คอลัมนิสต์

หรูริมทะเล...โรงแรมเถื่อนนอมินีต่างชาติ!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... สายตรวจระวังภัย โดย... ทีมข่าวอาชญากรรม




          “เกาะสมุย” เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นักท่องเที่ยวทั้งไทย-เทศต่างขนานนามให้ว่าเป็น “สวรรค์กลางอ่าวไทย” ทำให้เกาะสมุยเป็นแหล่ง “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” ที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งของไทย จึงไม่แปลกที่นักธุรกิจจะมาลงทุนดำเนินกิจการต้อนรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ที่พัก รีสอร์ท สนามกอล์ฟ สปา ร้านอาหาร สถานบันเทิง บริการนำเที่ยว และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่สิ่งที่แฝงมากับธุรกิจท่องเที่ยวคือการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะ “โรงแรมเถื่อน” และอาจเป็น “นอมินี” ของต่างชาติ !

 

 

หรูริมทะเล...โรงแรมเถื่อนนอมินีต่างชาติ!

 

 

          ด้วยเหตุนี้ นายอาทิตย์ บุญญะโสภัติ อธิบดีกรมการปกครอง มอบหมายให้สำนักการสอบสวนและนิติการ นำโดย นายรัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา 1 และ นายราเยส ราย หัวหน้ากลุ่มงานกำกับสืบสวนและปราบปราม 1 ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ลงพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเข้าตรวจสอบโรงแรม โอเรียลทอล ล็อดจ์ ซึ่งเป็นวิลล่าหรูทรงไทย ติดชายหาดริมทะเล มูลค่าหลายร้อยล้านบาท เพราะมีการลักลอบเปิดให้บริการมาเป็นเวลากว่า 10 ปี โดยเข้าดำเนินการเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา 

 

 

หรูริมทะเล...โรงแรมเถื่อนนอมินีต่างชาติ!

 


          นายรัฐวิช เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมกับปลัดอำเภอ อ.เกาะสมุย และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าตรวจสอบโรงแรมดังกล่าว พบว่า ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมจากนายทะเบียน ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 ตามที่ได้รับแจ้ง และประสานความร่วมมือจากดีเอสไอ จากนั้นได้ร่วมกันตรวจยึดเอกสารหลักฐาน นำส่งพนักงานสอบสวนฝ่ายปกครอง อ.เกาะสมุย และร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับเจ้าของกิจการความผิดฐาน “ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 มาตรา 15 ประกอบมาตรา 59 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน

 

 

 

 

หรูริมทะเล...โรงแรมเถื่อนนอมินีต่างชาติ!



          “หากกิจการใดเป็นการให้บริการที่พักรายวัน หรือต่ำกว่ารายเดือน ถือว่าเข้าข่ายเป็นโรงแรม ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 ซึ่งการประกอบธุรกิจโรงแรมจะต้องขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมจากนายทะเบียน หรือมีการจดแจ้งยกเว้นไม่เป็นโรงแรม ซึ่งใน กทม. สามารถไปติดต่อขอรับใบอนุญาตได้ที่สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง (วังไชยา) ส่วนในภูมิภาค ติดต่อขอรับใบอนุญาตได้ที่ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง เนื่องจากการประกอบธุรกิจโรงแรมเป็นกิจการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องความปลอดภัยต่างๆ เกี่ยวข้องกับด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งความมั่นคง เช่น การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว การฟอกเงิน ฯลฯ โดยเฉพาะการลงทะเบียนผู้พัก และการแจ้งการเข้าพักของคนต่างด้าว ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการหรือผู้จัดการ และอยู่ในความควบคุมและกำกับดูแลโดยเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นที่สุ่มเสี่ยงของอาชญากรรม หรือเป็นแหล่งกบดานของคนร้าย หรืออาจเป็นที่ซ่องสุมของอาชญากรข้ามชาติได้ หากประชาชนพบเห็นหรือทราบเบาะแสการกระทำผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 ที่เป็นกฎหมายอยู่ในความรับผิดชอบของกรมการปกครอง สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรืออำเภอทุกแห่งได้ทันที” นายรัฐวิช อธิบาย

 

 

 

หรูริมทะเล...โรงแรมเถื่อนนอมินีต่างชาติ!

 


          ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ บอกว่า การตรวจค้นเพื่อขยายผลสอบสวนกรณีชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งได้ร่วมกันลงทุนเปิดกิจการโรงแรมโอเรียลทอล ล็อดจ์ โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยการให้หญิงชาวไทยซึ่งเป็นภรรยาของชาวต่างชาติกลุ่มนี้เปิดบริษัทบังหน้า เพื่อดูแลกิจการโรงแรม ในส่วนของดีเอสไอจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลถึงเงินที่นำมาประกอบธุรกิจ รวมถึงประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

 

หรูริมทะเล...โรงแรมเถื่อนนอมินีต่างชาติ!

 


          ไม่เพียงแค่เกาะสมุย แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกหลายแห่งที่ดีเอสไอพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติบางกลุ่ม ซึ่งแฝงตัวมาจดทะเบียนสมรสกับหญิงไทย แล้วนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดกฎหมายในต่างประเทศ มาลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อฟอกเงิน ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ..!!
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ