
"หม่อมเต่า" หัวหน้าพรรคชั่วคราว !!
(ขยายปมร้อน) "หม่อมเต่า" หัวหน้าพรรคชั่วคราว "รวมพลังประชาชาติไทย" ซึ่งเวทีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคก็ตอกย้ำความเป็น "พรรคสุเทพ" อีกครั้ง
ขยับไปอีกก้าวสำหรับพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนาม “พรรคสุเทพ” คือการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดแรก
ไม่ใช่ “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” ที่ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทยคนแรกตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ แต่เป็น “หม่อมเต่า” ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
ความจริงชื่อ “หม่อมเต่า” เป็นหัวหน้าพรรค ก็ไม่ถือว่าเซอรไพรส์ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการพูดกันในพรรค โดยจะเป็นที่ผ่านมาทางพรรคได้ปรึกษาหารือกันอย่างหนักว่า “หัวหน้าพรรคคนแรก” ควรจะเป็นใคร ควรจะเป็นแค่หัวหน้าพรรคชั่วคราว หรือ จะให้คนที่จะเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริง มาเป็นหัวหน้าพรรคเลย
ทั้งนี้ทางพรรคมีการวางตัว “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” ให้มาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคตั้งแต่ต้น เพียงแต่ตอนนี้มีปัญหาติดขัด ไม่สามารถเดินตามแผนที่วางไว้ได้ว่า หลังมีการเปิดตัวพรรคเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา จะมีการจัดขบวนรณรงค์ไปทั่วประเทศเพื่อหาสมาชิกพรรค จากนั้นจะจัดสมัชชาเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค ซึ่งจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ว่าเป็นพรรคการเมืองที่หัวหน้าพรรคมาจากการเลือกโดยที่ประชุมสมาชิกทั่วประเทศ
แต่เมื่อ คสช.ยังไม่ปลดล็อก พรรคยังไม่สามารถรณรงค์ไปทั่วประเทศได้ ซึ่งก็เป็นไปตามที่ “กำนันสุเทพ” พูดในที่ประชุมพรรคว่า จริงๆทางพรรคเตรียมการไว้หมดแล้วสำหรับการรณรงค์ไป 77 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งรถครัว รถนอน รถเวทีเคลื่อนที่ ที่จะไปชนิดค่ำไหนนอนนั่น แต่เมื่อ คสช.ยังไม่ปลดล็อกก็ทำไม่ได้ จึงจำเป็นต้องมีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดแรกนี้ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ชั่วคราวก่อน จากนั้นเมื่อมีการปลดล็อก พรรคการเมืองสามารถเคลื่อนไหวได้ ก็จะจัดรณรงค์หาสมาชิกไปทั่วประเทศ และจัดสมัชชาพรรคเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคอีกครั้ง
และครั้งนั้นแหละที่ “เอนก” จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค
จะว่าไปแล้วก็ต้องยอมรับว่า “หม่อมเต่า” ไม่ได้เจนจัดในสนามการเมืองนัก ดูจากการการนำทีมกรรมการบริหารพรรคเปิดเวทีแถลงข่าวหลังได้รับเลือกก็จะเห็นชัดเจน ซึ่งท่านเองก็ยอมรับว่าเป็นคนพูดไม่เก่ง
แต่การทำหน้าที่ “หัวหน้าพรรคชั่วคราว” ไม่จำเป็นต้องเจนสนามมากก็ได้ และอย่างที่ “กำนันสุเทพ” บอก “หม่อมเต่า” เป็นคนที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เป็นหน้าเป็นตาของพรรคได้ จึงเป็นที่มาของการก้าวมาเป็นหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทยคนแรกของ “หม่อมเต่า”
นอกจากการขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคของ “หม่อมเต่า” แล้ว ในเวทีการประชุมเพื่อรับรองข้อบังคับพรรคและเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดแรกของพรรครวมพลังประชาชาติไทย มีสิ่งที่คอการเมืองคงสังเกตเห็นเหมือนกัน คือ พรรคนี้เป็นพรรคของ “สุเทพ” อย่างแท้จริง
ในช่วงเริ่มต้นการประชุม มีการเชิญ “หม่อมเต่า”ขึ้นเป็นประธานที่ประชุม ก่อนที่ “หม่อมเต่า” จะเชิญ “สุเทพ” มากล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการประชุมในวันนี้
“สุเทพ” ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในการกล่าว
นอกจากพูดถึงรื่องการปรับเปลี่ยนแผนเพื่อเลือกกรรมการบริการพรรคก่อนที่จะมีสมัชชาสมาชิกทั่วประเทศของพรรคแล้ว มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่ “สุเทพ” พูด
หนึ่ง ยืนยันว่ารักษาคำพูดในการที่จะไม่รับตำแหน่งใดๆ จะไม่ลงสมัคร ส.ส. ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ แต่จะช่วยขึ้นเวทีปราศรัยช่วยพรรคในทุกเวที
สอง มั่นใจว่าพรรครวมพลังประชาชาติจะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน และบอกว่า หลังการเลือกตั้งจะไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาด จะไม่มีรัฐบาลพรรคเดียวเกิดขึ้นแน่นอน
นอกจากบทบาทในการพูดถึงที่มาที่ไปของการประชุมพรรคครั้งนี้แล้ว ต่อมา “สุเทพ” ยังลุกขึ้นมาทำหน้าที่เสนอรายชื่อกรรมการบริหารพรรคชุดแรกจำนวน 7 คนอีกด้วย
สุเทพใช้เวลาอีก 20 กว่านาที ในการเสนอชื่อและคุณสมบัติของแต่ละคน
นอกจากเสนอ “หม่อมเต่า” เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ที่น่าสนใจอีกคนคือเลขาธิการพรรค ซึ่งสุเทพเสนอชื่อ “ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง” ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าคือ “ทนายส่วนตัว”มาเป็น
ที่น่าสนใจอีกคน คือ “จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์” หลานสาว “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” มาทำหน้าที่เป็นเหรัญญิกพรรคกุมการเงินของพรรค ซึ่งนอกจากสุเทพจะแนะนำว่าเรียนจบปริญญาตรีและปริญญาโทมาจากต่างประเทศแล้ว ยังบอกด้วยว่าเป็นคนที่เคยรับผิดชอบ “ถุงเงิน” ตอนที่สุเทพเดินขบวน
หลังจากก้าวแรกที่ส่ง “ทนายส่วนตัว” ไปจดจองชื่อพรรค
ก้าวที่สองที่เปิดตัวพร้อมน้ำตา ในวันเปิดตัวพรรค
ในเวทีเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดแรกในวันนี้ ก็ยังคงตอกย้ำความเป็น "พรรคสุเทพ” ต่อไป
======================
โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์