คอลัมนิสต์

แดง เตรียม โพเดี้ยม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แดง เตรียม โพเดี้ยม คอลัมน์... ถอดรหัสลายพราง โดย... พลซุ่มยิง

 

 


          จับตาวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จะมี ‘เซอร์ไพรส์’ อีกหรือไม่ ในการเป็นประธานประชุมหน่วยขึ้นตรง (นขต.) วาระพิเศษ โดยมีผู้บังคับหน่วยระดับกองพันขึ้นไป ตั้งแต่ผู้บังคับการกรม ผู้บัญชาการกองพล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ทั่วประเทศกว่า 700 นาย เพราะมีคำสั่งให้เตรียมห้องและโพเดี้ยมเอาไว้

 

 

          ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการประชุม นขต.วาระพิเศษ ไม่ได้จัดขึ้นแบบกะทันหัน หรือเพื่อเหตุการณ์อื่นใดเป็นกรณีพิเศษ แต่เป็นไปตามวงรอบในทุกๆ 3 เดือน โดยครั้งสุดท้ายจะมาบรรจบในเดือนธันวาคมของทุกปี โดย “บิ๊กแดง” จะพบปะ ผบ.คุมกำลังรบ เพื่อเน้นย้ำการทำงานตามกรอบภารกิจในภาพรวมและการสนับสนุนงานรัฐบาล เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยทั้งภายในและนอกประเทศ


          และในเวลาไล่เลี่ยกันจะมีการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพที่จัดขึ้นสองเดือนต่อ 1 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นคิว “บิ๊กแดง” เปิดกองทัพบก ให้เป็นสถานที่จัดการประชุมในวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่ง พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน โดยมี พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)


          ตบท้ายด้วยการประชุมสภากลาโหมในห้วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ ในเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ธันวาคม ที่กระทรวงกระทรวงกลาโหม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยมีหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และผบ.เหล่าทัพ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง


          เหตุที่ต้อง ‘โฟกัส’ ไปที่ความเคลื่อนไหวของหน่วยงานความมั่นคงในช่วงปลายเดือนธันวาคม เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักที่ต้องสนับสนุนรัฐบาลในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงวันหยุดยาวเพื่อให้ประชาชนเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่อย่างมีความสุขและมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน




          เพราะนอกจากต้องอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัยแล้ว การลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตก็ถือเป็นภารกิจหนึ่งที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือเข้าไปดูแล หรือแม้แต่การฉวยโอกาสลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศบริเวณชายแดน อีกทั้งการบำรุงขวัญเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจที่ต้องเสียสละปฏิบัติภารกิจโดยไม่ได้หยุด


          ประเด็นสำคัญความเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ประเดิมจัดกิจกรรม ‘แฟลชม็อบ’ ในหัวข้อ “เมื่อเสียงที่พวกเราเลือกเข้าสภาไม่มีค่า ได้เวลาประชาชนออกมาส่งเสียงด้วยตัวเอง” ด้วย ‘คำขู่’ ที่ว่าจะพาประชาชนลงถนนและเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญด้วย ‘เลือด’ ควบคู่เวทีคู่ขนานในต่างจังหวัด พอได้ ‘อุ่นเครื่อง’ กันพอหอมปากหอมคอ เพื่อเตรียมพร้อมเขย่าบังลังก์ “บิ๊กตู่” ผ่านกิจกรรม ‘วิ่งไล่ลุง’ ในปีหน้านี้


          ลำพังเพียงกลุ่มก้อน ‘ธนาธร’ ไม่ใช่ประเด็นที่หน่วยงานความมั่นคงต้องมานั่งกุมขมับ เพราะประเมินแล้วว่า ‘เงื่อนไข’ ยังไม่สามารถปลุกเร้าให้เกิดการชุมนุมขนาดใหญ่เฉกเช่นในอดีต อีกทั้งยังมีพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะปี 2558 เป็นเครื่องมือสำคัญที่กำหนดให้การเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่เหมาะสม


          แต่ปัญหากลุ่มเคลื่อนไหวใต้ดินที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญและพุ่งเป้าไปยังการก่อเหตุนอกพื้นที่ของบุคคลเดินทางขึ้นมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) เพราะบทเรียนในอดีต กรณีลอบวางระเบิดหลายจุดในกทม. ซึ่งเป็นสถานที่เปรียบเสมือนหัวใจหน่วยงานความมั่นคงเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเขย่าขวัญประชาชนมาแล้ว


          แม้เหตุการณ์ในครานั้นสามารถจับกุมผู้ปฏิบัติการทั้งหมดแต่ก็สาวไม่ถึง ‘ไอ้โม่ง’ ที่เป็นตัวการสำคัญที่ยังรอจังหวะและโอกาสสั่นคลอนเสถียรภาพ-ดิสเครดิส รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงอีกระลอก ให้สอดรับกับเกมการเมืองทั้งในและนอกสภาที่เปรียบเสมือนการวิ่งผลัดรับส่งไม้กันเป็นทอดๆ หวังรัวหมัดฮุก ‘บิ๊กตู่’ ให้บอบช้ำแล้วไป ‘น็อกเอาท์’ ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ


          ต้องรอดูว่าการปรากฏตัวของ ‘บิ๊กแดง’ พร้อมคำสั่งเตรียมโพเดี้ยมในวันศุกร์นี้ จะมีการส่งสัญญาณเตือนไปยังกลุ่มที่เล่นนอกเกมหวังใช้ความมั่นคงของประเทศ และความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนเป็น ‘เดิมพัน’ เพื่อเขย่ารัฐบาล “บิ๊กตู่” อย่างไร


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ