จับตาม็อบยกระดับหลังเส้นตาย"บิ๊กตู่"ไม่ลาออก
ผ่านไปแล้ว 2 วันเต็มๆ ของการอภิปรายแบบไม่ลงมติของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา165 ดูเหมือนคำตอบจะไม่ตรงโจทย์ของกลุ่มผู้ชุมนุม
อ่านข่าว... ท่าทีรัฐบาลบิ๊กตู่ ถอยแต่ไม่หนี รอนาทีรุกกลับ
โจทย์ข้อใหญ่ของผู้ชุมนุมคือ นายกฯลาออก ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับประชาชน และปฏิรูปสถาบัน
โจทย์ข้อแรกนายกฯไม่ได้ตอบชัดว่าจะลาออก เพียงให้เหตุผลว่าหากลาออกแล้วการเมืองจะถึงทางตัน และยังต้องใช้กติกาเดิมในการเลือกนายกฯในสภาโดยมี ส.ว.เข้ามาเกี่ยวข้องอีก
ประเด็นต่อมาเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ สภายังยึดเอา 6 ญัตติของฝ่ายค้านและรัฐบาลอยู่ โดยไม่แตะหมวด1 และหมวด2 ซึ่งของรัฐบาลก็จะแก้มาตรา256 ก่อนจะนำไปสู่การเลือกตั้ง สสร.มายกร่างใหม่
ส่วนประเด็นการปฏิรูปสถาบัน ไม่ได้มีการพูดถึงมากนัก เพราะสภายังตีกรอบไม่ให้ก้าวล่วงสถาบัน โจทย์ข้อนี้จึงยังไม่มีการหยิบยกขึ้นมา
ฉะนั้นในสภา 2 วัน จะมีแค่ 2เ รื่องคือ นายกฯลาออกและแก้รัฐธรรมนูญ
เมื่อสรุปภาพรวมแล้ว การอภิปรายในสภา 2 วัน ยังไม่ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้ชุมนุม เพียงแต่ในสภามีแนวคิดในการตั้งคณะกรรมการสมาฉันท์ขึ้นมาเท่านั้นเอง
ส่วนประเด็นที่ยังคลุมเครือคือ หากนายกฯลาออกต้องไปถามประชามติ หรือการแก้รัฐธรรมนูญต้องไปทำประชามติ ซึ่งเป็นความพยายามในการซื้อเวลาหรือยื้อเวลาเท่าที่จะทำได้
ในเมื่อรัฐสภาไม่ตอบโจทย์หรือข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้ง 3 ข้อ ไม่ได้ตามนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมเองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับรัฐสภา ตรงกันข้ามรัฐสภาก็ไม่ได้หาทางออกให้กับประเทศตามความต้องการของกลุ่มผู้ชุมนุม
ฉะนั้นในเมื่อทุกอย่างไม่ได้ตามข้อเรียกร้อง ฉากต่อไปต้องจับตาดูว่า ม็อบที่บอกว่าจะยกระดับ จะยกระดับเช่นไร จะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ และรัฐบาลจะใช้มาตรการอะไรมารับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุม
เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ม็อบไม่ได้หยุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ม็อบเลยไปถึงการเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบัน และการที่ม็อบบุกสถานทูตเยอรมันเพื่อให้ตรวจสอบการใช้พระราชอำนาจนอกพรมแดน ถือเป็นการชุมนุมครั้งแรกในประเทศไทยที่แสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนต่อสถาบัน
จากนี้ไปการเมืองจะแรงขึ้นความวุ่นวายจะตามมา เมื่อสองฝ่ายไม่ยอมซึ่งกันและกันและเมื่อรัฐสภาไม่สามารถหาทางออกได้ ให้ระวังบ้านเมืองจะไปถึงทางตัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง