คอลัมนิสต์

"จักรทิพย์" ชน "ชัชชาติ " เลือกตั้งผู้ว่า กทม. 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลังจากนายกฯพูดทำนองว่า จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นปีนี้ ก็มีการคาดการณ์ว่าสนามเลือกตั้งที่จะประเดิมเริ่มแรก คือเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และหนึ่งในผู้ชิงเก้าอี้ตัวนี้อาจมี"บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ด้วย ทำให้"ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ต้องเหนื่อยขึ้นอีก

เมื่อ 3 วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดทำนองว่า ถ้าเป็นไปได้จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นปีนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.)และกระทรวงมหาดไทย
 และสนามเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะประเดิมเริ่มแรกคาดการณ์กันว่าคือ เลือกตั้งผู้ว่า กทม. ซึ่งในฐานะเมืองหลวงมหานครของประเทศ จึงถูกจับจ้องเป็นพิเศษ  หลายพรรคการเมืองหวังที่จะยึดครองสนามเลือกตั้งแห่งนี้ให้ได้ 
 แต่ที่มีลุ้นมีอยู่แค่ พรรคพลังประชารัฐ  พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลที่คนพรรคอนาคตใหม่ยกโขยงไปอยู่หลังจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่
 นอกนั้นก็เป็นผู้ที่จะลงสมัครอิสระบางคนที่มีความโดดเด่น ไม่สังกัดพรรคใด

สำหรับ"พรรคพลังประชารัฐ" ที่การเลือกตั้งระดับชาติครั้งล่าสุดเมื่อ 24 มี.ค.62 ได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. มากที่สุดคือ 12 ที่นั่ง  ก่อนหน้านี้่มีข่าวว่า" พรรคพลังประชารัฐ" พยายามไล่ทาบทาม “คนเด่น-คนดัง” อยู่เหมือนกัน ให้มาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรค แต่ก็ไม่มีใครตอบรับสักที  ในตอนนั้นจึงเริ่มมามองคนใกล้ตัว ชื่อของ มาดามอีฟ-ทยา ทีปสุวรรณ ภรรยาของนายณัฏฐพล รักษาการกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ จึงโผล่ขึ้นมาว่าจะลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. โดยอาจปรับแผนเป็นการลงสมัครในนามอิสระตามเทรนด์ที่นิยมกันแต่พรรคพลังประชารัฐให้การสนับสนุน
 แต่เนื่องจากสนามเลือกตั้งผู้ว่า กทม. มีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคมใน"รัฐบาลยิ่งลักษณ์ "และเคยเป็นถึงแคนดิเดตในบัญชีนายกฯของพรรคเพื่อไทยได้ประกาศตัวและจุดยืนจะลงรับสมัครผู้ว่าฯทม.ใน"นามอิสระ"  เพราะคิดว่าการลงในนามอิสระจะทำให้หาแนวร่วมได้มากขึ้นเพราะจากที่นายชัชชาติ ลงพื้นที่สอบถามประชาชน พบว่ามีคนจำนวนมากเบื่อการเมืองและอยากจะมาช่วยกันเดินหน้าประเทศให้ดีขึ้น

 นอกจากนี้"ชัชชาติ" มีภาพของนักการเมืองที่มีความทันสมัย เป็นขวัญใจคนรุ่นใหม่ แถมติดดิน ทำให้เป็น"ตัวเต็ง" คนหนึ่งที่ใครๆ ก็ประมาทไม่ได้  
ทำให้"พรรคพลังประชารัฐ"เริ่มหาคนใหม่ที่คิดว่าจะสู้กับ"ชัชชาติ"ได้และล่าสุดมี"พรายกระซิบ"ว่าได้มีการเตรียมทาบทาม"บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ที่จะเกษียณในเดือนกันยายนนี้

สำหรับ"บิ๊กแป๊ะ"นั้น ถ้าไม่มีฝีมือคงไม่สามารถนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. ได้ยาวนานถึง 5 ปี  

ปี 2561 " บิ๊กแป๊ะ" กลายเป็นขวัญใจ “ฮีโร่ถ้ำหลวง” จากการนำตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ไปปีนเขาหาโพรงถ้ำเพื่อจะโรยตัวไปช่วย"13 หมูป่า"ที่ติดอยู่ใน"ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน"ในช่วงที่ยังสูบน้ำที่ท่วมถ้ำไม่ได้และดูเหมือนหนทางที่จะพาออกทางหน้าถ้ำมืดมน

สไตล์ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ คือ เรียบง่าย ขาลุย ไม่รอฟังรายงานสั่งการแค่ในห้องแอร์ มักลงไปติดตามการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชา และบัญชาการเองในคดีสำคัญๆ 
อย่างเช่น คดีคนร้ายกราดยิงชิงทองที่ จ.ลพบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 คนรวมทั้งเด็ก เหตุเกิดต้นเดือนมกราคมปี 2563 ช่วงแรกได้ส่ง รองผบ.ตร. ลงไปทำงาน แต่เมื่อดูแล้วผ่านไปหลายวันยังจับคนร้ายไม่ได้ จึงเดินทางไปเองให้ข่าวน้อยแต่พูดคำสำคัญๆ จนทำให้คนร้ายชะล่าใจว่าหลบหนีพ้น จนสุดท้ายก็รวบตัว อดีต ผอ.กอล์ฟ พร้อมทองคำของกลางที่ชิงไปได้อย่างอยู่หมัด

และกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญประชาชน "จ่าคลั่ง"กราดยิงผู้คนไม่เลือกหน้าในห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองโคราช สังคมออนไลน์ชื่นชมและยกย่องให้"บิ๊กแป๊ะ"เป็นฮีโร่ หลังจากคลิปเสียงและภาพการเข้าบัญชาการเหตุการณ์ของ “บิ๊กแป๊ะ” ในคืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 63ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ถูกส่งต่อเป็นไวรัลในโลกออนไลน์

17 ชั่วโมงที่ร่วมลุ้นให้สถานการณ์คลี่คลาย สามารถปิดฉากลงได้ โดยคนร้ายถูกวิสามัญเพื่อยุติวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้น เสียงสรรเสริญ"บิ๊กแป๊ะ”ดังกึกก้องชื่นชมในความกล้าหาญลงไปปฏิบัติการในพื้นที่ด้วยความรวดเร็ว ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปถึงที่เกิดเหตุตั้งแต่ 3ทุ่มยันเช้าไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ไม่ใช่แค่นั่งบัญชาการอยู่ในห้องแอร์ แต่ถือปืนลุยเข้าไปอยู่แนวหน้าพร้อมปะทะคนร้ายด้วยตนเอง  แสดงถึงภาวะผู้นำที่ได้ใจทั้งลูกน้องและประชาชนไปเต็มๆหลังวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายจบสิ้นลง ก็เดินทางขึ้นรถตู้กลับทันทีไม่ได้เอาหน้าเอาตา 

ดังนั้นหาก"บิ๊กแป๊ะ"ตัดสินใจลงชิง ผู้ว่า กทม. ย่อมได้รับการขานรับจากคนกรุงอย่างแน่นอน และไม่เป็นรองใครทั้งสิ้น แถมจะมีโอกาสได้รับเลือกตั้งกว่าคนอื่นด้วยซ้ำไป แม้ว่าจะเป็นหน้าใหม่ทางการเมืองก็ตาม

 ส่วนคนอื่นที่เคยเปิดตัวว่าจะลงสมัครอิสระ ก็เช่น น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. และนายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทยและอดีตทีมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทั้งคู่จะมาเป็น “ตัวสอดแทรก” สร้างสีสันได้ไม่น้อย

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่าเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งล่าสุด จะสูญพันธุ์ในสนามเลือกตั้ง กทม. แต่สำหรับเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างผู้ว่าฯ กทม. นั้น ระยะหลังคนของพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งให้นั่งเก้าอี้ตัวนี้ ไม่ว่าจะเป็นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน หรือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร  ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์คงไม่ยอมเสียเก้าอี้ใหญ่ตัวนี้ไปง่ายๆ  เพียงแต่ว่าที่ผ่านมายังไม่ชัดว่า จะส่งใครลงสมัครผู้ว่า กทม. เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ชัด ส่วนพรรคก้าวไกล ที่เกิดใหม่ ก็ยังไม่เปิดตัว  ทั้งนี้ก็เพราะว่าการประกาศเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ยังไม่เกิดขึ้น ประกาศฯเมื่อไหร่ความชัดเจนจะตามมาทันที

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ