คอลัมนิสต์

'วัคซีนไทย' หนทางดีที่สุด สู้ 'โควิด-19'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วัคซีน 'โควิด-19' คือ ความหวังของผู้คน ณ. เวลานี้ ในการนำมาจัดการกับเชื้อโรคร้าย หากประเทศไทย ผลิตได้เองจะดีที่สุด

    ในช่วงเวลาที่ไวรัส'โควิด-19' ยังคงแพร่ระบาด  สถาบันและบริษัทผู้ผลิตยาทั่วโลกไม่น้อยกว่า 35 แห่ง ต่างพยายามค้นหายาและวัคซีนเพื่อมาช่วยรักษาโรคนี้ แต่คาดว่าคงใช้เวลาอีก 6 เดือนหรือหนึ่งปี นับจากนี้

      แม้นักวิทยาศาสตร์จะมีความหวังกับการค้นหายาและวัคซีนที่กำลังดำเนินอยู่ตอนนี้ แต่พวกเขาก็ออกมาติงๆว่ามันอาจเป็นการให้คำมั่นถึงการรักษาที่ฉับไวกับสังคมเร็วไป

     ในเวลานี้การค้นหายามาช่วยรักษาไวรัส'โควิด-19' อยู่ที่การลองใช้ยาที่มีอยู่เอามาปรับใช้รักษาโรคติดเชื้อฯ ซึ่งจริงๆมันถูกพัฒนามาเพื่อรักษาโรคอื่นมากกว่า แต่อาจเป็นไปได้ที่จะเอามาช่วยรักษา'โควิด-19'

      แม้ยาเหล่านี้จะได้รับการตรวจสอบและรับรองมาแล้วว่ามีความปลอดภัย แต่มันอาจจะไม่ได้ผลในการรักษาโรคติดเชื้อ ' โควิด-19' เพราะมันไม่ได้ถูกพัฒนามาเพื่อการนี้ตั้งแต่แรก

 “การปรับใช้ยาเหล่านี้มารักษาโรคติดเชื้อฯ ก็เหมือนเราคว้าท่อนไม้มาไว้ในมือ เพื่อต่อกรกับปืน มันก็ดีกว่าสู้ด้วยมือเปล่าๆ แต่ก็ไม่ควรไปคาดหวังอะไรมาก” าโกโตะ ยูจิเกะ รองศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ชีวภาพและสัตวแพทยศาสตร์ นิปปอน ฝั่งโตเกียวตะวันตก

     นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ตัวป้องกันการระบาดที่ดีที่สุดก็คือวัคซีน แต่การพัฒนาวัคซีนนั้นยากมากและใช้เวลามาก  เพราะวัคซีนต้องเพาะมาจากเชื้อของไวรัส ซึ่งอาจทำให้มันอ่อนฤทธิ์ลงโดยการดึงยีนส์บางตัวจาก DNA ของมันออก

   ดังนั้น ถ้าประเทศเราสามารถผลิตวัคซีน'โควิด-19 'ได้เอง จะเป็นการดีที่สุด หากมัวรอความหวังให้ประเทศอื่นผลิต'วัคซีน'ต้าน โควิด-19 แล้วคิดว่าเราจะได้'อานิสงส์' ได้ใช้'วัคซีน' ต้าน'โควิด-19' ไปด้วย เอาเข้าจริงอาจไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะประเทศไหนก็ตามที่เขาทุ่มเทค้นคว้า จนพบ'วัคซีน' โควิด -19 เขาก็ต้องหวงไว้ใช้กับคนประเทศเขาก่อน และเป็นไปไม่ได้ที่หนึ่งประเทศจะผลิตวีคซีนเพื่อมาขายทั้งโลก
     เมื่อวันก่อนได้อ่านข้อความที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์  หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟส ว่า งบประมาณปีล่าสุดเราลงทุนด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์แค่ 8,000 ล้านบาท และจัดสรรงบประมาณให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติเพียง 43 ล้าน จากงบประมาณทั้งหมด 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 0.25% เท่านั้น 
    เมื่อเดือนมกราคม นักเทคนิคการแพทย์ไทยผู้เชี่ยวชาญด้านโรคอุบัติใหม่ จากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อไวรัส 'โควิด-19' ได้ก่อนจีนประกาศ 2 วัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของไทย
       วันนี้ประเทศไทยมีหลายทีมที่กำลังติดตามสถานการณ์การพัฒนาวัคซีนอย่างใกล้ชิดเช่นกัน โดยมีสถาบันวัคซีนแห่งชาติเป็นผู้ช่วยบริหารจัดการ ซึ่งนักวิจัยและแพทย์ไทยมีศักยภาพ ถ้าเราค้นพบเทคโนโลยีการผลิตวีคซีนได้อย่างรวดเร็วและสามารถผลิตได้สำเร็จ จะช่วยเหลือคนไทยด้วยกันเองได้เป็นอย่างมาก เพราะระหว่างทางที่ยังผลิดวัคซีนไม่ได้นี้  มาตรการต่างๆที่ออกมาในการป้องกันการแพร่ระบาด'โควิด-19'เป็นเพียงการซื้อเวลาให้มีความเสียหายน้อยที่สุดเท่านั้น
   คุณพิธา เสนอว่า ถ้าเราเพิ่มงบประมาณในการวิจัยให้เพียงพอ มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะสามารถผลิตวัคซีนได้สำเร็จและทันท่วงที รัฐบาลต้องคำนึงถึงงบประมาณในด้านนี้ด้วย

   เพราะนี่คือแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์สำหรับวิกฤตโควิด ประเทศไทยต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ