พลังนักศึกษา สร้างดาวคนละดวง

          นักวิเคราะห์การเมือง เชื่อว่าหลังศึกโรคระบาดจบลง รัฐบาลประยุทธ์เจอ “ศึกนอกสภา” จากกลุ่มพลังนิสิตนักศึกษาอีกรอบเป็นแน่

          พลังนักศึกษาเบ่งบานขึ้นเมื่อช่วงเดือน ก.พ.2563 ปรากฏการณ์แฟลชม็อบ เป็นสิ่งเหนือความคาดหมาย แม้แต่บรรดานักกิจกรรมรุ่นใหญ่ ทั้งเหลือง แดง ฟ้า และส้ม ก็รู้สึกงงๆ 

           การเคลื่อนไหวของพลังคนรุ่นใหม่แผ่วบางลงจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 แต่ปลายเดือน เม.ย.นี้ พวกเขาเริ่มก่อการประท้วงออนไลน์ “โควิดหายมาไล่รัฐบาลกันไหม?” พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนแสดงพลัง ผ่านแคมเปญ #MobFromHome

          แฟลชม็อบ ถือได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติทางการเมือง ของพลังนักศึกษายุคดิจิตอล พวกเขาก่อหวอดประท้วงการสืบทอดอำนาจของคณะ คสช. โดยไม่มีภาพของการนำเดี่ยว เหมือนในอดีต ที่มีศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) และสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทบ (สนนท.)

          ภาพแรกๆ เราจะเห็นบทบาทของ "สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย" (สนท.) ที่คล้ายฝ่ายประสานงานมากกว่าองค์กรนำ

         ปัจจุบัน "จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์" เป็นประธาน สนท.คนที่ 3 ต่อจาก “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ โดยก่อนหน้านั้น เธอทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สนท. และเป็นแกนนำพรรคโดมปฏิวัติ ธรรมศาสตร์
 

          ถ้าจำกันได้ มีเสียงวิพากษ์บทบาทของ “เพนกวิน” บนเวทีปราศรัย ส่วนใหญ่ไม่ชอบบุคลิก และวุฒิภาวะการเป็นผู้นำของเพนกวิน

          ขบวนการแฟลชม็อบ ก็มิได้หมายถึงแต่ละกลุ่ม แต่ละสถาบัน จะขึ้นต่อ “เพนกวิน” และผองเพื่อนในนาม สนท. หรือขึ้นต่อรุ่นพี่ในกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย

          ดังกรณีการเปิดตัว “เครือข่ายนักเรียนนิสิตนักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” เรียกย่อๆว่า “คนป.” เมื่อวานนี้

          กลุ่ม คนป.นั้น ก่อรูปมาจากตัวแทนผู้จัดกิจกรรมแฟลชม็อบรวม 45 มหาวิทยาลัย หลังจากได้เข้าแสดงความคิดเห็นต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2560 ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2563 พวกเขาได้ปรึกษาหารือกัน และจัดตั้งองค์กร คนป.ขึ้นมาเป็นองค์กรกลาง สำหรับกลุ่มอิสระในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

          สรุปว่า วันนี้ขบวนการนักศึกษามี 2 สายคือ สนท. และ คนป. แต่สององค์กรนี้ไม่ได้แตกแยกกัน เพียงแต่มีวิธีการต่อสู้ต่างกัน