"เนวิน ชิดชอบ" โชว์โมเดลอำนาจ
“อำนาจเจริญ” จังหวัดเล็กๆ ติดชายแดนลาว มีนักการเมืองดังที่หลายคนยังจำชื่อได้ “สุทัศน์ เงินหมื่น” นักการเมืองอาวุโสแห่ง ปชป.
อ่านข่าว : 'อ๊อด 2' ดุลอำนาจ 'เนวิน-ฮั่น'
วันนี้ สถานการณ์การเมืองในอำนาจเจริญเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว คนอำนาจเจริญได้เห็นภาพอัสดงของตระกูล “เงินหมื่น” และอรุณรุ่งของกลุ่มการเมืองสายตรง “เนวิน ชิดชอบ”
เนวิน ชิดชอบ
ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 “กลุ่มภูมิใจไทอำนาจ” ได้เปิดปฏิบัติการมอบอุปกรณ์ป้องกันโควิดอย่าง face shield, หน้ากากผ้า และแอลกอฮอล์ล้างมือ แก่หน่วยงานราชการ ,หน่วยอาสาสมัคร และประชาชน
กลุ่มภูมิใจไทอำนาจ เป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่น ภายใต้การนำของ “เจ๊รวย” สุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีคมนาคม ที่เตรียมส่ง "วันเพ็ญ ตั้งสกุล" ทายาทเศรษฐีเมืองอำนาจฯ ลงสมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.อำนาจเจริญ สมัยหน้า
“เจ๊รวย” เป็นใคร? สำหรับชาวอำนาจเจริญทราบดี “เจ๊รวย” เป็นผู้มากบารมีในจังหวัด หลายคนเปรียบเธอเป็นเสมือน “แม่เมือง” คนหนึ่งทีเดียว
หลายปีที่ผ่านมา “เจ๊รวย” ตั้งกลุ่มฮักอำนาจเจริญ ประสานงานกับนักการเมืองทุกพรรคกับข้าราชการส่วนท้องถิ่น โดยมีตำแหน่งทางการคือ ที่ปรึกษาพิเศษนายก อบจ.อำนาจเจริญ
ก่อนการเลือกตั้งปี 2562 “เนวิน ชิดชอบ” นายใหญ่บุรีรัมย์ มองการณ์ไกลเลือกกลุ่ม “เจ๊รวย” เป็นตัวแทนพรรคภูมิใจไทย ในสนามอำนาจเจริญ โดยมีการวางตัว วันเพ็ญ ตั้งสกุล ลูกสาวสวัสดิ์ ตั้งสกุล นักธุรกิจร้อยล้าน กระโดดลงสนามเลือกตั้งเขต 1 และญาณีนาถ เข็มนาค เขต 2
แม้ค่ายภูมิใจไทยจะพ่ายกระแสทักษิณ แต่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 2 เขต ได้คะแนนเฉลี่ยคนละ 2 หมื่นคะแนน ก็ถือว่า โมเดลเนวินประสบความสำเร็จแล้ว เพราะเป้าหมายใหญ่คือ อบจ.อำนาจเจริญ
ดังนั้น วันที่ 8 ส.ค.2562 สุขสมรวย วันทนียกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 28 จึงได้รับการเสนอชื่อเป็นเลขานุการรัฐมนตรีคมนาคม (ศักดิ์สยาม ชิดชอบ)
การที่ “เจ๊รวย” ได้ตำแหน่งคนใกล้ชิด “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ถือว่าไม่ธรรมดาเลย และสะท้อนความสำคัญของสมรภูมิอำนาจเจริญ ที่เนวินต้องปักธงสีน้ำเงินในท้องถิ่นนี้ให้ได้
สำหรับพรรคเพื่อไทยที่ยังได้ ส.ส. 2 ที่นั่งในอำนาจเจริญ เพราะกินบุญเก่า “ทักษิณ” แต่วัดศักยภาพและความนิยมเฉพาะบุคคล ทั้งสมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ เขต 1 และดะนัย มะหิพันธุ์ ส.ส.อำนาจเจริญ เขต 2 สองคนนี้สู้กลุ่มเจ๊รวยสายตรงเนวินไม่ได้แน่นอน
นี่คือ “โมเดลอำนาจ” ของนายใหญ่บุรีรัมย์ สู้กระแสหลักสนามใหญ่ไม่ได้ ก็เล่นเป็นทีมในสนามเล็ก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง