เด็ด“สวนดอก” สะเทือน “ปากน้ำ” การเมืองคณะสงฆ์ | คมชัดลึก

 

          อันเนื่องมาจาก พ.ต.อ.บุญเลิศ เมตตารักษ์ อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางเข้ามายื่นหนังสือต่อ ผอ.กอ.รมน.เชียงใหม่ และศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ตรวจสอบ “เจ้าคุณนิมิต” พระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอกพระอารามหลวง ที่มีหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนเลขเดียวกับ ด.ช.ดวงดิน เวียงดินดำ คือเลขที่3-3610-00558-10-1ทั้งที่ ด.ช.ดวงดี ได้เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2538 ว่า เป็นการสวมสิทธิ์คนตายหรือไม่? กลายเป็นข่าวร้อนในวงการคณะสงฆ์ไทย 

          ประเด็นการตรวจสอบก็คงเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย แต่ในวงการสงฆ์ ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย โดยเฉพาะเส้นทางการก้าวเข้ามาเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนดอกของ “เจ้าคุณนิมิต” 

          เล่ากันว่า "พระเทพมังคลาจารย์" (สมาน กิตติโสภโณ) เจ้าอาวาสวัดท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ในฐานะรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์เจ้าคุณนิมิต และเป็นผู้ผลักดันให้เจ้าคุณนิมิตได้รับสมณศักดิ์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

          ฉะนั้น สื่อสายวัดจึงโฟกัสไปที่ "พระเทพมังคลาจารย์" กับ "พระราชรัชมุนี" หรือเจ้าคุณนิมิต

          หากมองไปถึงโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ไทย ก็จะทราบว่า บรรดาพระสงฆ์ในเชียงใหม่นั้นขึ้นต่อเจ้าคณะภาค 7 และเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ 

          ปัจจุบัน พระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ) วัดปากน้ำเขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในเขตการปกครองคณะสงฆ์ มหานิกาย ภาค 4,5,6 และ 7

          เฉพาะภาค 7 มี 3 จังหวัดคือ เชียงใหม่ ลำพูน และ แม่ฮ่องสอน โดย "พระพรหมเสนาบดี” หรือ “เจ้าคุณพิมพ์ ญาณวีโร” วัดปทุมคงคา เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณภาค 7 

          ส่วน “พระอาจารย์สะอาด” พระเทพปริยัติ วัดเจ็ดยอดพระอารามหลวง อ.เมืองเชียงใหม่ เป็นเจ้าคณะจังหวัด , “พระอาจารย์สมาน” พระเทพมังคลาจารย์ วัดท่าตอน เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ (1) และพระเทพสิงหวราจารย์ (โสภณ) วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่ (2)

          เดิมที สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะใหญ่ หนเหนือด้วย แต่เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558 “สมเด็จช่วง” แจ้งความประสงค์ต่อมหาเถรสมาคม “ขอลาออก” จากเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ

          แต่ก็มีออฟชั่น ผลักดันให้ “พระวิสุทธิวงศาจารย์” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ และเจ้าคณะภาค 7 ในเวลานั้นขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนเหนือแทนทันที เรียบร้อยโรงเรียนวัดปากน้ำ จากนั้น ก็เลื่อน"เจ้าคุณพิมพ์ วัดปทุมคงคา” เขตสัมพันธวงศ์ รองเจ้าคณะภาค 7 ขึ้นไปครองตำแหน่งเจ้าคณะภาค 7 ตามธรรมนองคลองธรรม

          สรุปว่า เจ้าปกครองคณะสงฆ์ภาคเหนือนั้น เป็นสายตรง “วัดปากน้ำ”

          โดยเฉพาะ “อาจารย์สมาน” พระเทพมังคลาจารย์ วัดท่าตอน รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับแรงหนุนจาก “วัดปากน้ำ” และมีความอาวุโสอันดับที่ 1 และเป็นแคนดิเดตสำคัญ ที่จะขึ้นมาเป็นเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ แทนพระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่องค์ปัจจุบัน ที่จะพ้นจากตำแหน่งเมื่ออายุครบ 80 พรรษา

          นอกจากนี้ พระเทพมังคลาจารย์ ถือว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ"วัดพระธรรมกาย "เคยนำพระสงฆ์จำนวนมากรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ให้รัฐบาลยกเลิกมาตรา 44 หลังออกคำสั่งให้ตรวจค้นวัดพระธรรมกาย และยังได้ร่วมกับพระสงฆ์ประมาณ 300 รูป ในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดน่าน เดินทางมาให้กำลัง"พระธัมมชโย" ที่วัดพระธรรมกาย ปทุมธานีอีกด้วย