คอลัมนิสต์

งบประมาณ"กองทัพ" ความมั่นคงของใคร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ในการอภิปรายงบฯปี 65ในสภาผู้แทนฯ งบฯ"กองทัพ"ถูกโจมตีมากที่สุด โดยนำไปเปรียบเทียบกับงบสาธารณสุขในยามที่บ้านเมืองกำลังเผชิญกับโควิด แล้วในความจริงเป็นอย่างไร..ที่นี่มีคำตอบ

รายการ “คมชัดลึก” วันที่ 11 มิ.ย.2564 หัวข้อ “ งบประมาณกองทัพ ความมั่นคงของใคร ” โดยมีผู้ร่วมรายการ คือ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติ และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณ และ พล.อ. สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกวุฒิสภา( ส.ว.) ดำเนินรายการโดย นารากร ตินายน โดยมีการพูดถึงงบประมาณของกระทรวงกลาโหม จำนวน 2 แสน 3 พันล้านบาท หลังจากมีการอภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ซึ่งงบประมาณกระทรวงกลาโหมถูกพูดถึงมากที่สุดและมีการนำไปเปรียบเทียบกับงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข

งบประมาณ"กองทัพ" ความมั่นคงของใคร

 

งบประมาณ"กองทัพ" ความมั่นคงของใคร

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในส่วนของผมจะตัดงบฯของหน่วยงานไหน ต้องฟังเหตุผลความจำเป็น เราต้องยอมรับว่าวันนี้บ้านเมืองเราประสบปัญหาหลายอย่าง กรรมาธิการไม่มีฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ต้องเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ

พล.อ. สมเจตน์ กล่าวถึงงบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่มีคนพูดถึงว่าสูงมากถึง 2 แสน 3 พันล้านบาท สูงเป็นอันดับสี่เมื่อเทียบกับทุกกระทรวง และสูงกว่ากระทรวงสาธารณสุข ว่า เป็นการเปรียบเทียบเฉพาะปี ต้องไปดูงบกระทรวงสาธารณสุขว่า ปีที่ผ่านมาได้รับเท่าไหร่และปีนี้ได้รับเท่าไหร่ งบประมาณกระทรวงกลาโหมปีนี้ได้รับเทียบเท่างบปี 2560 ย้อนหลังไป 4-5 ปี ถ้าเทียบกับจีดีพี เท่ากับปี 2549 เพราะฉะนั้นจึงบอกไม่ได้ว่างบหน่วยงานไหนมากกว่าหน่วยงานไหน

ส่วนที่ฝ่ายค้านชี้ว่างบฯกระทรวงกลาโหมลดลง 5.24 % แต่งงบสาธารณสุขลดลงมากกว่า พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ก็ต้องไปดูว่าการจัดสรรงบของรัฐบบาล เอางบฯสาธารณสุขไปซ่อนไว้ที่ไหน อาจไปอยูในงบกลาง ซึ่งการบริหารของนายกฯใช้ ศบค. ในการบริหาร “โควิด” จึงต้องไปดูในงบกลางว่ามีงบที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน“ โควิด” และเศรษฐกิจเท่าไหร่  และมีการเสนอ พ.ร.ก. เงินกู้ เพื่อมาปะผุ เสริมในเรื่องปัญหาโควิด ต้องดูภาพรวมในลักษณะนี้

งบประมาณ"กองทัพ" ความมั่นคงของใคร

พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ความมั่นคงของประเทศตอนนี้คือความมั่นคงของมนุษย์ จะต้องรักษาชีวิตของทุกคน ดังนั้นในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ไม่มีหน้าที่ไปเพิ่มงบฯให้หน่วยงานไหน เราจะดูว่าหน่วยงานไหนจะชะลอไว้ก่อนได้หรือไม่ บ้านเมืองกำลังเผชิญหน้าปัญหาปากท้อง ความลำบาก แล้วเราจะเสนอตัด เมื่อตัดงบฯไปแล้ว นายกฯซึ่งเป็นฝ่ายบริหาร ก็จะไปจัดสรร ก็แล้วแต่ฝ่ายบริหาร

“จะไม่มองว่าเป็นทหาร เป็นพลเรือน ต้องยอมรับว่าความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และทางทหาร รวมทั้งการเมือง มีความสำคัญเท่ากัน ต้องอยู่ในภาวะสมดุลย์ และต้องพิจารณาถึงความลำบากของประชาชนในขณะนี้ด้วย ซึ่งเป็นวาระพิเศษในการพิจารณา”

พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ต้องไปดูงบเงินกู้ที่รัฐบาลได้มา 1 ล้านล้านบาทปีที่แล้ว และปีนี้ 5 แสนล้านบาท ทั้งหมดนำมาใช้กับการแก้ปัญหาโควิด การส่งเสริมเศรษฐกิจ ไม่ได้นำมาใช้เป็นงบทหาร จะเห็นได้ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขโควิดและเศรษฐกิจอย่างยิ่ง

พิธีกรถามถึงงบกลาโหม 2 แสน 3 พันล้านบาท เมื่อดูในรายละเอียดเกี่ยวกับบุคลากรถึง 74% มีการตั้งข้อสงสัยว่า กองทัพมีจำนวนคนเยอะเกินไปหรือไม่ และยังมีงบจัดซื้ออาวุธซึ่งเป็นงบผูกพัน มีงบสร้างบ้านพัก งบฯกองทัพลดไม่ได้หรือ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ผมว่าข้อมูลดังกล่าวไม่น่าถูกต้อง อดีตตนเป็น ผ.อ.งบประมาณกลาโหม ถ้ากองทัพใช้งบไปในเรื่องรายจ่ายประจำมากเกินไปถึง70 %อยู่ไม่ได้ผมเคยตรวจสอบพบว่ารายจ่ายประจำเพียง 58%และ 42%ใช้กับการลงทุนและค่าใช้จ่ายทั่วไปไม่ได้ใช้กำลังพลมากมายขนาดนั้น

พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ที่ฝ่ายค้านบอกว่างบบุคลากรสูงถึง 74 % ดูจากข้อสรุปสมุดงบประมาณว่ารายจ่ายประจำ คือ 74% ในรายจ่ายประจำยังจ่ายให้กับสวัสดิการประชาชนผู้สูงอายุในส่วนที่เกี่ยวกับบุคลากร 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ หรือในอดีตกระทรวงการคลังให้เงินกับผู้ปฏิบัติงานภาคใต้ได้รับเงินเพิ่ม จึงต้องมาพิจารณากันอีกครั้งในเพราะข้าราชการอื่นไม่ได้ 5 หมื่นกว่าคนส่วนมากเป็นของกองทัพบก ไม่ใช่ความผิดของกองทัพแต่เป็นการจัดในรูปปกติ ถ้าอัตราเยอะไปก็ต้องมาคุยกันว่า ลักษณะรายจ่ายอย่างนี้ปรับปรุงได้หรือไม่ เราเห็นใจบุคลากรที่เสียสละให้งบของกองทัพ งบความมั่นคงจะไปอยู่ในรายจ่ายอื่นเช่นงบลับ งบข่าว ส่วนของกลาโหมและหน่วยทหารมีเยอะ ก็ต้องมาคุยกัน

พิธีการถามว่ามีการตีแผ่ว่างบลับมีกว่า 500 ล้านบาท พล.อ.สมเจตน์ กล่าาว่า เรื่องงบลับมีไว้เพื่อภารกิจป้องกันประเทศ ภารกิจเรื่องยาเสพติด ภารกิจการข่าว ทุกหน่วยงานที่มีงบลับอยู่ต้องตั้งคณะกรรมการ 4 คน อนุมัติโครงการ ตรวจสอบการใช้เงิน สตง.สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ งบลับที่ตนทราบตอนนี้ได้รับ470 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2549 ก็ได้รับเท่านี้ ไม่เคยได้รับเพิ่มอีกเลยทั้งที่มีภารกิจสำคัญเพราะฉะนั้นการได้งบลับเพิ่มยากมาก การได้ข่าวต้องได้ข่าวในลักษณะปกปิด และการปกปิดที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของกำลังพล งบลับนำไปใช้กับความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน วิธีคิดของทหารในการทำสงครามที่ดีที่สุดคือการชนะสงครามโดยไม่ทำสงครามหากเกิดสงครามใช้งบร้อยล้าน พันล้าน การใช้งบของกองทัพในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเมื่อเกิดปัญหาความขัดแย้งได้พูดคุยกันจะจัดการปัญหาได้ทั้งหมด 

พิธีกรถามว่าฝ่ายค้านต้องการเห็นการใช้งบลับชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้ทำได้หรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ที่ผ่านมาใช้งบลับเพื่อความมั่นคงของประเทศ เรื่องยาเสพติดเราต้องปกปิดเพราะถ้าเราเปิดเผยคนที่ให้ข้อมูลออกไปก็ตาย  เราต้องรักษาชีวิตคนไว้ อย่างไรก็ตามการจัดตั้งงบลับจะอยู่ 2 ส่วน ถ้าเป็นข้าราชการพลเรือน งบจะอยู่ที่สำนักนายกฯซึ่งมีประมาณ19 หน่วยเบิกเงินเป็นงวดๆถ้าเป็นหน่วยของทหารจะตั้งงบไว้ที่กองทัพ ระเบียบการใช้จะให้ สตง. ตรวจแต่เราน่าจะดูในภาพรวมอย่างไรก็ตามงบลับตรวจสอบยาก

พิธีกรถามว่าทำไมกองทัพต้องซื้ออาวุธทุกปีและเป็นงบผูกพันหยุดซื้ออาวุธสักปี 2 ปีได้หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่าที่งบฯกองทัพถูกพูดถึงมากเพราะนายกฯเป็นทหาร การที่จะทำลายความชอบธรรมของนายกฯได้ดีที่สุด ต้องไปทำลายต้นกำเนิดของนายกฯการทำลายกองทัพก็เพื่อกระทบไปถึงนายกฯเพื่อให้มีความรู้สึกว่านายกฯนั้น มาเอาใจกองทัพมากกว่าสถานการณ์โควิดซึ่งไม่เป็นธรรมเพราะไม่ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จะอยู่ในตำแหน่งนายกฯหรือไม่ ประเทศไทยก็ไปได้เพราะมีนายกฯคนใหม่ขึ้นมาแต่กองทัพถ้าถูกทำลายลงแล้ว ประเทศชาติอยู่ยาก

ส่วนการจัดซื้ออาวุธนั้นในกองทัพมีแผนยุทธศาสตร์ในการพัฒนากองทัพซึ่งการพัฒนากองทัพต้องมองไปที่ภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นการเตรียมกำลังของกองทัพนั้นไม่ใช่ว่าเตรียมพรุ่งนี้แล้วจะได้ทันทีจะต้องใช้เวลาในการเตรียมเพื่อต่อกรได้ซึ่งแผนพัฒนากองทัพมียุทธศา์สตร์มาก่อนปี 63 ซึ่งเกิดโควิดการสั่งซื้ออาวุธต้องใช้เวลาไม่มีประเทศไหนผลิตอาวุธไว้ก่อนพร้อมขายจะต้องไปสั่งซื้ออย่างรถถัง เรือดำน้ำ เราต้องใช้งบผูกพันสั่งซื้อ

พิธีกรถาม พ.ต.อ.ทวี ว่ามีความจำเป็นต้องวางยุทธศาสตร์ล่วงหน้า จำเป็นต้องมีงบประมาณเตรียมไว้และเป็นงบผูกพันเพราะไม่ได้จ่ายครั้งเดียวทยอยจ่าย พ.ต.อ .ทวี กล่าวว่า มีงบของกลาโหมประมาณ 2 พันล้านบาทที่ใช้ไม่ทันแล้วนำมาคืน แล้วไม่มีการตั้งของบใหม่ ฝ่ายค้านจึงสงสัยว่ามีความจำเป็นจริงหรือไม่ งบซื้ออาวุธนั้นๆและเป็นงบผูกพันข้ามปีกว่า30% มีจำนวนถึง 1 ล้านล้านบาทซึ่งต้องจ่ายอย่างเดียวเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ดังนั้นปีนี้จะขอว่าถ้าตั้งงบปี 65 ก็ให้ซื้ออาวุธปี 65 เพราะถ้าเป็นงบผูกพันจะทบทวนได้หรือไม่เพราะปีนี้ประชาชนกำลังอดอยาก ประชาชนกำลังเผชิญกับความหิวโหย คนตายวันละ 20-30คนดังนั้นต้องทำทุกวิถีทางดังนั้นงบกองทัพต้องมาชี้แจงอะไรที่มีความจำเป็นน้อยขอไว้ก่อนได้หรือไม่ช่วยกันทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นก่อน

พิธีกรถามว่า ความมั่นคงในมุมมองของกองทัพคือการมีอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้ป้องกันประเทศแต่ในมุมมองของประชาชนความมั่นคงคือเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องปากท้อง เรื่องสุขภาพมากกว่าเป็นมุมมองที่แตกต่างหรือไม่ พล.อ. สมเจตน์ กล่าวว่า เป็นมุมมองที่แตกต่างกัน ใครทำหน้าที่อะไร ทุกคนก็ต้องการทำหน้าที่ในภารกิจที่ตนเองรับผิดชอบให้ดีที่สุด กองทัพมีหน้าที่ในการป้องกันประเทศ กองทัพต้องพยายามเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพให้สูงขึ้น มีแนวคิดยุทธศาสตร์ในการนำเสนอ รัฐบาลต่างหากที่จะมองภาพรวม กองทัพคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนอยู่เสมอ เช่น เรือดำน้ำซึ่งมีการเซ็นสัญญาก่อนเกิดโควิด กองทัพก็ถอยเรื่องเรือดำน้ำ

         
                 

 

 

            
 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ