คอลัมนิสต์

"ประเทศกูมี"ประกายไฟไหม้ลามทุ่ง

"ประเทศกูมี"ประกายไฟไหม้ลามทุ่ง

28 ต.ค. 2561

วันนี้กระแสเพลงแร็พ "ประเทศกูมี" สะเทือนเซ่งจี๊ตั้งแต่วัยโจ๋ ถึงวัยอาวุโส

 


          สำหรับ “วัยโจ๋” แน่นอน แนวคิดที่กลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship (RAD) คิดขึ้นมานั้น มันคือภาพของสังคมไทยที่คนรุ่นใหม่กำลังตั้งคำถาม ด้วยความคลางแคลงใจปนผิดหวังไปพร้อมๆ กัน

 

 

          อย่างเนื้อหาที่เพลง “ประเทศกูมี” พูดถึง ก็มีอยู่หลายเรื่อง เช่น เหตุการณ์เสือดำถูกฆ่าที่ห้วยขาแข้ง เรื่องของบ้านพักตุลาการบนอุทยาน ฯลฯ หรือมิวสิกวิดีโอที่จำลองภาพเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่ผู้คนยืนมองหุ่นจำลองถูกแขวนคอ


          แถมรายชื่อนักร้องผู้เรียบเรียงเนื้อและทำนอง ก็เป็นชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งศิลปินนำมาเป็น AKA (also known as) หรือตัวย่อที่มีความหมาย เช่น Lady Thanom, Gentle Prapas, HomeBoy Scout, Kitti Lamar Wuttoe, Kra-Ting Clan ฯลฯ


          และอีกหลายๆ มุม ที่ทำเอาสื่อหลักไม่กล้านำมาเขียนต่อหรือผลิตซ้ำ นอกจากแนะนำให้ไปหาฟัง และแกะเนื้อเพลงกันเอง


          สำหรับกลุ่ม Rap Against Dictatorship หรือ แร็พต้านเผด็จการ มีข้อมูลทางเฟซบุ๊กเพจตามชื่อนี้ว่า เป็นพื้นที่คนไทยตีแผ่ปัญหาของสังคมที่เกิดขึ้น โดยตะโกนออกมาดังๆ ผ่านเพลง


          และการเลือกเอาทำนองเพลงแร็พ/ฮิพฮอพ ด้วยเพราะเป็นแนวเพลงที่ตรงไปตรงมา ติดดิน ไม่ต้องอาศัยเครื่องมือ หรือเครื่องดนตรีอะไรมากมาย แค่มีความในที่อยากบอก ก็จัดวางคำให้ลงจังหวะ แล้วก็บอกออกมาเลย !

 

          เดิมทีเพลงนี้เป็นอินโทรของ “Liberate P” แร็พเปอร์สายการเมือง ผู้เป็นสถาปนิกที่รักการแต่งเพลงคนหนึ่ง เขาได้ปล่อยอินโทรเพลงนี้มาตั้งแต่ปี 2559 แต่ก็พักไปหยุดไว้ที่อินโทร 8 บาร์ไว้ตั้งแต่ตอนนั้น


          มาวันนี้ เหมือนเป็นการสานงานให้จบ เฟซบุ๊ก Rap Against Dictatorship จึงได้เริ่มค่อยๆ ปล่อยของมาตั้งแต่ช่วงปลายๆ เดือนกันยายน



          โดยประกาศว่าเพลง “ประเทศกูมี” กำลังจะปล่อยในวันที่ 14 ตุลา เพื่อให้เข้ากับเนื้อหา บรรยากาศของเมืองไทยช่วงนั้นพอดี ปรากฏว่าแฟนเพจก็พากันลุ้นรอคอย และยังมีกิจกรรมนับถอยหลังกันรายวัน


          กระทั่งที่สุด “ประเทศกูมี” ออกสู่หูคนฟังเป็นเพลงก่อนในวันที่ 14 ตุลาคม ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก จนแฟนๆ ขอให้ MV ตามมาเร็วๆ


          ไม่นานฤกษ์ปล่อยมิวสิกวิดีโอก็มาถึง วันที่ 22 ตุลาคม “ประเทศกูมี” มาทั้งภาพและเสียงสมบูรณ์ และเผยแพร่แทบทุกช่องทางออนไลน์ ทั้งยูทูบที่ตอนนี้ ยอดวิวปาไปหลักล้านกว่าๆ (1,194,432 วิว ณ วันที่ 26 ต.ค.2561) และยังเปิดฟังได้ในบริการสตรีมเพลงดิจิทัล พอดแคสต์ และวิดีโออย่าง Spotify, Itunes และอื่นๆ


          ตอนนี้เชื่อหรือไม่ว่า “ประเทศกูมี” ขึ้นสู่อันดับ 2 ใน iTunes ของเพลงไทย เป็นรอง “ซ่อนกลิ่น” ของ “ปาล์มมี่” ที่เพิ่งปล่อยออกมาเหมือนกัน


          แถมยังจัดชาลเลนจ์ “ประเทศกูมี 8 BARS CHALLENGE” ให้ขาแร็พ เอาทำนองไปใส่เนื้อเพลงในคอนเซปต์ “ประเทศกูมี” กันได้อย่างเมามัน


          จนตอนนี้เนื้อหาเพลงประเทศกูมีในเวอร์ชั่นชาลเลนจ์ แตกหน่อออกไปไกลมาก ทั้งๆ ที่ทางเพจ RAD ได้แจ้งเตือนแล้วว่า ให้ระวังเนื้อหาที่พาดพิงคนอื่น ผิดพลาดขึ้นมา ก็บ้านใครบ้านมัน !


          และก็อย่างที่บอกว่า “ประเทศกูมี” ดุเดือดตั้งแต่บาร์แรกจนบาร์สุดท้าย ก็ทำเอาผู้อาวุโสสะเทือนด้วย


          ไม่ทันไร พอ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกโรงว่าจะเดินหน้าให้ตำรวจ ปอท.ตรวจสอบว่าเนื้อหาเข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช.หรือไม่


          จากนั้น พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.กก.3 บก.ปอท. ในฐานะรองโฆษก บก.ปอท. ก็ออกมารับลูกทันทีว่า ให้ฝ่ายสอบสวนประชุมพิจารณาว่าเข้าข่ายข้อกฎหมายใด


          ที่แน่ๆ คือ รองโฆษก บก.ปอท. บอกว่า ดูแล้วเนื้อหาค่อนข้างให้ร้ายประเทศไทย ทำให้ประเทศเสียหายอยู่หลายเรื่อง แถมยังอาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ งานนี้จึงเตรียมเชิญกลุ่มศิลปินที่อยู่ในคลิปเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม


          อื้อหือ...งานนี้โจ๋บอกเลยไม่เซอร์ไพรส์ โดยไม่ต้องไปมองถึงวัฒนธรรม “แร็พฮิพฮอพ” ว่าใจความของเพลงแนวนี้คือการ ‘Critic’ หรือ วิพากษ์สิ่งต่างๆ ในลักษณะ ‘Underground’ คือดิบๆ ดาร์กๆ จึงไม่ถูกใจผู้ใหญ่เป็นธรรมดา


          แต่คนแร็พที่มีหลายสาย ทุกๆ สายก็คือเรื่องของดนตรี ที่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและสะท้อนวิธีคิดของคนในสังคม เช่นเดียวกับ บทเพลง บทกลอน ที่อิสรชนทำกันมาตลอด ในทุกรอยยับของผืนประวัติศาสตร์การเมืองไทย


          อย่าง “ประเทศกูมี” เนื้อหาของเพลงที่ฟังแล้วโดนใจใครหลายคน ราวกับถอดความคิดออกมาตั้งตรงหน้า แต่มันก็ลามเลียแตะไปถึงปัญหาในระดับโครงสร้างที่เหมือนตบหน้าผู้ใหญ่ของบ้านเมืองด้วย !


          บางคนบอกว่า นี่คือการก่อม็อบด้วยแร็พ แต่หลายคนบอกว่าไม่เป็นไร...อย่างน้อยก็มีคนดาวน์โหลดเข้ามือถือทางสตรีมมิ่งเรียบร้อยแล้ว


          ขณะที่อีกคนบอก...การที่ถูกทางการเรียกพบ ก็เท่ากับสารที่ต้องการสื่อไปได้สุดทางแล้วนั่นเอง...โย่ !!