คอลัมนิสต์

โปรโมชั่นเลิกเกณฑ์ทหาร ยั่วชายไทยสมัครแต่ไม่เข้าตากองทัพ

โปรโมชั่นเลิกเกณฑ์ทหาร ยั่วชายไทยสมัครแต่ไม่เข้าตากองทัพ

01 ต.ค. 2562

คมชัดลึกออนไลน์ เปิดใจพล.ท.พงศกร รอง หน.อนค.ถึงการผลักดันร่างพ.ร.บ.ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และรับฟังข้อมูลพล.ท.คงชีพ โฆษกกลาโหมเพื่อ ปชช.ได้รับฟังข้อมูลสองด้าน

    จิตตราภรณ์ เสนวงค์ 

    กลับมาเป็นประเด็นอยู่ในความสนใจสังคมอีกครั้ง หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งเหล่าทัพ เปิดใจรับและนำ ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกเกณฑ์หาร ของพรรคอนาคตใหม่ ไปศึกษาพิจารณา ถึงข้อดี -ข้อเสีย เพื่อเตรียมข้อมูลนำไปชี้แจง ก่อน ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวจะถูกเสนอเข้าสู่สภาพิจาณาสมัยประชุมหน้า

      ‘คมชัดลึกออนไลน์’ ได้เปิดใจ เสธโหน่ง พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถึงร่างพระราชบัญญัติรับราชการทหาร ฉบับ พ.ศ....หรือที่รู้จัก ‘ ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร’ ในขณะเดียวกันก็รับฟังข้อมูลจาก “เสธ ต้องพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีข้อบกพร่องหรือไม่? เพื่อให้ประชาชนได้รับฟังข้อมูลทั้งสองด้านประกอบการตัดสินใจ

******************* 

     พล.ท.พงศกร : นี่คือการพลิกโฉมหน้าใหม่ของกองทัพไทย หาก ร่างพระราชบัญญัติรับราชการทหาร ฉบับพ.ศ....ของพรรคอนาคตใหม่ถูกบังคับใช้ เราจะเป็นทหารอาชีพสามารถยืนเคียงข้างทหารต่างชาติด้วยความรู้สึกที่เท่าเทียม ตนอยากเห็นภาพทหารไทยเมื่อกลับมาจากปฏิบัติภารกิจจากต่างประเทศมีประชาชนมาตบมือต้อนรับ เช่นเดียวกับทหารสหรัฐฯ เมื่อกลับมาจะมีคนอเมริกันเข้าไปสวมกอดจับมือ เราอยากให้ทหารไทยมีภาพแห่งเกียรติยศเช่นนั้น

        ตนยอมรับว่าปัจจุบันนี้กองทัพไทย มีความเข้มแข็งอยู่แล้วอยู่ในอันดับระหว่าง 20 ถึง 24 ของโลก เพียงแต่‘อนาคตใหม่’ อยากให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เราต้องการคนที่จบการศึกษาระดับมัธยมปลาย(ม.6) เข้ามาเป็นทหารไม่ใช่ใครก็ได้เพียงแค่นี้พื้นฐานด้านความรู้ก็เปลี่ยนแล้ว 

        แต่ในปัจจุบัน พ.ร.บ.รับราชการทหารที่ใช้อยู่ ไม่สามารถจะเอาคนที่จบ ม.ปลายมาเป็นทหารได้ เนื่องจากคนเหล่านี้ไปเรียนนักศึกษาวิชาทหาร หรือ รด. กันหมด เพราะเขาไม่อยากเป็นทหาร

        ‘อนาคตใหม่’จึงมองว่า ถึงเวลาแล้ว ‘กองทัพ’ควรเปลี่ยนแปลง เพราะโลกเปลี่ยนไปมากแล้ว การรบในต่างประเทศได้นำเทคโนโลยี เครื่องมือ เข้ามาแทนที่กำลังคน

        ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีกำลังพลที่มีความรู้ ความสามารถซึ่งการทำเช่นนั้นได้จะต้องเปิดรับสมัครตาม ร่าง พ.ร.บ. รับราชการทหาร ฉบับ พ.ศ....ของ อนาคตใหม่ เปิดรับสมัครชายไทย อายุ 18 ปี จบการศึกษาระดับม.ปลาย สามารถทำงานได้จนถึงผู้บังคับการกองพัน อายุไม่เกิน 46 ปีบริบูรณ์

      "คุณอย่ากลัว แล้วคิดเพ้อเจ้อไปเองว่า คนจะไม่มาสมัคร เพราะมีคนทำจนประสบความสำเร็จมาแล้วในประเทศยุโรป เพราะนอกจากเรายึดโมเดลสหรัฐฯแล้ว ยังสอดคล้องกับของเยอรมันที่เป็นโมเดลหลักของกองทัพทั่วโลกอยู่แล้ว เชื่อผมคนมาเยอะแน่ จนต้องสอบแข่งขัน ซึ่ง ร่าง พ.ร.บ.ฯของ อนาคตใหม่ เราเพิ่มแรงจูงใจเรื่องเงินเดือน สวัสดิการ ความมั่นคง และก้าวหน้าในหน้าที่ครอบคลุมหมดแล้ว"

        ตนจะอธิบายให้เห็นภาพว่า จากเดิมกองทัพเคยเกณฑ์ทหารมาปีละแสนคน ก็เปลี่ยนมารับสมัครโดยลดจำนวนลงเหลือ ปีละ 2 หมื่นคน ปฏิบัติงาน 5 ปี ในขณะที่ทหารเกณฑ์ในระบบเดิมก็ยังคงอยู่ เมื่อถึงเวลาปลดประจำการทหารอาสาสมัครเข้ามา ก็จะเข้ามาแทนที่ ปีละ 2 หมื่นคน ครบ 5 ปี กองทัพก็มีกำลังพลจำนวน 1 แสนคนเท่าเดิม และยังมีการฝึกที่ยาวนานสร้างความชำนาญ มีขีดความสามารถในหลายด้านกว่า ระบบเดิมที่ฝึกแค่ ปีครึ่งหรือสองปี ก็ปลดประจำการ ในขณะที่งบประมาณก็ใช้เท่าเดิม และยังมีเงินเหลือจัดหายุทธโธปกรณ์ประจำกายให้ได้ดีกว่าเดิม

      แต่ยอมรับว่าในห้วง 3 ปีแรก อาจจะขรุขระอยู่บ้าง ซึ่งกองทัพก็ต้องไปบริหารจัดการให้ดี และเมื่อทหารอาสาสมัครอยู่ครบ 5 ปี จะได้เงินทุนก้อนหนึ่งโดยจัดสรรให้จากงบประมาณแผ่นดินให้ไปประกอบอาชีพ

      แต่กรณีที่อยากเป็นทหารต่อมี 2 แนวทาง คือ เป็นทหารอาสาสมัครเพิ่มอีก 5 ปี ก็จะได้เงินเดือนเพิ่มและเงินออมเพิ่มตามไปด้วย หรือถ้าไม่อยากเป็นทหารอาสาสมัครแล้ว อยากจะเป็นทหาร ก็ต้องเข้ามาสอบแข่งขัน เป็นนายสิบ จนถึงสิบเอก ใช้เวลา 5 ปี, ระดับจ่าอีก 5 ปี ,ร้อยตรีถึงร้อยโทอีก 5 ปี ,ร้อยเอก 5 ปี ,พันตรี 5 ปี  และเขาก็จะไปจบอยู่ที่อายุประมาณ 40 ปี เป็นพันโท ถ้ามีความสามารถได้เป็น‘ผู้บังคับกองพัน’ต่อไปเมื่อมีคนอาสาสมัครมาเป็นทหาร ก็จะไม่มีคนไปเรียน รด.

    ดังนั้นหน่วยบัญชาการกำลังสำรอง จะแปรสภาพเป็นหน่วยฝึกกลางที่จะมีระบบการฝึกมาตรฐานเดียว ที่จะตัดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและให้ความรู้ตามหลักการประชาธิปไตย กติกาทหารระหว่างประเทศ  ดังนั้นทหารจบจากมหาวิทยาลัยจะมีความสามารถเท่ากับทหารที่จบจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.)

      "เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณยังคิดว่าไม่มีคนมาสมัครอยู่อีกไหม

      และถ้าเป็นตามนี้ อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของกองทัพจะเป็นกำลังที่เป็นนักรบที่เข้มแข็ง แล้วกองทัพไม่ต้องการหรืออย่างไร และ การมีหน่วยฝึกกลาง ตัดปัญหาระบบอุปถัมภ์ เด็กเส้น ลูกผู้ใหญ่ในกองทัพ คนพวกนี้ไม่อยากเหนื่อย หรือ ลำบาก

       นอกจากนี้ ร่าง พ.ร.บ.ฯฉบับดังกล่าวยังกำหนดไว้ชัดเจน ห้ามนำทหารไปใช้ส่วนตัว เช่น เลี้ยงไก่

    ตนอยากชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการเกณฑ์ทหาร เราไม่ได้ยกเลิกไปเสียทีเดียว แต่จะทำต่อเมื่อประเทศเกิดภาวะสงครามซึ่งจะมีสิ่งบอกเหตุว่าสงครามจะเกิดอย่างน้อยเป็นปียังมีเวลาเพียงพอที่จะเกณฑ์ทหารเข้ามา โดยฝึกขั้นต้น 3 เดือน ขั้นสูง 3 เดือน รวมเป็น 6 เดือน กำลังพลพร้อมออกไปรบได้

     "ผมว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่นายกฯบอกให้ เหล่าทัพเปิดใจ พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ฯฉบับนี้ อย่ามัวคิดว่า เป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล หรือต้องถือหางใครสักอย่าง แล้วบอกไม่ยอมอย่างเดียว ให้หันมามองในเนื้อหาซึ่งผมคิดว่าทหารจริงๆจะเข้าใจกัน ว่าเป็นสิ่งที่ดี  แต่ถ้าไม่ผ่านสภา เราจะเก็บ ร่าง พ.ร.บ.ฯฉบับนี้ไว้ก่อนและเมื่อได้เป็นรัฐบาล จะผลักดันอีกที แต่ส่วนตัวผมเชื่อว่า เสียงสะท้อนจากสังคม จะเป็นแรงกดดันไปยัง ส.ส. ทำให้ร่าง พ.ร.บ.ฯฉบับนี้ผ่านสภาแน่นอน"

*******

      พล.ท.คงชีพ : กองทัพมองผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก สิ่งที่พรรคการเมืองเสนอเพื่อให้กองทัพเข้มแข็ง หรือมีกำลังพลที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่ตรงกับสิ่งที่กองทัพกำลังปฏิรูปอยู่แล้ว

แต่โดยภาพรวมก็ต้องมาคุย ทำความเข้าใจกันในระบบงานด้านความมั่นคง ไม่ใช่จู่ๆมาขอยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และเราไม่อยากให้ทำเพื่อเอาใจคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแต่อยากให้ทำด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล ความจำเป็น

     ตนยืนยันว่า กองทัพรับฟังทุกความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เรามองว่าเป็นเจตนาดีที่ทำให้กองทัพมีความเข้มแข็งขึ้น โดยเฉพาะการปรับปรุงระบบงานกำลังพล

   ในขณะเดียวกันต้องรับฟังเสียงของประชาชนรวมถึงกองทัพเนื่องจากในฐานะที่กองทัพเป็นหน่วยรับผิดชอบ

     และหากมีความจำเป็นยกเลิกเกณฑ์ทหารการเปลี่ยนผ่านตรงนี้จะต้องไม่กระทบระบบงานความมั่นคงและระบบงานกำลังพลของกองทัพ

      "นายกฯ เป็นคนใจกว้าง และเห็นว่าพรรคฝ่ายค้านเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ฯนี้เข้าสภา ซึ่งจะมีผลกระทบกับกฎหมายหลายฉบับของกระทรวงกลาโหมและกระทรวงอื่น ทั้งด้านภาระงบประมาณ,ความพร้อมสถานภาพกำลังรบ,ความมั่นคง,ระบบงบประมาณ,ระบบฐานข้อมูลกำลังพล และในฐานะที่กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ พ.ร.บ.ฉบับนี้ จึงให้ไปศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย สิ่งไหนทำได้ หรือไม่ได้จะได้เป็นข้อมูลให้ สภาร่วมกันพิจารณา"

      ส่วนระบบการเกณฑ์ทหารในปัจจุบันจากกฎหมายหรือ พ.ร.บ.การรับราชการทหาร กำหนดไว้ว่า ชายไทยทุกคนต้องรับใช้ชาติ ซึ่งถือเป็นความต้องการนำกำลังพลไปใช้งานของกระทรวงกลาโหม

   โดยกระทรวงมหาดไทย มีส่วนร่วมจัดคนเข้าระบบ เพื่อเข้ามาสู่การเกณฑ์ทหารมารับใช้ชาติด้วย เพื่อให้ชายไทยทุกคนหมุนเวียนเข้ามาดูแลแผ่นดินเกิดและมีความรับผิดชอบต่องานด้านความมั่นคงรวมถึงประเทศชาติและประชาชน โดยใช้ระบบการเข้ารับราชการทหารแบบผสมผสาน

     โดยแบ่งการตรวจเลือกการเกณฑ์ทหารเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ต้องการเป็นทหารโดยสมัครใจ มีจำนวน 40-45 % ของความต้องการในแต่ละปี 2.กลุ่มที่ถือเป็นหน้าที่ชายไทยที่ต้องทำตามกฎหมายในการตรวจเลือก หรือการจับใบดำใบแดง และ 3. กลุ่มที่ไม่ต้องการรับราชการทหารแม้จะมีแรงจูงใจมากเท่าไหร่ก็ตาม

        "ผมอยากให้ดูความพร้อมของคนที่สมัครใจเข้ามาเป็นทหารด้วยว่ามีหรือไม่ ที่เสนอมาทั้งหมดในเรื่องการเพิ่มเงินเดือน สวัสดิการให้ทุนเรียนจบปริญญาตรี เป็นเรื่องดี เพราะเป็นแรงจูงใจที่จะทำให้คนสมัครเข้าเป็นทหารมากขึ้น ทำให้กำลังพลมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ทำได้มากน้อยแค่ไหนเกิดภาระงบประมาณระยะยาวหรือไม่ ต้องดูภาพใหญ่ และระบบดังกล่าวทำให้กำลังพลของกองทัพมีความพร้อมในการปฏิบัติการรบได้จริง หรือแม้แต่กรณีให้เกณฑ์ทหารยามสงครามซึ่งกองทัพก็เคยใช้การเกณฑ์ทหารเฉพาะในยามสงครามแล้ว แต่ปรากฏว่ากำลังพลไปตายจำนวนมากเนื่องจากเราไม่มีความพร้อมในการฝึกสงครามไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะเกิดเมื่อไหร่ ดังนั้นการฝึก 6 เดือนก่อนออกรบจะเพียงพอหรือไม่ ที่จะไม่ส่งกำลังรบ หรือลูกหลานของเราไปตายหรือแพ้ในสนามรบ"

       ตนมองว่าสุดท้ายแล้ว ต้องใช้กลไกในสภาร่วมกันพิจารณาน่าจะเกิดความรอบคอบ และหาก พ.ร.บ.ฯ ฉบับนี้ผ่าน กองทัพก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนอยู่แล้ว

     แต่ขอให้ทำด้วยเจตนาดี ไม่มีอคติ และอยากจะให้ระบบงานความมั่นคงมีกำลังพลที่เพียงพอเหมาะสมในการดูแลความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ เพราะหากสิ่งดำเนินการด้วยความเร่งรัด ไม่ศึกษาให้รอบคอบจะกระทบงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับและไปกระทบงานด้านความมั่นคงอื่นๆที่จะต้องใช้กำลังพล รวมถึงการพัฒนาประเทศและการช่วยเหลือประชาชน

      "ผมอยากจะเรียนว่า ปัจจุบันกองทัพมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว เราไม่ได้สร้างความเข้มแข็งของกองทัพที่เวอร์เกินไป ต้องอยู่ในระดับเหมาะสม มีขนาดกองทัพที่พอดี มีกำลังพลเพียงพอ ยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อรับมือกับภัยคุกคามขั้นต่ำของภูมิภาคและความเหมาะสมของสถานภาพงบประมาณของประเทศ และเราจะต้องไม่ถูกท้าทายลิดรอนจากภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติซึ่งประเทศและกองทัพจะต้องรักษาความสมดุลตรงนี้ให้ได้"

     ตนมองว่า กองทัพไม่อยากให้มองในเรื่องของค่าตอบแทนเป็นเรื่องสำคัญเพราะการรับใช้ชาติถือเป็นเรื่องของจิตสำนึกในการดูแลงานด้านความมั่นคงและเป็นเรื่องของความรับผิดชอบและความศรัทธาของคนที่มีต่อประเทศชาติของตัวเอง หากเราใช้ในเรื่องค่าตอบแทนหรือเงินอย่างเดียว การสร้างจิตสำนึกให้คนดูแลชาติบ้านเมืองก็จะลดน้อยลงไป ทุกคนจะมองในเรื่องของผลประโยชน์ของตัวเองหรือสิ่งที่ตัวเองจะได้รับ แทนที่จะกลับไปมองในเรื่องของสำนึกความรับผิดชอบต่อแผ่นดินในฐานะที่เป็นคนไทย

      "ไม่ว่าจะใช้ระบบการเกณฑ์ทหารหรือสมัครใจ แต่อยากให้ระบบนั้น สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ตระหนักถึงภัยคุกคามหรือมีส่วนร่วมแก้ปัญหาที่จะกระทบต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทำให้ประเทศชาติเข้มแข็งและแข็งแรง ระบบนั้นก็ใช้ได้แล้ว การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ยังไม่ตอบโจทย์ และเป็นเพียงวิธีการหนึ่งเท่านั้นผมอยากให้มองงานด้านความมั่นคงครอบคลุมในทุกมิติและเกี่ยวข้องกับทุกคน อะไรที่ประชาชน สังคม รู้สึกไม่มั่นคง นั่นแหละคืองานด้านความมั่นคง "