
เปิด 10 ฉบับ กฎหมายดักฟัง-เข้าถึงข้อมูล
วันนี้ ร่าง พ.ร.ป. ป.ป.ช. ให้อำนาจ ป.ป.ช.ดักฟังโทรศัพท์ได้ จะเข้าสู่ที่ประชุม สนช. แต่ก่อนหน้านั้นมีกฎหมายถึง10 ฉบับให้อำนาจดักฟังและเข้าถึงข้อมูลบุคคลอื่นได้
ร่างพ.ร.ป. ป.ป.ช.ที่ระบุเพิ่มอำนาจให้คณะกรรมการป.ป.ช.สามารถดักฟังโทรศัพท์ได้และวันนี้ (21 ธ.ค)จะนำเข้าสู่ที่ที่ประชุม สนช. นั้น จากการตรวจสอบพบว่าก่อนหน้านี้มีกฎหมายจำนวน 10 ฉบับ และอีก 1 ร่างกฎหมาย ที่ให้อำนาจกับเจ้าพนักงานในการดักฟังโทรศัพท์และเข้าถึงข้อมูลของบุคคลอื่นได้ ดังนี้
1 .พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
มาตรา 25บัญญัติว่า ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า เอกสารหรือข้อมูลข่าวสารอื่นใดซึ่งส่งทางไปรษณีย์ โทรเลขโทรศัพท์โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ในการสื่อสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อทางเทคโนโลยีสารสนเทศใด ถูกใช้หรืออาจถูกใช้ เพื่อประโยชน์ในการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษพนักงานสอบสวนคดีพิเศษซึ่งได้รับอนุมัติจากอธิบดีเป็นหนังสือจะยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เพื่อมีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารดังกล่าวก็ได้
2. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2519
มาตรา 14 จัตวา บัญญัติว่า ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า เอกสารหรือข้อมูลข่าวสารอื่นใดซึ่งส่งทางไปรษณีย์ โทรเลขโทรศัพท์โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการสื่อสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อทางเทคโนโลยีสารสนเทศใด ถูกใช้หรืออาจถูกใช้เพื่อประโยชน์ในการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเจ้าพนักงานซึ่งได้รับอนุมัติจากเลขาธิการเป็นหนังสือ จะยื่นคําขอฝ่ายเดียวต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาเพื่อมีคําสั่งอนุญาตให้เจ้าพนักงานได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสาร ดังกล่าวได้
3. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
มาตรา 46 บัญญัติว่าในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อไดวาบัญชีลูกคาของสถาบันการเงิน เครื่องมือหรืออุปกรณในการสื่อสา่ร หรือเครื่องคอมพิวเตอรใดถูกใชหรืออาจถูกใชเพื่อประโยชนในการกระทําความผิดฐานฟอกเงินพนักงานเจ้าหนาที่ซึ่งเลขาธิการมอบหมายเปนหนังสือจะยื่นคําขอฝายเดียวตอศาลแพง เพื่อมีคําสั่งอนุญาตให พนักงานเจ้าหนาที่เขาถึงบัญชีขอมูลทางการสื่อสาร หรือขอมูลคอมพิวเตอรเพื่อใหไดมาซึ่งขอมูลดังกลาวนั้น ก็ได
4.พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 25ุ60ให้อำนาจกับพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา 18 ..(2) เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรือจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
...(6) ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด อันเป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับ การกระทําความผิด หรือเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทําความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จําเป็นให้ด้วยก็ได้
5.พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551
มาตรา 30 บัญญัติว่า ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อไดวา เอกสารหรือข้อมูลขาวสารอื่นใดซึ่งสงทาง ไปรษณีย โทรเลขโทรศัพท โทรสาร คอมพิวเตอร เครื่องมือหรืออุปกรณในการสื่อสาร สื่ออิเล็กทรอนิกสหรือสื่อสารสนเทศอื่นใด ถูกใช หรืออาจถูกใช เพื่อประโยชนในการกระทําความผิดฐานค้ามนุษยพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งไดรับอนุมัติเป็นหนังสือจากผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือผูวาราชการจังหวัด แล้วแตกรณี จะยื่นคําขอฝายเดียวตอศาลอาญาหรือศาลจังหวัดที่มีเขตอํานาจเพื่อมีคําสั่งอนุญาตใหพนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาซึ่งเอกสารหรือข้อมูลขาวสารดังกลาว ก็ได้
6. พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556
มาตรา 17 บัญญัติว่า ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่า เอกสารหรือข้อมูลข่าวสารซึ่งส่งทางไปรษณีย์ โทรเลขโทรศัพท์โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ในการสื่อสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ สื่อทางเทคโนโลยีใด ถูกใช้หรืออาจถูกใช้ เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการกระทําความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติพนักงานสอบสวนซึ่งได้รับอนุมัติจากอัยการสูงสุด ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายแล้วแต่กรณี อาจยื่นคําขอฝ่ายเดียวต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาเพื่อมีคําสั่งอนุญาตให้ได้มาซึ่งเอกสารหรือข้อมูลข่าวสารดังกล่าวก็ได้
7. พ.ร.บ.ข่าวกรองแห่งชาติ พ.ศ.2528 ให้อำนาจกับสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
มาตรา 3 “การข่าวกรองทางการสื่อสาร” หมายความว่า การใช้เทคนิคและการดําเนินกรรมวิธีทางเครื่องมือสื่อสาร ด้วยการดักรับการติดต่อสื่อสารทางสัญญาณวิทยุเพื่อให้ได้มาซึ่งข่าวเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของต่างชาติหรือองค์การก่อการร้าย อันอาจจะมีผลกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งชาติ
8. พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
มาตรา 11(5) บัญญัติว่า ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งตรวจสอบจดหมาย หนังสือ สิ่งพิมพ์ โทรเลขโทรศัพท์หรือการสื่อสารด้วยวิธีการอื่นใด
9.พ.ร.บ. ไปรษณีย์ พ.ศ.2477 ให้อำนาจกับอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข
มาตรา 25 บัญญัติว่า ไปรษณียภัณฑ์ใดที่ส่งทางไปรษณีย์เป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ อธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข อาจมีคำสั่ง
...( 2)ให้เปิดตรวจ
10.ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.2477
มาตรา 105 จดหมาย ไปรษณียบัตร โทรเลข สิ่งพิมพหรือเอกสารอื่นซึ่งสงทางไปรษณียและโทรเลข จากหรือถึงผูตองหาหรือจําเลย และยังมิไดสง ถาเจาหนาที่ตองการเพื่อประโยชนแหงการสอบสวน ไตสวนมูลฟอง พิจารณาหรือการกระทําอยางอื่นตามประมวลกฎหมายนี้ ใหขอคําสั่งจากศาลถึงเจาหนาที่ไปรษณียโทรเลขใหสงเอกสารนั้นมา
ส่วนอีก1ร่างกฎหมาย คือ ร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาให้อำนาจ“พนักงานสอบสวน”ดักฟังโทรศัพท์ได้ ในคดีความมั่นคงของรัฐ ความผิดที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม หรือที่ยุ่งยากซับซ้อน พนักงานสอบสวนโดยอนุมัติของผู้บังคับการ ซึ่งเป็นหัวหน้าของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบอาจยื่นคำร้องขอต่ออธิบดีผู้พิพากษาหรือผู้พิพากษาหัวหน้าศาล เพื่อให้มีคำสั่งอนุญาตในการเข้าถึงและได้มาซึ่งข้อมูลอิเล็คทรอนิคส์หรือข้อมูลข่าวสารใดๆ เช่น การตรวจสอบหรือการดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการติดต่อสื่อสาร หรือข้อมูลทางการเงิน ของบุคคลที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนั้นได้
สำหรับร่างกฎหมายฉบับนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อ 25 เมษายน 60 และส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจซึ่งตรวจร่างเสร็จแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวยังไม่ประกาศบังคับใช้