่นมรร.-อาหารกลางวัน ่ อปท.ต้องรับผิดชอบ....บทวิเคราะห์ โดย ชัยวัฒน์ ปานนิล
แม้ว่า สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) จะเป็นอย่างไร งบประมาณอาหารเสริม (นม) กับอาหารกลางวันนักเรียน ที่รัฐจัดสรรผ่านท้องถิ่น ก็คงต้องดำเนินต่อไป
อ่านข่าว : เมื่อครู-รร. ฝากนักเรียนเอาไว้ที่บ้าน เงินอุดหนุนอยู่ที่ใคร
นักเรียนจะได้ดื่มนมหรือไม่ งบประมาณอาหารกลางวันจะใช้อย่างไร ยังคงเป็นปัญหา การประสานงานระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กับท้องถิ่น การติดตามอย่างเข้มข้นของ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และหน่วยตรวจสอบอื่น เหมือนว่าจะทำเอาคนท้องถิ่นหวาดผวาไปตามกัน กับการใช้สอยและเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงเวลาระบาดของเชื้อโควิด-19
หลังกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ประกาศมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการปิดเรียนยาวออกไป โดยกำหนดให้มีการเปิดเรียนของภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 แต่มีงบประมาณอย่างน้อย 2 รายการ ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ สพฐ. มีหลายคนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการใช้งบประมาณ 2 รายการ ได้แก่ อาหารเสริม (นม) และอาหารกลางวันนักเรียน
สำหรับอาหารเสริม (นม) คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาชน ได้ออกประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2563 (ครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 โดยมีเนื้อหากำหนดให้ องค์กรส่วนท้องถิ่นดำเนินการจัดซื้ออาหารเสริม (นม) และดำเนินการประสานโรงเรียนที่รับผิดชอบ และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม เพื่อกำหนดวันและวิธีการส่งมอบ นม ยู เอส ที สำหรับดื่มในช่วงเวลาที่ขยายวันปิดเทอม กำหนดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างน้อย 5 วัน ก่อนวันที่ 18 พฤษภาคม 2563
สอบถามไปยังองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นบางแห่ง ทราบว่า อยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลนักเรียนจากทางโรงเรียนเพื่อดำเนินการจัดซื้อ แต่บางแห่งตอบว่าไม่ทราบเรื่องและยังไม่ได้ดำเนินการ
อีกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ โรงเรียน ยังคงเป็นปัญหามืดแปดด้าน ไม่รู้จะแจ้งผู้ปกครองให้ทราบและมารับอาหารเสริม (นม) ได้อย่างไร ไม่ได้วางแผนว่าจะมารับวันละกี่คน ได้นมเท่าไหร่ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว ทุกอย่างยังไม่ชัดเจน เมื่อถึงเวลาต้องปฏิบัติความวุ่นวายคงเกิดขึ้นแน่นอน
ในส่วนของอาหารกลางวัน ชัดเจนว่ายอดจัดสรรงบประมาณ อยู่ที่ รายละ 20 บาท ต่อวัน ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะยังไงนักเรียนก็ต้องมาเรียน เมื่อมาเรียนก็ค่อยดำเนินการ แต่ก็มีหนังสือจากกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น ลงวันที่ 30 เมษายน 2563 แจ้งแนวปฏิบัติในการจัดหาอาหารกลางวันสำหรับเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ในช่วงการปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ให้สำรวจความต้องการของผู้ปกครองเด็กและจัดทำอาหารกลางวันแจกจ่าย โดยให้ผู้ปกครองมารับที่ศูนย์เด็กเล็กพร้อมลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารงานพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 แนวปฏิบัติดังกล่าวเป็นการแจ้งให้ทราบและดำเนินการ
มีหลายองค์กรส่วนท้องถิ่นกังวลกับหนังสือฉบับนี้ เนื่องจากเป็นเพียงแนวปฏิบัติ ไม่ใช่หนังสือสั่งการ หากปฏิบัติไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบ หรือว่า โรงเรียนประถมศึกษา ซึ่งก็ได้รับจัดสรรงบประมาอาหารกลางวันนักเรียนเช่นเดียวกัน ต้องดำเนินการตามนี้หรือจะได้หรือไม่ ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องการคำตอบ
รวมทั้งการตรวจสอบที่ค่อนข้างเข้มข้นเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น สตง. ปปท. หรือ ปปช. ที่ออกหน้าติดตามใช้ใช้งบประมาณในช่วงที่มีแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) อย่างจริงจัง สร้างความลำบากใจให้ข้าราชการในระดับ ผู้ปฏิบัติมิใช่น้อย
ได้แต่หวังว่า หลังสิ้นสุดเหตุการณ์โควิด-19 ผู้ปฏิบัติทั้งหลายจะรอดและปลอดภัยจากการถูกดำเนินการทางวินัยหรือมีความผิดจากการปฏิบัติงานกันทุกคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง