คอลัมนิสต์

ราษฎรป่วน สันติวิธีคนดื้อ "รุนแรง" พาเสื่อม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

5 เดือน ม็อบราษฎร แกนนำหัวดื้อ "เลยธง" พาขบวนมวลชนไปสู่จุดเสี่ยงแตกหัก 

++
เหตุการณ์ความรุนแรงภายในม็อบราษฎร 2 ครั้ง มีความเหมือนและความต่าง 
    

ครั้งแรก การ์ดอาชีวะปะทะคนเสื้อเหลือง ที่แยกเกียกกาย จนนำสู่ข้อเสนอจากอาชีวะบางคน ร้องขอให้แกนนำม็อบราษฎร ลดการปราศรัยจาบจ้วงเบื้องสูง ด้วยภาษาหยาบคาย 

 

อ่านข่าว...  ฟันเฟืองเจ็บ เสียง "เฮียบุ๊ง" ปริศนาการ์ดสองหน้า

 

เนื่องจากคำพูดเหล่านั้นได้ไปกระตุ้นอารมณ์อีกฝ่ายหนึ่ง ให้โกรธแค้น ผู้ที่รับเคราะห์ก็คือ การ์ดในแนวหน้า
    

ครั้งที่สอง การ์ดอาชีวะยิงกันเอง หลังเลิกการชุมนุมที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาเหตุมาจากนักเรียนอาชีวะมารวมตัวกันแบบหลวมๆ ติดอีโก้เรื่องสถาบัน
    

เรื่องราวเหล่านี้ แกนนำม็อบราษฎร ไม่ค่อยสนใจใยดีมากนัก เพราะยึดหลัก “ทุกคนคือแกนนำ” และปล่อยให้ “ผู้ใหญ่” บางคนเข้าไปเคลียร์


++
แกนนำลอยตัว
++
เมื่อแกนนำม็อบราษฎร ประกาศเดินหน้าทะลุเพดาน เป้าหมายการเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง จึงพุ่งไปที่สถาบันเบื้องสูง และมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นจะบุกสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ จึงถูกหมายเรียกข้อหา ม.112 
    

“เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ส่วนตัวผมไม่ห่วงอะไรเลย ห่วงแต่บ้านเมืองเราว่าจะเสื่อมลงไปอีกเพราะการใช้กฎหมายนี้”
    

ทำนองเดียวกัน “อานนท์ นำภา” ก็โพสต์ว่า “ชีวิตมันไม่ยินดียินร้ายกับเรื่องพวกนี้แล้ว ปล่อยวาง และปล่อยผ่านเหมือนนั่งจิบเบียร์ฟังเพลงบลูในผับแถวถนนพระอาทิตย์” 
    

แกนนำม็อบราษฎร ท่องแต่คำว่า “การชุมนุม 5 เดือนที่ผ่านไป เราสะสมชัยชนะขึ้นมาเรื่อยๆ  หรือเรายกระดับจากม็อบมุ้งมิ๊งไปแล้ว” 

++
แกนนำหวาดกลัว
++
นับแต่การชุมนุมใหญ่หน้ารัฐสภา เกิดเหตุปะทะกัน ส่งผลให้ฝ่ายราษฎรบาดเจ็บไปหลายราย ทำให้แกนม็อบราษฎร อย่าง อานนท์ นำภา, ไผ่ ดาวดิน, รุ้ง ปนัสยา, เพนกวิน, ไมค์ จาดนอก, เกด ชลธิชา ฯลฯ ระมัดระวังตัวกันมากขึ้น มีความกังวลในเรื่องความปลอดภัย
    

การเดินทางไปแต่ละพื้นที่ชุมนุม มีการ์ดรักษาความปลอดภัยรายล้อมรอบตัว จึงมี “ผู้ใหญ่” ฝ่ายประชาธิปไตย เสนอตัวนำการ์ดมืออาชีพมาดูแลแกนนำ
    

อีกด้านหนึ่ง แกนนำม็อบราษฎร เริ่มหวาดระแวง “การ์ดอาชีวะ” อย่างเช่น “เฮียบุ๊ง” ปกรณ์ พรชีวางกูร ระบายผ่านเฟซบุ๊กว่า “การ์ดหลายๆกลุ่ม ทะเลาะกัน ไม่ถูกกัน ในส่วนนี้ไม่มีใครอาสาจัดการ เราก็พยายามจะประสานรอยร้าวให้”
    

บังเอิญ “เฮียบุ๊ง” ไม่ใช่แกนนำปัญญาชนที่ชอบสร้างภาพ จึงพูดตรงๆ ที่ยอมรับว่า “การ์ดทะเลาะกัน” เพราะมาจากร้อยพ่อพันแม่
    

“..ที่แก้ไม่ได้เลยก็คือการ์ดอาชีวะ กุยอมรับว่ากุไม่สามารถเข้าถึงความเป็นอาชีวะได้เลยแม้แต่นิดเดียว อาชีวะพอรวมตัวกันจะมีความยึดมั่นถือมั่นที่กุพยายามจะเข้าใจแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ” 
    

ยิ่งการชุมนุมนานวันไป ก็ยิ่งเต็มไปด้วยความขัดแย้งแตกแยก และอาจนำไปสู่ภาวะอนาธิปไตย 

 

ราษฎรป่วน สันติวิธีคนดื้อ \"รุนแรง\" พาเสื่อม

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ