"แม้วมาเอง" ไม่รอเสียงปืนแตก

++

          "ถ้าเมื่อไหร่ เสียงปืนแตก ทหารยิงประชาชน ผมจะเข้าไปนำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพทันที" คำพูดของ "ทักษิณ ชินวัตร" กล่าวผ่านระบบวิดีโอลิงค์ ขึ้นจอภาพ บนเวทีการชุมนุม นชป.แดงทั้งแผ่นดิน บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อวัน 30 มี.ค.2552 ยังคงตามหลอนเขาไปจนวันตาย

 

อ่านข่าว... แอลกอฮอล์ ' ทักษิณ' ว่อนสภา

 

 

 

 

 

          ปี 2552 “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน” เปิดปฏิบัติการโค่นอำมาตย์ ชุมนุมใหญ่กลางมหานคร “ทักษิณ” ก็จะวิดีโอลิงก์มาปลุกระดมเกือบทุกคืน

          ปี 2553 การชุมนุมใหญ่ของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ภายใต้ชื่อยุทธการ “เขย่าขวัญอำมาตย์” มีเป้าหมายคือ การโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ “ทักษิณ” ยังปลุกระดมข้ามฟ้ามาประจำที่เวที นปช.

          ปี 2563 “ทักษิณ” เลือกใช้บริการ “บีบีซีไทย” สื่อใหญ่ของอังกฤษ ส่งความคิดถึงมายังกองเชียร์เครือข่ายชินวัตร แต่หนนี้ไม่ขอพูดเรื่องการเมือง 

++
          รักษาแบรนด์เดิม
++
          เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2563 บีบีซีไทย ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ “ทักษิณ ชินวัตร” โดยอ้างว่า ทีมงานบีบีซีไทยได้พบทักษิณที่บ้านพักในทำเลทองใจกลางกรุงลอนดอน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

 

 

          ปกติทักษิณจะใช้บริการสำนักข่าวใหญ่ระดับโลกอย่างอัลจาซีร่า และซีเอ็นเอ็น แต่เที่ยวนี้ ทักษิณเลือกบีบีซีไทย เพราะเป็นสื่อที่ผู้คนส่วนหนึ่งยกย่องว่าเป็นสื่อฝ่ายประชาธิปไตย

          ทักษิณไม่ขอพูดเรื่องการเมือง แต่เมื่อบีบีซีไทยยิงคำถามเรื่องมหาเศรษฐีไทย ช่วยประชาชนได้อย่างไรบ้างในวิกฤตโควิด-19

          "ผมคงไม่สามารถจะช่วยคนเป็นล้านๆ คนได้ แต่ก็ช่วยตามกำลังตามน้ำใจ เช่น ไปช่วยตามโรงพยาบาล ซื้อชุดพีพีอี ซื้อเครื่องช่วยหายใจ ซื้อหน้ากากให้บ้าง ส่วนชาวบ้านนี่บางทีพวกมีกิจกรรมทั้งหลาย ก็ขอร่วมบริจาค ไปทำกับข้าวเลี้ยงคนบ้าง เอาตังค์ไปแจกร้อยสองร้อยอะไรแบบนี้ ขอให้ผมบริจาคร้อยสองร้อย ผมก็ช่วยบริจาคกองนั้นกองนี้บ้าง ผมก็ทำได้แค่นี้ละครับ"

          คำว่า "ขอให้ผมบริจาคร้อยสองร้อย ผมก็ช่วยบริจาคกองนั้นกองนี้บ้าง ผมก็ทำได้แค่นี้ละครับ" จึงได้เห็นภาพแกนนำ นปช.สายไทยรักษาชาติ(เดิม) นำถุงยังชีพไปแจกชาวบ้าน มินับนักการเมืองตกงานสายเพื่อไทย ที่หอบข้าวสารอาหารแห้งไปแจกจ่ายชาวพระนครในบางเขตเลือกตั้ง

++
          ข้ามทักษิณไม่ได้
++
          ผลการเลือกตั้ง 2562 มีความชัดเจนระหว่าง “เอฟซีทักษิณ” กับ “เอฟซีธนาธร” มวลชนคนรากหญ้าในภาคเหนือ และภาคอีสานนั้น ยังภักดีต่อแบรนด์เดิม ส่วนนิวโหวตเตอร์ และคนชั้นกลางใหม่ เลือกแบรนด์ใหม่-ธนาธร 

          เมื่อบีบีซีไทย หยิบประเด็นร้อนๆของ นคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอให้ประชาชนขอความเมตตาของผู้มีบารมีในประเทศ อนุญาตให้ทักษิณกลับบ้านได้มาถามคนแดนไกล

 

 

 

          "เราก็รู้ ๆ อยู่มันมีเงื่อนไขอยู่“ ทักษิณตอบสั้นๆ แต่ขยายความแบบมีนัยยะการเมือง ”วันนี้ยังเป็นคนไทยที่เขาไม่ให้เป็นคนไทยอยู่แล้ว พาสปอร์ตไทยก็ไม่มี อยู่เมืองนอก ก็ทำในฐานะคนเคยเป็นนายกฯ มีคนเคยสนับสนุนเรามากมาย เราก็เป็นห่วงเขา (ชาวบ้าน) เท่านั้นเอง"

          ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า แบรนด์ทักษิณยังคงมีความหมายสำหรับพื้นที่การเมือง ยกตัวอย่างนักการเมืองท้องถิ่นในภาคเหนือ ยังตบตีกันเองเรื่องแย่งเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทยลงสนาม จนมีความพยายามขอให้ทักษิณเข้ามาเคลียร์

          ตราบใดที่มวลชนยังรักทักษิณ ผู้ชายคนนี้ก็ยังไม่หายไปจากการเมืองไทย