คอลัมนิสต์

เพื่อไทยไม่พ้นวงศ์วานว่านเครือ"ชินวัตร"

เพื่อไทยไม่พ้นวงศ์วานว่านเครือ"ชินวัตร"

06 ส.ค. 2561

เพื่อไทยไม่พ้นวงศ์วานว่านเครือ"ชินวัตร" : คอลัมน์... กวาดบ้านกวาดเมือง โดย... ลมใต้ปีก

 

          คำพังเพยโบราณว่าไว้ว่า “ไม่มีควัน ไม่มีไฟ” “ไม่มีมูล หมาไม่ขี้” ใช้กับข่าวลือที่อาจจะเป็นจริงเพราะย่อมมีการคิดและพูดจากันจนเล็ดลอดไปถึงหูผู้อื่น ดังนั้นข่าวการเลือกผู้นำพรรคเพื่อไทยคนใหม่ หรือผู้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญใหม่ของพรรคเพื่อไทยจึงปรากฏข่าว 2 ชื่อ ใหม่ที่เป็นวงศ์วานว่านเครือแห่งตระกูลชินวัตร

          ชื่อแรกมาแรงคือชื่อของ ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ลูกชายของ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ผู้มากบารมีในพรรคเพื่อไทยอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็คือหลานชายแท้ๆ ของทักษิณ ชินวัตร ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
 
          ชื่อที่สองคือ ณัฐพงศ์ คุณกรวงศ์ เป็นสามีของ “น้องเอม” พิณทองทา ชินวัตร หรือลูกเขยของทักษิณ ชินวัตร เช่นกัน ปัจจุบันเป็นผู้บริหารของกลุ่ม SC ASSET ธุรกิจที่ครอบครัวทักษิณ ชินวัตร ถือหุ้นใหญ่ แม้คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ผู้เป็นอดีตภรรยาของทักษิณ (จดทะเบียนหย่าตามกฎหมาย) จะไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะกลัววิบากกรรมจะเกิดขึ้นกับครอบครัวลูกสาว เฉกเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับครอบครัวตัวเอง แต่ก็เป็นสัญญาณเด่นชัดว่าพรรคเพื่อไทยยากที่จะเปิดโอกาสให้นักการเมืองอื่นนอกจากคนในวงศ์วานว่านเครือชินวัตร เท่านั้น
 
          น่าจะมีเหตุผลสองประการที่ทักษิณจะหาคนใหม่หลังจากที่มีการปล่อยชื่อคนเพื่อไทยที่จะขึ้นมากุมบังเหียนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มาก่อนหน้าที่ล้วนไม่เป็นตัวจริงเเพราะสิ่งที่คาดการณ์กันได้คือสิ่งที่ทักษิณไม่คิดและมองเพียงว่า พลพรรคเพื่อไทยเป็น “ลูกจ้าง” ยากที่จะให้มานำทัพกุมบังเหียนพรรคและอนาคตครอบครัวชินวัตร

          ถ้าจะย้อนไปดูตั้งแต่ก่อตั้งไทยรักไทย ทักษิณ ชินวัตร สถาปนาความเป็นผู้นำของตัวเอง เมื่อเกิดการรัฐประหารปี 3549 ต้องระเห็จไปอยู่ต่างประเทศ หันมาใช้บริการคนนอก “ครอบครัว” คือ สมัคร สุนทรเวช ที่เกือบหนึ่งปีของสมัคร ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทักษิณ พบว่าไม่สามารถสั่งการได้เบ็ดเสร็จ จึงเลือก สมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย (สามีเยาวภา วงศ์สวัสดิ์) ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคพลังประชาชน ในคราที่สมัคร สุนทรเวช เจออุบัติเหตุ “ทำกับข้าวจนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหลุด”


          มาถึงการเลือกตั้งปี 2554 หลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบและก่อตั้งเพื่อไทยมาสวมแทน ทักษิณ ชินวัตร เลือกน้องสาวตัวเองคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มานำทัพ นี่คือประวัติศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นว่า “เลือดข้นกว่าน้ำ” ถ้าไม่หมดทาง คนแดนไกลไม่มีวันเลือกคนนอกครอบครัวเป็นผู้นำเพื่อไทย
 
          เหตุผลประการที่สองน่าจะเป็นเพราะหลังการเปิดตัวของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แม้จะ “แดงจ๋า” แต่ขายความเป็นคนรุ่นใหม่ แม้ต้นทุนทางการเมืองของเสี่ยธนาธร จะต่ำ แต่เพียงไม่กี่เดือนชื่อของธนาธรเป็นที่รู้จักและมาเป็นอันดับ 4 ของโพลล์ทุกสำนัก ในการสำรวจความนิยมทางการเมือง

          ดังนั้นการเลือกคนหนุ่มสร้างภาพลักษณ์ “คนรุ่นใหม่” จะเป็น “การตลาดทางการเมือง” อีกมุมหนึ่งที่ขายได้ แต่ก็เป็นประเด็นที่ต้องพิสูจน์กันในอนาคต นั่นจึงเป็นเหตุผลสนับสนุนความคิดของทักษิณ ในการมองข้ามหัวคนในพรรคเพื่อไทย

          หลายคนแปลกใจว่าไหนๆ จะดันคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งและเลือกคนในวงศ์วานว่านเครือ ไฉนถึงไม่มีชื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่าง “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ส่งเข้าประกวด มิต้องสงสัยเพราะหากมีชื่อนี้เข้ามาในวงการเมือง อดีตและปัจจุบันของโอ๊ค จะถูกหยิบมาขยายผลจนดับร้อนกันไม่ทัน แค่เป็นผู้ต้องหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สั่งฟ้องในข้อหาฟอกเงินกรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยเงินกู้กับกลุ่มกฤษดามหานคร ก็หนาวพอที่จะลืมชื่อนี้ในทางการเมืองไปเลย