ปี่กลองเร้าใจ “คอมมิวนิสต์ไทย” พร้อมลงเลือกตั้ง?

             เป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจให้กับแวดวงซ้ายไทย เมื่อนิตยสาร “เอเชียวีค” (ภาษาจีน) เดินทางมาสัมภาษณ์ “วิชัย ชูธรรม” เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) และบทสัมภาษณ์ดังกล่าว นิตยสารเอเชียวีค ได้ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อ 14 มกราคม 2561

             “วิชัย ชูธรรม” นักศึกษานิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ รุ่นก่อน 2500 วัย 70 กว่าปี ได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ พคท. หลังจาก “ประชา ธัญไพบูลย์” (ธง แจ่มศรี) ลาออกจากเลขาธิการพรรคฯ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว

             “วิชัย ชูธรรม” เป็นเลขาธิการพรรคฯ คนที่ 5 นับแต่ พคท. ก่อตั้งเมื่อ 1 ธันวาคม 2485

             นิตยสารเอเชียวีค กล่าวนำในบทบันทึกการสัมภาษณ์มีใจความโดยย่อว่า พคท. เคยเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ที่เข้มแข็ง มีกำลังมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

บทสัมภาษณ์สหาย วิชัย ชูธรรม ในเอเซียวีค

             ในยุคที่รุ่งเรืองที่สุด กองจรยุทธมีกำลังพลราว 2 หมื่นคน จัดตั้งฐานที่มั่นหรือเขตจรยุทธใน 50 กว่าจังหวัดจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ แต่หลังจากที่จีนกับเวียตนาม ได้ทำสงครามกันเมื่อปี 2521 พคท. ได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง 

             ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยก็เพิ่มการกดดัน พคท. โดยด้านหนึ่งเสริมการปราบทางทหาร อีกด้านหนึ่งก็ได้ประกาศ นิรโทษกรรม ทำให้ พคท.ตกอยู่ในสภาพยากลำบาก และอันตรายยิ่งที่ต้องเผชิญศึกรอบด้าน กองจรยุทธ์และเขตจรยุทธ์หดแคบลงๆ จนในที่สุดต้องยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธ

             “วิชัย ชูธรรม” กล่าวกับเอเชียวีคว่า ทุกวันนี้ พรรคฯยังยืนหยัดในแนวทางปฏิวัติ ทำการต่อสู้ปฏิวัติให้สอดคล้องกับสภาพเป็นจริงของสังคมไทย 

             คำว่าแนวทางปฏิวัติ มิได้หมายถึง การต่อสู้ด้วยอาวุธ หากแต่เป็นการเคลื่อนไหวทางสังคม ผลักดันให้มีการปราบปรามคอร์รัปชั่นโกงกิน พร้อมเรียกร้องให้ปฏิรูปสังคมด้านต่างๆ ให้ประชาชนมีที่ดินและสิทธิการทำกินบนที่ดินของตน 

             นอกจากนี้ พรรคฯได้ร่วมผลักดันการเคลื่อนไหวต่อสู้ของประชาชนในการเรียกร้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบธรรมด้วยรูปแบบต่างๆ

             เมื่อเอเชียวีค ถามว่า พวกท่านคิดจะลงทะเบียนให้พรรคเป็นพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการหรือไม่ และเข้าร่วมการเลือกตั้งสภาผู้แทนฯหรือไม่ เพราะอะไร?

 

 

             เลขาธิการพรรคฯ ตอบว่า ปัจจุบันรัฐบาลไม่อนุญาตให้พรรคคอมมิวนิสต์จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย สาเหตุอาจจะเป็นเพราะพรรคฯเราเคยนำพาประชาชนต่อสู้ด้วยอาวุธอย่างกว้างขวางเกือบทั่วประเทศ ถ้าปล่อยให้พรรคฯลงเลือกตั้งอย่างถูกกฎหมายแล้ว อาจจะกระทบกระเทือนระบอบการปกครองของเขาได้ 

             อย่างไรก็ตาม พรรคฯไม่มีปัญหาจะให้ลงเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรหรือไม่ เพราะผลประโยชน์ของพรรคฯก็คือผลประโยชน์ของประเทศชาติ ผลประโยชน์ของประชาชน เมื่อใดผลประโยชน์ของประเทศชาติและผลประโยชน์ของประชาชนถูกทำลาย พรรคฯก็จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชนต่อไป

             แหล่งข่าวเปิดเผยว่า หลายปีก่อน ผู้ปฏิบัติงาน พคท.ได้เข้าร่วมสนับสนุนพรรคการเมืองหนึ่ง ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2548 แต่พรรคนั้น ประสบความพ่ายแพ้ยับเยิน แต่หลังจากนั้น สมาชิกบางกลุ่มก็ยังหวังที่จะลงสนามเลือกตั้งอยู่ 

             อนึ่ง อดีตสมาชิก พคท.จำนวนหนึ่ง ในสายของ ธง แจ่มศรี อดีตเลขาธิการพรรคฯ ได้แยกตัวออกไปตั้ง “พรรคใหม่” ซึ่งเป็นมีสถานะเป็น “ปิดลับ” และดำเนินแนวทางปฏิวัติแบบเดิม ต่างจาก พคท.สายของวิชัย ชูธรรม ที่ยึดแนวทางเคลื่อนไหวถูกกฎหมาย

——

             หมายเหตุ : “วิชัย ชูธรรม” นิติศาสตร์บัณฑิต ธรรมศาสตร์ เดินทางเข้าสู่ชนบทปี 2504 โดย พคท. ส่งเขาไปทำงานมวลชนที่ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นถิ่นฐานของชนเผ่าม้ง จนสามารถสร้างเขตงานปฏิวัติในนาม “เขตภูหินร่องกล้า” สหายชาวม้งเรียกชื่อจัดตั้งเขาว่า “สหายเล่าเซ้ง” 

 

////////////////////////////

ขอขอบคุณภาพจาก เฟซบุคแฟนเพจ สังคมนิยมไทย