
ทำไมถึงไม่ 'ล็อกดาวน์' แต่เลือกใช้ 'ขอความร่วมมือสูงที่สุด'
'หมอทวีศิลป์' โฆษก ศบค. ตอบชัด ทำไมถึงไม่ 'ล็อกดาวน์' แต่เลือกใช้ยาแรงรับมือโควิด-19
วันที่ 2 ม.ค. 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด19 ประจำวัน และมาตรการในการควบคุม ป้องกันโควิด19 ว่าเมื่อเช้าวันนี้ เลขาสมช.ในฐานะประธานที่ประชุม มีการยกตัวอย่างการล็อกดาวน์แบบมีเคอร์ฟิว
อ่านข่าว : ศบค. ยกระดับ 28 จังหวัด "พื้นที่ควบคุมสูงสุด"
ถ้าย้อนกลับไปดูตัวเลขในขณะนั้น(ปี 2563)จำได้ชัดเจนว่ามีรายวานว่ายังมีคนที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวถูกจับเล่นการพนันก็มี ถูกจับโดยการออกมาแม้ไม่มีธุระฯลฯเราเห็นตัวเลขนี้อยู่ตลอดเวลา
เพราะฉะนั้นถึงแม้จะมียาแรงใช้ตรงนี้ขึ้นมามากมาย ก็ไม่สามารถจัดการกับคนที่ส่อเจตนากับการที่จะทำไม่ถูกต้องได้ แต่คนที่เดือดร้อนกลายเป็นคนดีๆที่นอนแต่หัวค่ำ ปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขอย่างเข้มข้น ต้องลำบากไปทั้งหมด เพราะฉะนั้นตรงนี้ขึ้นอยู่กับเรื่องของ “การขอความร่วมสูงที่สุด” การใช้กฎหมายอะไรทั้งหลาย ใช้ไม่ได้100%แน่นอนจะบอกว่าใช้ยาแรงก็ไม่ใช่เป็นผลบวกกับเราภาพรวมของทางเศรษฐกิจกลับมีผลกระทบมากมาย
“ฉะนั้นตอนนี้เจ็บไข้ที่ไหน ใช้ยาแรงตรงนั้น ฉีดยาตรงนั้น ทำให้เราสามารถที่จะใช้ประสบการณ์การเรียนรู้ตลอด1ปีที่ผ่านมาในศึกครั้งนี้อันใหม่ ซึ่งการอธิบายให้เข้าใจทุกๆ คน เพื่อสู่กับเชื้อโรคนั้น
ผมขอบคุณสื่อที่ให้ความร่วมมือในช่วงศบค.แถลง ผ่าน NBT สถานีแม่ข่ายสัญญาณ เวลาสื่อสารทุกคนรับทราบหมด และขอบคุณโซเชียลมีเดีย ที่กระจายข่าวถึงประชาชนจนเกิดการขับเคลื่อนมาตรการที่เข้มข้นขั้น ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพให้ดีเน้นย้ำปฏิบัติตัวตามมาตราการสาธารณสุข"นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุ
ศบค.แบ่งพื้นที่เป็น 3 ระดับ คือ
1.พื้นที่ควบคุมสูงสุด28จังหวัด(สีแดง)
2.พื้นที่ควบคุม11 จังหวัด(สีส้ม)
3.พื้นที่เฝ้าระวัง 38 จังหวัด (สีเหลือง)
มาตรการที่กำหนดให้ดำเนินการในพื้นที่ควบคุมสูงสุด แบ่งเป็น 2 ขั้น
ขั้นที่ 1
- จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการ
- ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด
- ค้นหาและจับกุมกลุ่มบุคคลที่มั่วุมทำผิดกฎหมาย
- หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก
- ขอความร่วมมือไม่เดินทางข้ามจังหวัด
- สถานการศึกษาหยุดเรียนการสอนหรือใช้รูปแบบออนไลน์
- ให้มีการทำงานแบบWork from Homeทั่วทั้งพื้นที่ที่ศบค.กำหนด
- มีมาตรการควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด
- เร่งการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกและการสอบสวนโรคในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อและพื้นที่เชื่อมโยงที่ได้ข้อมูลจากการสอบสวนโรคของสธ.
เมื่อมาตรการขั้นที่1ควบคุมโควิดไม่ได้ ใช้ขั้นที่ 2
- จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้น(รวมทั้งจำกัดการเปิดกอจการบางประเภทด้วย)
- ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด
- เพิ่มความเข้มข้นในการเร่งค้นหาและจับกุมกลุ่มบุคคลที่มั่วสุมทำผิดกฎหมาย
- งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก
- เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการควบคุมเดินทางข้ามจังหวัด
- สถานศึกษายังคงหยุดการเรียนการสอนเว้นกิจกรรมที่มีความจำเป็น
- เร่งรัดการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกและการสอบสวนโรคในพื้นที่ที่เสี่ยงกิจกรรม/กิจการที่เสี่ยงกลุ่มบุคคลเสี่ยง
- จำกัดเวลาออกนอกเคหะสถานในพื้นที่ที่ศปก.จังหวัดกำหนด