คอลัมนิสต์

เมื่อกฎบน'ฟุตบาท'..มีคน(ขาดสำนึก)แหก!!

เมื่อกฎบน'ฟุตบาท'..มีคน(ขาดสำนึก)แหก!!

28 พ.ย. 2561

เมื่อกฎบน'ฟุตบาท'..มีคน(ขาดสำนึก)แหก!! : รายงาน  โดย...  ทีมข่าวอาชญากรรม




          คนเดินบนทางเท้า หรือ “ฟุตบาท” ในเมือง “ศิวิไลซ์” อย่างกรุงเทพมหานคร หรืออีกหลายที่ทั่วประเทศ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้แทนที่จะเป็นเขตปลอดภัยของ “คนเดินเท้า” หรือยืนรอรถประจำทาง แต่กลับต้องคอยระแวดระวัง ตกเป็นผู้อยู่ในความเสี่ยงต่อการถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน อันเกิดจากการขาดจิตสำนึก มักง่าย ไม่เคารพกฎหมาย จึงขับขี่จักรยานยนต์ขึ้นมาวิ่งบนทางเท้า กลายเป็นภาพชินตาให้พบเห็นทั่วทุกแห่ง แม้จะมีกฎหมายออกมาบังคับใช้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศเป็นนโยบายหลัก “จับจริง ปรับจริง” แต่ก็ยังมีคนฝ่าฝืนกันอยู่บ่อยๆ และจำนวนที่แหกกฎก็มีไม่ใช่น้อย เป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้สักที

 

 

เมื่อกฎบน\'ฟุตบาท\'..มีคน(ขาดสำนึก)แหก!!

 

 

 

        เชื่อว่าหลายคนได้ประสบปัญหานี้ด้วยตัวเอง หนำซ้ำคนขับขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นมาบนทางเท้าทำผิดกฎหมายยังไม่พอ ยังบีบแตรไล่คนเดินเท้าเพื่อให้หลบทางรถของตัวเองอีกต่างหาก ถือเป็นพฤติกรรมที่ทำผิดซ้ำซาก จนหลายครั้งมีปากเสียงทะเลาะวิวาท ซึ่งเรื่องเหล่านี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมมาอย่างต่อเนื่อง 

 

 

เมื่อกฎบน\'ฟุตบาท\'..มีคน(ขาดสำนึก)แหก!!

ภาพจากทวิตเตอร์@EmaEmika

 


          และแล้วสิ่งที่หลายคนกังวลจากความสุ่มเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนบนทางเท้าก็เกิดขึ้นจริง เพราะล่าสุด พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงศ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 ได้รับรายงานเหตุที่น่าสนใจจาก พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย ว่า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 15.30 น. ตำรวจจราจร สน.โชคชัย รับแจ้งมีอุบัติเหตุบนทางเท้าจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับป้ายรถประจำทางปากซอยลาดพร้าว 69 ถนนลาดพร้าว (ขาออก) เขตวังทองหลาง กทม.

 

 

 

เมื่อกฎบน\'ฟุตบาท\'..มีคน(ขาดสำนึก)แหก!!


 


          เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุก็พบ น.ส.กุลนี จันทรวีทุร อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบดินทรเดชา สิงห์ สิงหเสนี นอนได้รับบาดเจ็บทั้งชุดนักเรียนอยู่บนทางเท้า ก่อนที่พลเมืองดีจะช่วยนำตัวส่ง รพ.เปาโล โชคชัย 4 ส่วนผู้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์มาชนน้องนักเรียนจนได้รับบาดเจ็บคือ นายภูวดล ศรีสำโรง อายุ 23 ปี ยืนรอให้การกับตำรวจ พร้อมรถจักรยานยนต์ ทะเบียน 6 กฎ 6283 กรุงเทพมหานคร
แน่นอนว่าคำตอบของเหล่านักบิดที่ตัดสินใจนำรถจักรยานยนต์ขึ้นมาขับขี่บนทางเท้าคงหนีไม่พ้นคำว่า “เร่งรีบ” แต่การจราจรเมืองกรุงในช่วงเร่งด่วนรถติดระดับสาหัส แม้แต่รถจักรยานยนต์ยังแทรกผ่านยาก ด้วยเหตุผลที่ว่านี้จึงทำให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์อย่าง นายภูวดล ที่เอาความสะดวกรวดเร็วส่วนตัวมาใช้บนทางเท้าจนมาชน น.ส.กุลนี ที่ยืนรอรถเมล์เพื่อกลับบ้านหลังเลิกเรียนจนได้รับบาดเจ็บ

 

 

เมื่อกฎบน\'ฟุตบาท\'..มีคน(ขาดสำนึก)แหก!!

 


          เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกระฉ่อนถึงรั้วปทุมวัน ที่ตั้งของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย เตรียมดำเนินคดีแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รายนี้ในข้อหาความผิด 2 กระทง ประกอบด้วย พ.ร.บ.ทางบก อัตราโทษปรับไม่เกิน 1 พันบาท และ พ.ร.บ.เกี่ยวกับความสะอาดบนทางเท้า อัตราโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท พร้อมอธิบายเสริมมาตรการป้องกันว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการหารือกับกรมการขนส่งทางบกในเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ยอมรับว่ามีข้อจำกัดในการดูแลไม่ทั่วถึง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีกำลังพลมากพอ โดยเฉพาะในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน จึงขอฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนให้มีวินัย เคารพกฎจราจร ซึ่งช่วงเช้าหรือช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเย็น มักพบจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า ถือว่าไม่เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนผู้อื่น

 

 

 

เมื่อกฎบน\'ฟุตบาท\'..มีคน(ขาดสำนึก)แหก!!

 


          เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ที่รับผิดชอบด้านกฎหมาย ได้โพสต์ไขข้อกฎหมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหมาดๆผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ดร.วิระชัย ทรงเมตตา” ว่า การกระทำของผู้ขับขี่เช่นนี้ มีความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตราประมวลกฎหมายอาญามาตราโทษสูงสุด จําคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ผิดตาม ป.อาญา มาตรา 300 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีความผิดข้อหาขับรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43(7), 157 และพ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 17, 56 โทษสูงสุดปรับไม่เกิน 5 พันบาท

 

 

 

เมื่อกฎบน\'ฟุตบาท\'..มีคน(ขาดสำนึก)แหก!!

 


          สำหรับทางเท้าถือเป็นพื้นที่รับผิดชอบของทางกรุงเทพมหานครโดยตรง ซึ่งความพยายามในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ก็ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่าพ่อเมืองยุค พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง มารับตำแหน่งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ได้ประกาศนโยบายเร่งด่วนเอาจริงเอาจังตั้งแต่ต้นปี 2560 โดยได้สั่งการให้สำนักงานเขต กวดขันไม่ให้มีการจอดหรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อนบนทางเท้า โดยเคร่งครัด ให้จัดชุดเจ้าหน้าที่เทศกิจออกปฏิบัติหน้าที่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วน และถนนที่มีการจราจรหนาแน่น อาทิ ถนนสุขุมวิท ถนนพระรามที่ 4 ถนนเพชรบุรี ถนนพหลโยธิน ถนนรัชดาภิเษก ถนนจรัญสนิทวงศ์ ส่วนบทลงโทษอยู่ในมาตรา 56 ที่ว่า ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 17 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท และประชาชนสามารถส่งเบาะแสไปยังเจ้าหน้าที่เทศกิจในเขตท้องที่นั้นๆ หรือผ่านทางศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กทม.1555 ได้ทันที

 

 

เมื่อกฎบน\'ฟุตบาท\'..มีคน(ขาดสำนึก)แหก!!

 

 


          เมื่อเหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าของนโยบายเร่งด่วนในการปราบรถจักรยานยนต์ใช้ทางเท้าเป็น “ทางลัด” ทราบเรื่อง ถึงกับฉุนขาด โดย พล.ต.อ.อัศวิน บอกว่า การขับขี่บนทางเท้าผิดกฎหมายและเป็นการเอาเปรียบสังคม คนที่ทำต้องแก้พฤติกรรมของตนเองและมีสำนึก ต้องขัดเกลาจริยธรรมของตนเอง ส่วนเทศกิจเองก็ปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว พร้อมกับการพูดคุยหารือกับตำรวจในพื้นเป็นประจำ แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นความรับผิดชอบของมนุษย์ ซึ่งอัตราการปรับ ทาง กทม.ตั้งไว้สูงแล้ว และข้อเท็จจริง กทม.ไม่อยากปรับใคร เพราะประชาชนมีรายได้น้อยอยู่แล้ว ไม่อยากให้ต้องมาเสียเงินเพิ่ม ต้องย้ำว่าทุกคนต้องรับผิดชอบต่อสังคม จึงอยากถามคนที่ขับรถบนทางเท้าว่าถ้าลูกหลานตัวเองเป็นฝ่ายโดนชนจะรู้สึกอย่างไร?


          “ไม่อยากพูดว่าต้องไปแก้สันดาน ผมไม่ได้พูดหยาบคาย สันดอนขุดได้ เอาจอบขุดก็ออก มนุษย์ต้องขัดเกลาจริยธรรมของตนเอง การขับขี่บนทางเท้า ลองคิดดูแล้วกัน ถ้าลูกหลานของท่านโดนชนจะเป็นอย่างไร มันขุดอยากกว่าสันดอนนะสันดาน” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวย้ำ

 

          หรือนี่เป็นปัญหาที่ยังรอการแก้ไขอีก ออกกฎก็แล้ว รณรงค์ก็แล้ว ภัยของคนเดินเท้าแบบนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งแรก และคงไม่ได้เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อกฎระเบียบที่ออกมาบังคับใช้บน “ฟุตบาท” ยังมีคนขาดสำนึกคอยฝ่าฝืน..!?