คอลัมนิสต์

น้ำใจเหนือมาตรการ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

น้ำใจเหนือมาตรการ บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันอังคารที่ 10 มีนาคม 2563

 

 


          ลำพังมาตรการอันเข้มข้นจากหน่วยงานต่างๆ ในภาครัฐ เห็นทีว่า อาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควรกับการสร้างเกราะปราการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ในประเทศไทย หลังจากที่มีข่าวว่า กลุ่มแรงงานผู้ที่เข้าเมืองผิดกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้ หรือผีน้อย เดินทางกลับประเทศก่อนประเทศไทยจะใช้มาตรการกักกันตัว ได้หลบหนีการกักตัวไปหลายสิบคน นั่นยิ่งทำให้น่าวิตกว่า บรรดาผู้เดินทางกลับจากประเทศสุ่มเสี่ยง 4 ประเทศ คือ จีนรวมทั้งมาเก๊าและฮ่องกง เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน ซึ่งตามกติกาแล้วจะต้องลงทะเบียน และรายงานตัวแจ้งอาการตามความเป็นจริงทุกวันตลอด 14 วัน รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากประเทศดังกล่าวจะหลบหนีมาตรการนี้ด้วยหรือไม่

 

อ่านข่าว...  หนุ่มควักเงินส่วนตัวบวกถูกหวยซื้อหน้ากากอนามัยแจกกว่า 22 รพ.

 

 

          ปรากฏการณ์เช่นนี้ ย่อมเป็นเรื่องยาก แม้ว่ารัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะออกมาย้ำเตือนว่า ควรร่วมกันระมัดระวังและป้องกันดีกว่า ความตื่นตระหนก ซึ่งจะสร้างความเสียหายได้มากกว่า ดังเช่นกรณีการปิดโรงเรียน 5 วัน ที่ อ.บ่อพลอย กาญจนบุรี พร้อมกับรวมพลังองค์กรท้องถิ่น บุคลากรครูผู้ช่วย ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการและลูกจ้างชั่วคราวจำนวนหลายสิบคน ช่วยกันฉีดน้ำล้างโรงอาหาร ห้องเรียน ฯลฯ เพราะก่อนหน้านี้มีผู้ปกครองของนักเรียน 2 คนเพิ่งเดินทางกลับจากบาห์เรนและมาส่งลูกที่โรงเรียน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อ นี่คือความหวาดผวา หรือเป็นความละเอียดรอบคอบ หรือว่า กลัวไว้ก่อนปลอดภัยกว่า


          ขณะเดียวกัน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ก็ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่องรัฐร่วมราษฎร์ข้ามปัญหาโควิด-19 ระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคม ที่ผ่านมา พบว่า ข่าวคราวเกี่ยวกับโควิด-19 สร้างความวิตกกังวลในหลากหลายมิติด้วยกัน อย่างเช่น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 90 ติดตามข่าวไวรัสโควิด-19 และร้อยละ 75.2 กังวลเกี่ยวกับกลุ่มคนที่ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น กลุ่มผีน้อย คนมาจากประเทศเสี่ยงสูง ว่าจะขาดความรับผิดชอบต่อสังคม ร้อยละ 67.9 กังวลผลกระทบต่อสุขภาพและสาธารณสุข ร้อยละ 63.2 กังวลเรื่องผลกระทบธุรกิจการท่องเที่ยว ร้อยละ 46.4กังวลธุรกิจขาดทุน คนตกงาน ร้อยละ 44.5 กังวลเรื่องจะเกิดความกลัวในหมู่ผู้คน รวมทั้งยังสนับสนุนให้กักตัวผู้มาจากประเทศแพร่ระบาดสูงจาก 14 วัน เป็นเวลา 27 วัน

 



          อีกหนึ่งความวิตกกังวลก็คือ มาตรการเข้มข้นเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจาก 4 ประเทศเสี่ยง ล่าสุดสำนักงานการบินพลเรือนได้ออกประกาศให้นักท่องเที่ยวต้องผ่านการตรวจจากประเทศตนเองก่อนออกบอร์ดดิ้งพาส ถ้าตรวจไม่ผ่านก็ห้ามขึ้นเครื่องมาไทย แม้ประกาศนี้จะมีขึ้นเมื่อวันที่ 8 มีนาคม หลังมีข่าวผีน้อยหลบหนีก่อนหน้านั้น แต่ก็ยังถือว่า เป็นมาตรการที่ดีเพื่อระงับยับยั้งชาวต่างชาติที่สุ่มเสี่ยงตั้งแต่ต้นทาง ปัญหาใหญ่ขณะนี้ จึงน่าจะอยู่ที่ความร่วมมือร่วมใจของประชาชนชาวไทยด้วยกันเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรับผิดชอบต่อส่วนรวมและยอมเสียสละ เพื่อให้ประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้ ซึ่งที่สุดก็จะเป็นความปลอดภัยของคนไทยทั้งชาติ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ