางของฝ่ายรัฐในวันนี้คือการเดินสองขา” โดยอธิบายความว่า “ด้านหนึ่งใส่คดีและคุมขังแกนนำด้วยทุกข้อหาที่นึกได้ทับถมเข้าไป อีกด้านหนึ่งจากที่เคยปล่อยให้มวลชนชุมนุม มีกิจกรรมจนยุติแล้ว ค่อยสลายกลุ่มที่รั้งข้างหลัง เปลี่ยนมาใช้กำลังรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม ไม่ให้มวลชนระดมกันมาทัน และรวมตัวกันติดจนเป็นก้อนใหญ่..”

 

ที่เก่าเวลาเดิม "ม็อบ 15 สิงหา" ปะทะเดือด "ดินแดง" ขยับใกล้จลาจล

นักวิชาการสายสีส้ม ประเมินแนวทางปราบม็อบของรัฐว่า “หวังผลให้แกนนำหมดสิ้นบทบาทอยู่ในเรือนจำ ขณะที่การชุมนุมข้างนอกก็ฝ่อลงเรื่อยๆ จนสลายไป”

 

พิชิตจึงชี้ว่า “ความรุนแรงจากฝ่ายรัฐมีแต่จะทำให้ผู้คนยิ่งโกรธแค้น ผลด้านกลับคือจำนวนคนที่เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ จะมีมากขึ้น การปะทะกันจะยิ่งบานปลาย และรุนแรงต่อไปโดยที่แม้แต่ผู้จัดชุมนุมก็ควบคุมไม่ได้”

 

ที่เก่าเวลาเดิม "ม็อบ 15 สิงหา" ปะทะเดือด "ดินแดง" ขยับใกล้จลาจล

สถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ อาจเพิ่มทวีความรุนแรง กลายเป็น “จลาจล” เหมือน 14 ตุลา และพฤษภา 35 นักวิชาการบางคนแอบหวังที่จะให้เกิด “จลาจลแบบไม่เสียของ”

 

อย่างไรก็ตาม การลุกฮือของมวลชน ด้วยความโกรธแค้น แบบไม่มีพรรคนำ ไม่มีการจัดตั้ง ปรมาจารย์การปฏิวัติชี้ว่า นี่คือ จลาจลและอนาธิปไตย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ