คอลัมนิสต์

แม่ทัพใหญ่ "เอกราช" มั่นใจล้ม "เสาไฟฟ้า" ขอนแก่น'

แม่ทัพใหญ่ "เอกราช" มั่นใจล้ม "เสาไฟฟ้า" ขอนแก่น'

11 ม.ค. 2562

โดย...  สุมาลี สุวรรณกร


 


          ดังที่ทราบกัน พรรคเพื่อไทยเป็นแชมป์ยึดครองสนามเลือกตั้งภาคอีสานไว้เกือบเบ็ดเสร็จ แต่การเลือกตั้งครั้งใหม่ การปรากฏตัวของ “พรรคพลังประชารัฐ” ทำให้สมรภูมิที่ราบสูงมีความคึกคักและเข้มข้นขึ้นมากทีเดียว

 

 

          โดยเฉพาะ จ.ขอนแก่น ที่มีเก้าอี้ ส.ส.ถึง 10 ที่นั่ง ซึ่งเดิมพรรคเพื่อไทยกวาดที่นั่งเรียบ แต่พอมาถึงการเลือกตั้งปี 2562 พรรคพลังประชารัฐ ก็หวังเก้าอี้ ส.ส.เช่นกัน โดยมี “เอกราช ช่างเหลา” หนึ่งในคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน เป็นทั้งแม่ทัพและเสนาธิการ วางแผนสู้รบทุกรูปแบบ


          ชื่อชั้นของ “เอกราช” ไม่ต้องพูดถึง การที่นั่งเก้าอี้ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดขอนแก่นมาอย่างยาวนาน ทำให้เขาเป็นที่รู้จักของแวดวงครูและนักการเมืองเป็นอย่างดี


          รวมถึงการลงทุนสร้างสโมสรฟุตบอล “ขอนแก่น ยูไนเต็ด” ที่โด่งดังในไทยลีก 3 จนมีฐานแฟนคลับทั่วขอนแก่น ผลงานของทีมจงอางผยอง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ดีวันดีคืน

 

 

          ชูคนทำงานสู้เสาไฟฟ้า
          สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ เอกราชบอกว่า ค่อนข้างมั่นใจว่านโยบายหาเสียงของพรรคที่ชูผลงานรัฐบาล ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การช่วยเหลือเด็กแรกเกิดหัวละ 600 บาท รวมถึงบัตรต่างๆ จะทำให้ได้ใจคนทุกระดับ โดยเฉพาะคนในระดับฐานรากที่เป็นฐานเสียงสำคัญ และการออกไปพบปะประชาชนก็จะใช้วิธีถามไถ่ใกล้ชิด และติดดินเพื่อให้ประชาชนรู้จักจำได้ เพื่อลบล้างภาพการเมืองเก่าๆ ที่ผู้แทนจะมาพบชาวบ้านเฉพาะตอนเลือกตั้งเท่านั้น แต่หลังจากนั้นหายหัวไปเลย


          “เราพยายามติดตามผลงานที่ทางนายกรัฐมนตรีทำมาตลอดและผลงานคือ เน้นดูแลประชาชนระดับรากหญ้า มันสื่อถึงกันได้ว่าไม่ได้พูดอย่างเดียวแต่สามารถทำให้เป็นจริงด้วย ไม่ได้ทำโฆษณาชวนเชื่อแต่เน้นความจริงใจต่อประชาชน ตอนนี้ประชาชนเข้าใจมาก โดยเฉพาะพี่น้องได้รับความทุกข์ร้อนต่างๆ รัฐบาลชุดนี้ดูแลให้หมด และเราเน้นทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่พูดจาสร้างความแตกแยก เราจะปรองดองและรวบรวมพี่น้องให้รักและสามัคคีกัน” เอกราช เน้นวิธีการทำงาน ก่อนฤดูกาลเลือกตั้งจะมาถึง




          ส่วนการช่วงชิงที่นั่ง ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยนั้น เอกราช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยมีคำพูดที่ว่า “เอาเสาไฟมาลงก็ได้” คำพูดแบบนี้เป็นการดูถูกประชาชนมากเกินไป ทุกวันนี้ประชาชนเขาไม่ได้โง่ เพราะการสื่อสารโลกออนไลน์เข้าถึงได้หมด ประชาชนรู้ว่าใครดี ใครแค่เพียงลมปาก เหมือนภาษิตอีสานที่ว่า “ไฟไหม้ป่าจั่งเห็นหน้าแลน เวลาสิลงผู้แทนจั่งเห็นพี่น้อง” พรรคเราจะไม่ให้เป็นแบบนั้น


          เอกราชรู้ว่ากระแสพรรคพลังประชารัฐเป็นรอง แต่ก็เอาผลงานตัวบุคคลเข้าสู้ และเชื่อมั่นในการทำงานช่วยเหลือชาวบ้านต่อเนื่องมานานกว่า 4-5 ปี 


          “ผมมั่นใจว่า ยุคนี้ประชาชนเขาเปลี่ยนความคิดแน่นอน ไม่ได้เลือกผู้แทนเพราะเคยเลือก ไม่ได้เลือกผู้แทนเพราะชอบ แต่จะเลือกเพราะผลงาน เลือกเพราะทำให้บ้านเมืองพัฒนา ทุกวันนี้พิสูจน์ให้เห็นว่านักการเมืองที่พูดจาไม่รักษาคำพูด การสร้างวาทกรรมเพื่อมาทำร้ายกัน ต่อไปนี้พี่น้องไม่เชื่อแล้ว” เอกราช บอก


          ส่วนนโยบายของพรรคนั้น หากได้รับที่นั่ง ส.ส.ในพื้นที่และได้เป็นรัฐบาล สิ่งที่อยากจะทำเพื่อพัฒนาจังหวัดขอนแก่นคือ การพัฒนาแก่งน้ำต้อน ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ขนาดหลายพันไร่ ที่ถูกปล่อยทิ้งไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยพรรคพลังประชารัฐจะนำมาพัฒนา โดยทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ เป็นทะเลเทียม มีชายหาด มีเครื่องเล่นครบครัน มีศูนย์โอท็อป มีที่ให้ชาวบ้านค้าขาย และจะทำเป็นแหล่งน้ำจืดที่สามารถเอาน้ำไว้ใช้ในดูแล้งได้ด้วย รวมถึงจะทำเป็นแก้มลิงเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะที่ ต.ท่าพระ ซึ่งน้ำท่วมทุกปี

 


          วางตัวครบคนครบเครื่อง
          ส่วนการวางตัวผู้สมัครนั้น ทางพรรควางตัวเอาไว้หมดแล้วทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสาน โดยตัวเขาเองดูแลหลายจังหวัดในพื้นที่ ประกอบด้วย ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ โดยมีการทำโพลล์สำรวจพื้นที่ เพื่อรู้จุดอ่อน จุดแข็ง ไม่ได้ดูถูกคู่แข่ง และไม่ประมาท เพื่ออยากจะดูแลพี่น้องประชาชนจริงๆ


          สำหรับพื้นที่ขอนแก่นนั้น ได้วางตัวผู้สมัครประกอบด้วย เขต 1 ดร.ภพธร แก้วขัน อดีตสมาชิกสภาเทศบาลนครขอนแก่น เขต 2 วัฒนา ช่างเหลา ลูกชายของเอกราช เป็นรองนายก อบจ.ขอนแก่น และเป็นประธานสโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ด เขต 3 จิตติ คำแก่นคูณ นักธุรกิจและเป็นนักการเมืองท้องถิ่น เป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลวังชัย อ.น้ำพอง มีฐานเสียงแน่นอยู่ในพื้นที่ เขต 4 นายพิชิต สุรพล เป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำงาน และเป็นนักการเมืองท้องถิ่นด้วย


          เขต 5 วิบูลย์ เรืองประเสริฐกุล เป็นอดีต ส.จ.อำเภอภูเวียง เวียงเก่า ฐานเสียงแน่นซึ่งพรรคคาดหวังสูง เขต 6 สมพงษ์ ปู่เพ็ง เป็นอดีต ส.จ. ในการเลือกตั้งครั้งก่อนปี 2554 แพ้เพื่อไทยเพียง 6,000 คะแนนเท่านั้น เขต 7 สมศักดิ์ คุณเงิน อดีต ส.ส.ทีมงานแน่น และมีฐานเสียงแน่นเช่นกัน เขต 8 คงฤทธิ์ อัศวพัฒนากูล อดีต ส.จ.ในพื้นที่ ครั้งก่อนลงภูมิใจไทยได้คะแนน 2 หมื่นกว่า เป็นคนที่อยากลงเพื่อแก้มือในครั้งนี้ และขยันลงพื้นที่หาเสียงตลอด


          เขต 9 วาสนา ชัยศึก เป็นอดีต ผอ.โรงเรียนหนองสองห้อง ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ แม้เขตนี้จะมีคู่แข่งเบอร์ใหญ่ เพราะเป็นพื้นที่ของ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ และพงศกร อรรณนพพร พรรคเพื่อไทย 


          ส่วนเขต 10 เจริญ แซ่เต็ง นายกเทศมนตรีบ้านโต้น อ.พระยืน คนนี้เป็นทีเด็ด มีผลงานชัดเจน อยู่ในพื้นที่ตลอด และมีฐานเสียงเยอะ และพื้นที่บ้านโต้นถือเป็นพื้นที่โชว์ผลงานของขอนแก่น


          “ถึงวันนี้ผมมั่นใจว่า พลังประชารัฐจะกวาดที่นั่งส.ส.ทั้ง 10 เขต เพราะเราทำการบ้าน เราลงพื้นที่ พบปะประชาชน และมั่นใจในนโยบายของรัฐบาลที่ช่วยเหลือคนรากหญ้าและคนจนให้มีสวัสดิการที่ดีขึ้น เราใช้วิธีการเข้าใจ เข้าถึง และเชื่อใจมั่นใจ จึงค่อนข้างมั่นใจว่า เราจะได้ ส.ส.ทุกเขต” เอกราชย้ำถึงความมั่นใจ


          นับแต่ทักษิณ ชินวัตร นำทัพไทยรักไทย สนามขอนแก่น ก็ถูกยึดครองโดยพรรคเครือข่ายทักษิณมาทุกการเลือกตั้ง และหนนี้ คนขอนแก่น กำลังเฝ้าลุ้นว่า แม่ทัพเอกราชจะเจาะไข่แดงของเพื่อไทยได้สักกี่เขต