คอลัมนิสต์

"รัฐบาลจิตตก" กลัวแม้กระทั่งคำพูด "ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ล็อกดาวน์- เคอร์ฟิว" มีอะไรอยู่เบื้องหลังของคำพูด 2 คำนี้ถึงทำให้ "รัฐบาลจิตตก" กลัวจนไม่กล้าใช้ แม้ไม่ใช่เหตุการณ์แรกสำหรับประเทศไทยที่มีการเลี่ยงบาลีเช่นนี้

การการเลี่ยงบาลี คำว่า "ล็อกดาวน์- เคอร์ฟิว" เพื่อให้ดูสวยงาม สร้างคำพูดใหม่ วลีใหม่ เพื่อที่จะกระทำการแบบเดิมๆ ได้ผลแบบเดิมๆ แต่ไม่ต้องรับผิดชอบการกระทำ เหมือนเป็นการหนีเงาตัวเองของผู้รับผิดชอบและผู้บริหารประเทศ

ในระหว่างที่ประชาชน ต้องรอลุ้น ผลการประชุม ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ จะพิจารณา ข้อเสนอมาตรการควบคุมโรครอบใหม่ ของกระทรวงสาธารณสุข ในวันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม นี้ จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวัน ก็กำลังพุ่งขึ้นต่อเนื่องใกล้แตะหลักหมื่นรายต่อวัน

กระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอ 5 มาตรการ ต่อ ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณา ด้วยเหตุผล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้

1. การนำเอาชุดตรวจวัดแบบ Rapid Antigen Test มาใช้งาน เพื่อลดปัญหาการเกิดคอขวดจากการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะใช้เวลานานกว่าจะทราบผล ตัว Rapid Antigen Test นี้ ในช่วงแรกจะอนุญาตให้ใช้ในสถานพยาบาลเป็นหลักก่อน และในระยะต่อไปถึงจะอนุญาตให้นำไปใช้ในกลุ่มประชาชนทั่วไป สำหรับตรวจด้วยตนเอง

2. การจัดการระบบกักตัวดูอาการที่บ้าน หรือ Home Isolation สำหรับผู้ป่วยโควิดที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ ซึ่งรวมไปถึงการจัดตั้งระบบ Community Isolation ในชุมชน เพื่อลดปัญหาความแออัดและไม่เพียงพอของเตียงในสถานพยาบาลต่าง ๆ

3. เข้มงวดมาตรการด้านสาธารณสุข สวมหน้ากาก ล้างมือ

4. แผนการฉีดวัคซีน ที่จะต้องเร่งฉีดให้กับพื้นที่เสี่ยง กลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ และผู้ที่เป็น 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง โดยจะให้โควตาวัคซีนในกลุ่มนี้ไม่ต่ำกว่า 80% ของปริมาณวัคซีนที่มี ซึ่งใน 1-2 สัปดาห์หน้า

5. มาตรการทางสังคม เป็นมาตรการสำคัญยิ่ง กระทรวงสาธารณสุข จะเสนอยกระดับมาตรการทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจำกัดการเดินทาง อยากให้ทุกคนอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ไม่จำเป็นไม่ต้องออกจากบ้าน โดยจะกำหนดเงื่อนไขยกเว้นที่จำเป็น อาทิ การหาซื้ออาหาร หรือสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต การออกไปฉีดวัคซีน เป็นต้น

ใน 5 มาตรการที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอต่อ ศบค. นั้น จะเห็นได้ว่าเป็นมาตรการที่ปฏิบัติอยู่แล้ว ยกเว้น ข้อ 1 กับ ข้อ 2 ที่จะเพิ่มขึ้นมา ซึ่งเดิมถูกจำกัดไว้ในความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุข จนเกิดความเสียหาย ปรากฏภาพ ผู้ป่วยรอเตียง รอคิวตรวจ เป็นภาพชินตา หลายรายเสียชีวิตโดยไม่ได้รับการรักษา ที่โหดร้ายที่สุด คือ เสียชีวิตโดยไม่ได้รับการตรวจด้วยซ้ำไป

สำหรับ มาตรการ ข้อ 4 จะประกาศเป็นมาตรการเร่งด่วนขนาดไหน ก็คงไม่สามารถช่วยอะไรได้ เมื่อ วัคซีนไม่มาตามนัด เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลโดนตรง ที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

มาตรการ ข้อที่ 5 ประชาชนปฏิบัติอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดและการบริหารงานที่ขาดเอกภาพ เป็นการสั่งการโดยไม่พิจารณาผลลัพธ์ที่จะตามมา และมีความเหลื่อมล้ำในการปฏิบัติ จึงทำให้ผลที่ได้ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ยกตัวอย่าง เช่น การสั่งปิดแคมป์คนงาน โดยไม่มีมาตรการรองรับ จนส่งผลมาถึงปัจจุบัน

สำหรับข้อกำหนดใหม่ที่จะออกมานี้ จะมีผลเฉพาะสำหรับพื้นที่เสี่ยง คือ กรุงเทพมหานคร(กทม.) และปริมณฑล รวม 6 จังหวัด เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือ 14 วัน ทั้งการจำกัดการเดินทางออกจากบ้าน และไปในสถานที่เสี่ยง โดยลดการเคลื่อนที่ของประชาชน โดยขอให้เวิร์คฟอร์มโฮม (WFH) 100 % ยกเว้นงานบริการที่จำเป็น และงานที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภค

ทั้งนี้ มาตรการทั้งหมดจะให้ ศบค.ชุดใหญ่ วันนี้ (9 ก.ค.) พิจารณาเป็นมติออกมา แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ทันทีโดยจะให้เวลาเพื่อการเตรียมตัว

เชื่อได้ว่า หลัง ศบค.ชุดใหญ่ ประกาศมาตรการดังกล่าวออกมา ในระดับจังหวัดก็จะมีการออกประกาศล้อกับประกาศดังกล่าวออกมาเช่นกัน เพื่อ หลีกเลี่ยง คำว่า “ทั่วประเทศ” และจะทำให้มีผลเหมือนกันทั้งประเทศ โดยไม่ต้องใช้คำว่า ทั่วประเทศ

ในเมื่อผู้บริหารประเทศ ไม่ยอมรับความจริง การบริหารงานก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก ภาระความรับผิดชอบทั้งหมด ตกอยู่กับผู้ปฏิบัติงาน ที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้ป่วยจริงๆ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เหมือน ผู้ที่สั่งการ

ในเวลานี้ รัฐบาลจิตตกจะพูดอย่างไร จะสั่งการแบบไหน จะใช้คำแบบไหน "ล็อกดาวน์ หรือเคอร์ฟิว" สุดท้ายคำที่ได้มีอยู่คำเดียว คือ ล้มเหลว

ในเมื่อล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องเลือกใช้คำว่า "ล็อกดาวน์" 14 วัน พร้อมเสียสละเงินเดือน 3 เดือนในสองตำแหน่ง เพื่อช่วยเหลือประชาชนสู้โควิด19

เมื่อไม่มีใครหนีความจริงได้ เมื่อแสงอาทิตย์ส่องลงมา เงาก็จะปรากฏขึ้นทุกครั้ง เหมือนความจริงที่ไม่ได้หายไปไหน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด่วน "ล็อกดาวน์" 14 วัน "นายกฯ " ประกาศไม่รับเงินเดือน 3 เดือน

ด่วน จ่อหลักหมื่น ยอดติด "โควิดวันนี้" พุ่ง 9,276 ราย

เช็กเลย "จุดตรวจโควิดฟรี" กทม. 9 ก.ค. มีที่ไหนบ้าง

รพ.เกษมราษฏร์ เปิดจอง "Moderna" พร้อม 8 ขั้นตอนชำระเงินง่ายๆ ปชช.แห่จองทำเว็บล่ม

วิกฤติ "เตียงผู้ป่วย" ผ่อนคลาย เปิดวันนี้ โรงพยาบาลสนาม "WHA" 1,300 เตียง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ