เปิดใจ "เบญจวรรณ สิทธิสาท"แม่บ้านทหารบก กับ หลังบ้าน ผบ.ทบ. | คมชัดลึก

 
          “สมัยก่อนไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีการสื่อสารอะไรที่รวดเร็วเหมือนสมัยนี้ เวลาที่มีสถานการณ์ไม่สู้ดีตามแนวชายแดน เราก็จะต้องคอยอ่านหนังสือพิมพ์ จะมีข่าวไหม จะมีชื่อสามีเราอยู่ในข่าวไหม ก็ต้องคอยติดตาม การติดต่อต้องเขียนจดหมายถึงกัน เราก็เขียนตลอด แต่การเขียนจดหมายก็ต้องใช้เวลา”

          นี่คือเรื่องจริงของ “เมียทหาร” ผ่านการบอกเล่าของ “คุณเบิร์ด” เบญจวรรณ สิทธิสาท ภริยาของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) คนปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าชีวิตครอบครัวย่อมไม่สมบูรณ์พร้อมหน้าเหมือนครอบครัวของคนอื่นๆ ทั่วไป โดยเฉพาะเมื่อสามีต้องไปปฏิบัติราชการสนาม ต้องไปปฏิบัติงานตามแนวชายแดน เป็นรั้วของชาติปกป้องอธิปไตยแทนคนไทยทุกคน

          เรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นกับ “หลังบ้าน” ของทหารแทบทุกนาย ไม่เว้นแม้แต่หลังบ้านของ ผบ.ทบ. เพราะสมัยที่ยังเป็นนายทหารหนุ่ม ก็ต้องไปประจำการชายแดน แม้แต่ภรรยาคลอดลูก ก็ยังไม่สามารถปลีกเวลามาดูหน้าลูกได้

          เรื่องนี้หากเกิดในชายคาบ้านอื่น คงบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่สำหรับ “เมียทหาร” ต้องใช้ความเข้าใจ และเข้มแข็งกับเส้นทางชีวิตที่เลือกเดิน

 

 

          “ลูกคนแรก ตอนเข้าโรงพยาบาล ท่าน (ผบ.ทบ.) ก็ยังไม่ทราบ ท่านมาโรงพยาบาลจนคลอดไปแล้ว คนที่สอง คลอดไปแล้ว 2 วันถึงได้มา แต่เราไม่มีโมเมนต์น้อยใจ เพราะเข้าใจท่าน ช่วงนั้นท่านปฏิบัติราชการอยู่ชายแดน มาไม่ได้ ช่วงนั้นสถานการณ์ค่อนข้างรุนแรง ก็เข้าใจ เพราะเราก็เป็นห่วง” คุณเบิร์ด กล่าว

          เหตุนี้เองความไว้เนื้อเชื้อใจกันในครอบครัวทหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และนี่เองที่ทำให้ คุณเบิร์ด เบญจวรรณ ซึ่งวันนี้ทำหน้าที่ “หลังบ้าน ผบ.ทบ.” และเป็นนายกสมาคมแม่บ้านทหารบก นำเอาประสบการณ์ในชีวิตมาสอนน้องๆ ที่เป็น “หลังบ้าน” ของผู้ใต้บังคับบัญชา

          “ในเมื่อเรามาเป็นภรรยาทหาร สิ่งแรกก็คือต้องเสียสละเวลา เสียสละความสุขส่วนตัว ความสุขที่จะต้องอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวอยู่แล้ว ในเมื่อเราเลือกมาตรงนี้แล้ว ก็ต้องดูแลครอบครัว ดูแลลูกให้ดี เวลาไปเยี่ยมน้องๆ (ภรรยาผู้ใต้บังคับบัญชาของสามี) ก็จะบอกน้องๆ เสมอว่า จงภาคภูมิใจในการเป็นครอบครัวทหาร เพราะถือว่าเราคือผู้เสียสละ เราก็ต้องดูแลลูกและครอบครัวให้ดี เปรียบไปแล้วก็เหมือนหลังบ้าน เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดูแลบ้านให้ดี เพื่อให้คนข้างหน้าไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ไปปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มที่ เต็มกำลังความสามารถ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติแทนคนไทยทุกคน”

          กว่าจะเป็นภริยา ผบ.ทบ.ในวันนี้ คุณเบิร์ด เบญจวรรณ เคยทำงานธนาคาร และทำหน้าที่ “หลังบ้าน” ของ พล.อ.เฉลิมชัย มาตั้งแต่เป็นนายทหารหนุ่ม กระทั่งเติบโตในชีวิตราชการขึ้นตามลำดับ เมื่อสามีเป็นผู้บังคับหน่วย คุณเบิร์ดก็ใช้เวลาในวันหยุดมาปฏิบัติงานในฐานะ “หลังบ้าน” ซึ่งก็มีสมาชิกแม่บ้านระดับรองๆ ที่อยู่ภายในหน่วยมาช่วยดูแลงาน

 

 

          แต่เมื่อสามีก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในกองทัพบก คุณเบิร์ดจึงต้องลาออกจากงานประจำ เพื่อมาทำงานที่สมาคมแม่บ้านทหารบกแบบเต็มตัว และนั่นทำให้คุณเบิร์ดได้เห็นความเป็นอยู่ของครอบครัวกำลังพลมากยิ่งขึ้น จึงเดินหน้าช่วยเหลือเรื่องสวัสดิการอย่างเต็มกำลัง

          “พอมาอยู่ก็จะรู้สึกว่าทหารชั้นผู้น้อยลำบาก แล้วก็มีเป็นจำนวนมาก ทหารชั้นผู้น้อยเป็นสัดส่วนที่มากอยู่แล้ว เขาทำงานทุกอย่างเพื่อผู้บังคับบัญชา เพื่อสามีของเรา สามีเราเติบโตได้ก็เพราะน้องๆ นะ ซึ่งเขาต้องไปรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเรา เขาก็ต้องลำบาก เหมือนช่วยผลักดันให้เราขึ้นมาตรงจุดนี้ เลยเป็นที่มาว่าเวลาทำโครงการจะต้องนึกถึงทหารชั้นผู้น้อย ยิ่งไปตรวจเยี่ยม ไปเยี่ยมเยียนหน่วย ไปเห็นแม่บ้าน เห็นความเป็นอยู่ เราก็รู้ว่าเขาลำบากมาก อะไรที่ช่วยได้เพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ครอบครัวกำลังพล เราก็พร้อมที่จะทำ และถือเป็นนโยบายหลักที่เราจะต้องช่วยสนับสนุนดูแลครอบครัวกำลังพลทหารบกอยู่แล้ว” ภริยา ผบ.ทบ.และนายกสมาคมแม่บ้านทหารบก กล่าว

 

 

          แม้จะต้องอยู่ในตำแหน่งสำคัญทั้งคู่ แต่ชีวิตครอบครัวของคุณเบิร์ด กับ พล.อ.เฉลิมชัย ก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่อง เพราะความสัมพันธ์ระหว่างสองคนเชื่อมร้อยด้วยความรักและความเข้าใจ ลูกๆ ก็เชื่อฟัง เติบโตเป็นคนดี สิ่งเดียวที่คุณเบิร์ดห่วงที่สุดในวันนี้ ก็คือสุขภาพของสามี เพราะมีภารกิจที่ต้องทำมากมาย ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก

          “ตอนนี้ที่เป็นห่วง ก็เป็นห่วงสุขภาพ เพราะบางครั้งก็เข้าใจว่า การทำงานมีปัญหามากมายที่จะต้องตัดสินใจ ขนาดเรามีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เรายังเครียดนอนไม่หลับ ก็พยายามให้กำลังใจท่าน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน” คุณเบิร์ดกล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงหาอาทร

          และถึงจะมีหน้าที่และภารกิจอันหนักอึ้งต้องรับผิดชอบทั้งสองคน แต่คุณเบิร์ด และ ผบ.ทบ.ก็ยังหาเวลาอยู่ด้วยกันตามประสาสามีภรรยา ทั้งกินข้าวด้วยกัน และยังไปดูหนังด้วยกันด้วย เพราะเป็นคนชอบดูหนังทั้งคู่ เรื่องล่าสุดที่เพิ่งไปดูมาก็คือ Mission Impossible Fallout สะท้อนถึงความหวานที่ยังไม่จืดจางของครอบครัว “หลังบ้าน ผบ.ทบ.”