จำชื่อนี้ไว้ บุรินทร์ ทองประไพ มือฟ้องดะ

      ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก "บิ๊กเอก" พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก และผู้ชำนาญการสำนักงาน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า หรือที่รู้จักกันดี มือกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)หลังเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี 12 แกนนำฝ่ายค้าน เปิดเวทีเสวนาในหัวข้อ "พลวัตรแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่" กระทำความผิดมาตรา 116

     โดย พล.ต.บุรินทร์ จบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ปริญญาโท คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก่อนรับราชการเป็นนายทหารประจำ กรมพระธรรมนูญ ,เป็นอัยการฝึกหัด สำนักงานอัยการทหาร กรมพระธรรมนูญ (อกฝ.สอท.ธน.)

      จากนั้น เป็น นายทหารพระธรรมนูญกรมทหารราบที่ 9 (นรน.5.ร.9),อัยการผู้ช่วย ศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 13 (อกช. ศาล มทบ.13) ,อัยการผู้ช่วยศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 23(อกช. ศาล มทบ.23 ),นายทหารประจำแผนกงานวินิจฉัย, นายทหารกองนิติธรรม(กนท.ธน.), นายทหารพระธรรมนูญผู้ช่วยกรมการทหารสื่อสาร (นธช.สส.),

       ต่อด้วย นายทหารพระธรรมนูญ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (นธน.พล.ม.2รอ.) ,ฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา, นายทหารปฏิบัติการประจำ กองบัญกองทัพบก และผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูทหารบก(ผอ.สธน.ทบ.)

     บุคลิกส่วนตัว 'พล.ต.บุรินทร์ 'เป็นคนพูดจาโผงผาง ตรงไปตรงมา และเป็นนักกฎหมายอารมณ์ดี เป็นกันเอง ผลงานที่ผ่านมาเข้าตาผู้บังคับบัญชา และปัจจุบันกำลังศึกษาต่อระดับ 'เนติบัณฑิต'

      ทั้งนี้ พล.ต.บุรินทร์ เป็นที่รู้จักกันหลังเหตุการณ์ รัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ในขณะนั้นมียศ'พันเอก' ในตำแหน่ง นายทหารปฏิบัติการประจำ กองบัญกองทัพบก หรือ นายทหารพระธรรมนูญ ในฐานะหัวหน้าส่วนปฏิบัติการ คณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. คู่กับ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก ที่พึ่งเกษียณอายุราชการเมื่อ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา

       ในห้วง 4 ปี ของยุค คสช. ชื่อ พ.อ.บุรินทร์ ดังกระฉ่อนในหมู่ นักการเมือง นักวิชาการ และกลุ่มนักเคลื่อนไหว ที่ต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช.ในขณะนั้น เพราะเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืน คำสั่ง ประกาศ ของ คสช.เรียกได้ว่า เกือบพันคดีที่เกิดขึ้น มีชื่อ "พ.อ.บุรินทร์" เป็นผู้แจ้งความเกินครึ่งของคดีทั้งหมด

      จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ชื่อ พ.อ.บุรินทร์ (ยศในขณะนั้น) กลายเป็นที่จดจำของคู่กรณี โดยเฉพาะกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ นำโดย นายสิรวิชญ์ เสรีธีวัฒน์ หรือ จ่านิว  หรือนายรังสิมันต์โรม แกนนำคนอยากเลือกตั้ง  ปัจจุบัน เป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ร่วมถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกแจ้งความหลายข้อหาด้วยกัน

     แม้แต่การแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ข้อหาหมิ่นประมาท หลังวิจารณ์เครื่องหมายบนเครื่องแบบทหารของ"บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ก็มีชื่อ 'พ.อ.บุรินทร์' เป็นหนึ่งในผู้รับมอบหมายเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์

      หลังการเลือกตั้ง 22 มี.ค.2562 เกิดขึ้น มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมๆกับการสลายตัวไปของ คสช. ชื่อ พ.อ.บุรินทร์ เงียบหายอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนจะมาปรากฎในบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2562 ที่ผ่านมา ได้เลื่อนยศเป็น 'พลตรี'และขยับเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก 

     ชื่อ 'พล.ต.บุรินทร์' มาเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้ง หลังได้รับมอบอำนาจ จาก พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้แจ้งความดำเนินคดี 12 แกนนำฝ่ายค้าน กระทำความผิดมาตรา 116 เปิดเวทีเสวนาในหัวข้อ "พลวัตรแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่" 

      จนถูกฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก "พล.ต.บุรินทร์"ได้ดีเพราะเป็นเครื่องมือให้ คสช.และเตรียมแจ้งความกลับข้อหา แจ้งความเท็จ นอกจากนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะประธานประธานกรรมาธิการ (กมธ.)กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษชน เตรียมใช้อำนาจ กรธ. เรียกมาชี้แจง ถึงหลักกฎหมาย และองค์ประกอบผู้ทำความผิด ตามม.116 

       งานนี้เรียกว่า มวยถูกคู่ นักกฎหมาย เจอกับนักกฎหมาย ฟ้องมาก็ฟ้องกลับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ พยาน และหลักฐานจะเป็นตัวตัดสินถูก-ผิด หรือใครใช้อำนาจโดยมิชอบ

      แต่ที่แน่ๆ 'พล.ต.บุรินทร์' เกษียณอายุราชการปี 2564 งานนี้คงได้เจอกันอีกหลายยก