
"ลุงตู่" เหนื่อยเหมือนกัน
"แต่ละวันผมมีงานอื่นอยู่ไม่ใช่แค่โควิด-19 อย่างเดียว ผมก็เหนี่อยเหมือนกัน" คอลัมน์วงในวงนอก โดย สถิตย์ ธรรม
“ผมเองก็เหนื่อยเหมือนกันนะ ที่คนทุกคนเข้าหาผมได้ในทุกๆ ช่องทาง อีกทั้งผมไม่ใช่ไปเสพแต่โซเชียลอย่างเดียว ไม่รู้ว่าใครเอาไปเขียนในโซเชียลก็มีคนคัดกรองมาให้ผม แต่ละวันผมก็มีงานอื่นอยู่ ไม่ใช่แค่โควิด-19 เพียงอย่างเดียว”
คำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.63) บ่งบอกและยอมรับกับการต่อสู้กับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ท่ามกลางคำถามจากบางฝ่ายเรียกร้อง “เมื่อไรจะปิดเมือง”, “เมื่อไรจะยกระดับ 3” ทั้งที่หากกระทำเช่นนั้นทันทีจะมีผลกระทบอันใหญ่หลวง
สีหน้าไม่ค่อยสดชื่น พร้อมกับหลายคนเฝ้าดูการแถลงข่าวทางหน้าจอทีวีก่อนหน้านี้ "ลุงตู่” ซูบผอมผิดปกติ พอจะทำให้หลายคนตีความด้วยความห่วงใยต่อการสู้ศึกโรคร้ายเขย่าประเทศครั้งนี้ “มันช่างรุนแรงนัก”
กอปรกับกระแสโซเชียลอีกด้านที่มองแต่เรื่องการเมือง ออกมาปล่อยข่าวกดดันขับไล่สามเวลาหลังอาหาร ภาวะแบบนี้คนที่เป็น "ผู้นำ” ต้องใจหนักแน่นและรับฟังเสียงสะท้อนรอบด้าน เพื่อหาหนทางที่ดีที่สุดในการฟันฝ่าอุปสรรคชิ้นใหญ่ชิ้นนี้ไปให้ได้
แต่อย่างว่า บางปรากฏการณ์ของพลพรรคฝั่งหนุน "ลุงตู่” ที่ยังกระทำการเย้ยฟ้าท้าดินแบบเบาปัญญาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น คล้ายว่าผลนั้นจะดึงแต้มให้เรี่ยดินเข้าไปอีก
ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เช่น “ไพบูลย์ นิติตะวัน” รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคฝ่ายค้าน ที่จะให้เปิดประชุมวิสามัญสภาผู้แทนฯ เพื่ออภิปรายญัตติไวรัสมรณะ โดยอ้างเหตุผลว่าเกรงการติดเชื้อแบบกลุ่มในหมู่ ส.ส. และควรให้รัฐบาลทำงานไปก่อน
ศาสตรา ศรีปาน ผู้แทนฯ เมืองสงขลา ที่ออกมาโพสต์และอ้างว่าแชร์มาจากโลกออนไลน์ว่า “ประชาชนโง่เราจะตายกันหมด” ต่อมาก็ออกมาขอโทษและย้ำไม่เคยคิดดูถูกชาวบ้านร้านตลาดเช่นนี้
หรือมีการเผยแพร่ภาพบรรยากาศงานเลี้ยงวันเกิดของ ดร.ภัทรมน เพ็งส้ม เลขานุการรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมอย่างคับคั่ง ครั้น ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ พิมพ์ข้อความเตือนเพื่อน ส.ส.ในพรรค เพราะมันอาจสร้างผลกระทบต่อสังคม แต่ ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ออกมาโต้เพื่อนร่วมพรรคว่าลุงตู่ยังไม่ห้าม
แม้แต่การป่วนในการประชุมล่าสุดของ กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนฯ โดย สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
เตมียเวส จากพรรคเสรีรวมไทยนั้น จอมลีลาของ พปชร. ตอด "เดอะตู่” ว่าหากใครในห้องประชุมวันนี้ติดเชื้อไวรัสมรณะ ต้องชี้นิ้วลงโทษ "เดอะตู่” เพียงคนเดียวเพราะไม่ยอมเลิกการประชุม
กระทั่งพ่อบ้านพรรคอย่าง สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคแกนนำตั้งครม. บอกสังคมแล้วว่านโยบายพรรคที่หาเสียงไว้คงทำไม่ได้หรือทำได้ยากในภาวะบ้านเมืองและเศรษฐกิจแบบนี้
ตัวอย่างข้างต้น ไม่ใช่ผลดีในวันนี้และวันข้างหน้าสำหรับพรรคที่ชู "ลุงตู่” เป็นผู้นำประเทศเลย และมันเป็นผลกระทบระยะยาวทางการเมืองที่มิอาจเลี่ยงได้
แปลความว่า ทั้งหลายทั้งปวงมีผลแบบสบายแฮไปเลยสำหรับพรรคคู่แข่ง เพราะหยิบขึ้นมาพูดยามไหนๆ ทุบแต้มพลังประชารัฐได้ทั่วไทยคนการเมืองหลายคนมองแล้วว่า หากพรรคพลังประชารัฐยังคงภาพเช่นนี้ไปเรื่อยๆ แต้มต่อทางการเมืองของลุงตู่และพรรคร่วมรัฐบาลราคาดิ่งรายวันและยากที่จะตีตื้นกลับมา
เมื่อพรรคที่เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลวางบทบาทไว้แบบไม่แคร์สังคม ไม่ต้องมองอนาคตวันหน้าเลยว่าผลเลือกตั้งครั้งต่อไปผู้สมัคร ส.ส.ที่สวมเสื้อของพรรคนี้จะหลุดเข้ามาทำงานย่านเกียกกายได้กี่ชีวิต
เพียงเท่านี้...อ่านกันออกล่วงหน้าแล้วว่า ความป้อแป้และไร้เสถียรภาพของพรรคแกนนำรัฐบาลในสายตานักต่อรองเป็นเช่นใด ผนวกกับอาการไปคนละทิศคนละทางของพรรคร่วมในการแก้ปัญหานี้ แถมด้วยข่าวเชิงลบหลายกรณีของคนในพรรคร่วมรัฐบาล ผลเชิงบวกทางการเมืองไหลรวมไปยังขั้วต้าน "ลุงตู่” แบบชิลๆ ในยามนี้และยามหน้า
หากแกนนำพรรคร่วมยังกำราบ ส.ส.และคนในพรรคให้อยู่ในกรอบมิได้...งานนี้เรือเหล็กจอดไม่ต้องแจวและล่มได้ทุกวินาที อนาคตบนถนนการเมืองของ "ลุงตู่” อาจรูดม่านเร็วกว่ากำหนดก็เป็นไปได้