คอลัมนิสต์

อย่าหลงทิศผิดทาง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อย่าหลงทิศผิดทาง บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันจันทร์ที่ 1 มีนาคม 2563

 

 


          เริ่มมีการพูดและแสดงความคิดเห็นกันมาก รวมถึงการแสดงความห่วงใยกับการออกมาเคลื่อนไหวของเหล่าเยาวชน นิสิต นักศึกษา รวมถึงนักเรียน จากสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่พร้อมใจกันออกมาชุมนุมที่เรียกกันว่า แฟลชม็อบ เพื่อต่อสู้เผด็จการทวงถามหาประชาธิปไตยกันอีกครั้ง หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่จากคดีเงินกู้ 191 ล้านบาท กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี และดูเหมือนว่าไฟการเมืองจากฐานรากวงการศึกษานี้จะจุดติดขยายวงออกไปเรื่อยๆ เหมือนไฟไหม้ฟาง ส่งผลให้เกิดคำถามและจินตนาการย้อนกลับไปราว 40 ปีหากมีใครนำน้ำมันมาราดกองไฟกองนี้ และเมื่อเปลวเพลิงลุกโชนรุนแรงยากที่จะดับ นำไปสู่ความสูญเสียในเหตุการณ์วิปโยค 14 ตุลาคม 2516 สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและเป็นแผลอยู่ในใจของใครอีกหลายๆ คนกับความทรงจำอันเจ็บปวดครั้งนั้น

 

อ่านข่าว...  แฟลชม็อบ ราชประสงค์ เรียกร้อง ปชต. ตำรวจตรึงกำลังเข้ม

 

 

          ไม่มีใครปฏิเสธถึงการเคลื่อนไหวดังกล่าว ที่เปรียบเหมือนพลังบริสุทธิ์อีก 1 บริบทในสังคมไทยที่ได้ร่วมสร้างสรรค์เรียนรู้การมีส่วนร่วมทางการเมือง ถือเป็นเบ้าหลอมให้สังคมมีความเข้มแข็งเมื่อพวกเขาเติบใหญ่สร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติสังคมไทยในอนาคต แต่นั่นต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขรากฐานความเป็นมาอย่างถูกต้อง มิใช่การหล่อหลอมที่ถูกปลูกฝังทางความคิดจากคนบางกลุ่มบางขั้วที่ใช้วาทกรรมบูดเบี้ยวหวังผลบางประการ มาปลุกปั่นเยาวชนใช้เป็นเกราะกำบังเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนหรือพรรคพวกตนเองโดยมิคำนึงถึงผลเสียอันใหญ่หลวงที่จะตามมา พร้อมทั้งฉกฉวยโอกาสนำภาพการชุมนุมมาโพสต์ปลุกระดมในโลกโซเชียลอวดอ้างสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง โดยเรียกร้องให้เยาวชนเหล่านั้นออกมาใช้สิทธิอันชอบธรรมในฐานะเจ้าของประเทศ เพื่อต่อสู้กับความผิดปกติในสังคม


          อันที่จริงแล้วการแสดงออกทางการเมืองถือเป็นสิทธิเสรีภาพที่พึงกระทำ แต่ด้วยความที่เป็นเยาวชนพรรษาทางการเมืองยังไม่แข็งกล้าอาจโดนปลุกปั่นยั่วยุได้ง่าย และเมื่อสถานการณ์รุมเร้าทำให้อารมณ์อาจอยู่เหนือสติ ความยับยั้งชั่งใจจึงมีน้อย ทำให้บางคนอาจจะแสดงเกินขอบเขตไม่น่าเอ็นดูตามวัย ซึ่งตอนนี้ก็มีให้เห็นและได้ยินกันบ้างแล้วถึงเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควร มีการใช้คำพูดหมิ่นเหม่มาตรา 112 ที่สำคัญนักศึกษาหลายร้อยคนที่ร่วมชุมนุมปรบมือเห็นด้วย สอดรับกับแนวทางของบางพรรคการเมืองที่เล่นใต้ดินสอดใช้เรื่องเหล่านี้ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งในเรื่องนี้รัฐบาลตระหนักและเป็นกังวลอย่างมาก โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเตือนถึงการแสดงความคิดเห็นให้ระมัดระวังห้ามจาบจ้วงหรือพาดพิงสถาบันอย่างเด็ดขาด




          สังคมเริ่มจับตาและพูดกันหนาหูถึงความพยายามของคนบางพวก ที่ต้องการสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราอีกครั้ง โดยสร้างภาพผลักดันเยาวชนทั้งหมดให้เป็นพวกชังชาติ จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายรวมถึงหน่วยงานภาครัฐจะต้องเข้ามาตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไม่ให้เหตุการณ์บานปลายเข้าทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ล่าสุด ส.ส.เตรียมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นทางการเมืองของนักเรียน นักศึกษา ตามสถานศึกษาต่างๆ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมสภาต่อไป โดยการรับฟังความคิดเห็นเปิดกว้างทางออนไลน์ด้วย ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่คนต่างรุ่นจะได้เรียนรู้วิถีสังคมการเมืองของกันและกัน เรียนรู้ประวัติศาสตร์ให้เห็นว่าความแตกแยก การไร้ความสมานฉันท์ เป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความถดถอย เสื่อมโทรมให้แก่ประเทศชาติ เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้เติบโตอย่างมีคุณภาพในสังคมไทยต่อไป

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ