คอลัมนิสต์

เปิดใจ"แม่เปรี้ยว" หากเจอหน้าอยากถามลูกว่า “ทำจริงไหม”

เปิดใจ"แม่เปรี้ยว" หากเจอหน้าอยากถามลูกว่า “ทำจริงไหม”

05 มิ.ย. 2560

เปรี้ยวทำถูกแล้วที่มอบตัว หนักก็จะได้เป็นเบา แม่รักลูกทุกคน แม่ให้อภัยทุกคน แม่ไม่เคยโกรธลูก

     คดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม สาวสวยวัย 22 ปี ฝังดินที่อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น สร้างความสะเทือนขวัญแก่คนไทยทั้งประเทศ โดยหลายคนไม่เชื่อว่า หญิงสาวหน้าตาดีจะสามารถฆ่าใครได้ โดยเฉพาะพยานบุคคลมีการเชื่อมโยงว่า มือสังหารในคดีนี้ไม่ใช่ใคร คือ “เปรี้ยว” หรือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย อายุ 22 ปี และล่าสุดถูกจับกุมแล้ว หลังหลบหนีไปตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

    ขณะที่คนที่ทุกข์ใจและเป็นห่วงเปรี้ยวมากที่สุด คงจะไม่ใช่ใครที่นั่น นั่นคือแม่ของเธอเอง นางสาคร ภาษี อายุ 62 ปี ที่เฝ้ารอคอยการกลับมาของลูกอยู่ที่บ้านห้วยบาก ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ทุกวัน แม้ว่าสังคมจะประณามว่าลูกของเธอคือฆาตกร แต่เธอเองก็เชื่อมั่นว่า ลูกไม่ได้ทำและหากเจอหน้ากันจะถามลูกว่า “ทำจริงไหม”

     นางสาครที่นั่งรอลูกสาวด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยและอิดโรย เนื่องจากเธอเองก็กังวลและเป็นห่วงลูก และภาวนาขอให้เปรี้ยวกลับมาบ้าน กลับมามอบตัว เพราะหากมาอยู่ประเทศไทยก็ยังพอรู้ว่าจะเข้าสู่กระบวนการอย่างไร แต่หากไปอยู่ต่างประเทศเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

     “เปรี้ยวโทรมาบอกพี่สาวว่าจะมอบตัว และบอกให้แม่ไม่ต้องคิดมาก เปรี้ยวทำเอง เปรี้ยวจะรับเอง พอรู้ว่าลูกจะมามอบตัวก็รู้สึกดีใจมาก แม้จะรู้ว่าลูกจะติดคุกแต่แม่ก็ยังดีใจ เพราะอย่างน้อยก็จะรู้ว่าอยู่ที่ไหน ปลอดภัยหรือไม่” นางสาคร บอก

     และขณะที่รอฟังข่าวการกลับของลูกสาว นางสาครได้เก็บเสื้อผ้าและเตรียมหาผลไม้ที่เปรี้ยวชอบ ทั้งฝรั่ง มะม่วง เพื่อเอาไปฝากลูกสาว พร้อมกับพระเครื่องของพระอาจารย์ยูวิน ภูมิปัญโญ เจ้าอาวาสวัดสว่างพร อ.เขาสวนกวาง ที่ชาวบ้านและครอบครัวเปรี้ยวให้ความเคารพนับถือ เนื่องจากวันที่เปรี้ยวจะหนีไปยังได้มากราบพระและขอด้ายสายสิญจน์เพื่อผูกแขนให้โชคดี และก่อนหน้านี้ที่ตามหาเปรี้ยวยังไม่เจอ แม่เคยไปกราบท่านและถามว่าเปรี้ยวอยู่ไหน ปลอดภัยดีไหม ซึ่งท่านก็บอกว่าเปรี้ยวปลอดภัยดี อีก 3 วันจะกลับมาและกลับมาจริงๆ

     “วันนี้แม่ดีใจมาก จับตัวลูกได้ แม้จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแม่ก็ดีใจ ขอให้เข้ามาเมืองไทยให้ได้ อยู่บ้านเมืองเขาเกรงจะไม่ปลอดภัย กลัวถูกทำร้าย กลับมาสู้คดีบ้านเราจะดีกว่า แม่จะได้สบายใจ แต่ก็ห่วงเหมือนกัน เพราะญาติพี่น้องของน้องแอ๋มบอกว่าอยากจะให้ตายตามกัน ซึ่งแม่ก็ห่วง เพราะเป็นการจองเวรกัน ตอนนี้แม่อยากจะไปหาเปรี้ยว อยากจะไปกอด อยากคุยกับลูก อยากดูว่าลูกปลอดภัย และอยากจะถามลูกเองว่า เปรี้ยวได้ทำไหม เปรี้ยวได้ฆ่าเขาไหม แม่จะถามเปรี้ยวเอง” นางสาคร กล่าว

     เมื่อถามถึงชีวิตวัยเด็กของเปรี้ยว นางสาครเล่าย้อนให้ฟังว่า สมัยเด็กๆ เปรี้ยวเป็นเด็กร่าเริง ขี่จักรยานไปโรงเรียนก็ถูกเพื่อนแกล้ง เอามีดมากรีดเบาะรถจักรยานของเปรี้ยว เปรี้ยวก็มาฟ้องแม่ แม่ก็บอกให้อดทน ไม่รู้ทำไมเพื่อนถึงแกล้งเปรี้ยว แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ป.5-ป.6 เปรี้ยวใส่ชุดไทยรำหน้าเวทีให้ครูดู รูปเปรี้ยวแต่ก่อนแม่เก็บไว้ เปรี้ยวสวยเด่น สูง ผิวพรรณดี ทั้งๆ ที่เป็นคนบ้านนอก

     พอโตหน่อย เปรี้ยวจบ ม.2 เปรี้ยวไปชอบผู้ชายอีกหมู่บ้าน เปรี้ยวไปแต่งงานอยู่กินกับเขาตอนอายุ 15 และมีลูกด้วยกัน 1 คน แต่ครอบครัวทางสามีดูแลลูกไม่ให้มาอยู่กับเปรี้ยว เพราะเปรี้ยวจน และเขาก็เลิกกันตอนเปรี้ยวอายุประมาณ 17 ปี ตอนอยู่ด้วยกันแฟนเปรี้ยวทำร้ายเปรี้ยว เขาติดเหล้า ทุบตีเปรี้ยว เปรี้ยวทนไม่ไหวเลยเลิกไปและไปทำงานร้านคาราโอเกะในเมืองขอนแก่นจนกระทั่งไปแต่งงานกับฟร้อนท์ ตอนแต่งงานใหญ่โตเลี้ยงอาหารคน และมีคนรับรู้เยอะ แต่ฟร้อนท์ก็มาติดคุก

     ส่วนที่มีคนตั้งข้อสังเกตโพสต์ภาพเงินเยอะๆ แล้วแม่เคยได้เงินหรือไม่ นางสาครบอกว่า ไม่เคยได้เงินเลย เวลามาหาแม่ให้เงินแม่แค่ครั้งละ 500 พ่อได้ 200 ให้ย่า 500 ฝากให้ลูกชาย 1,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือเปรี้ยวเอาไปเลี้ยงเพื่อน ช่วยเหลือเพื่อน พอเพื่อนบอกไม่มีเงิน เปรี้ยวก็เอาเงินให้ แล้วไม่ทวงคืน เขาเป็นคนรักเพื่อน กตัญญูต่อครอบครัว รักย่า รักแม่ เวลามาก็มาแป๊บเดียว ไปนอนบ้านย่าแล้วก็กลับ

     ส่วนการทำงานของเปรี้ยวนั้น นางสาครบอกว่า ส่วนตัวแม่คิดว่าเปรี้ยวไปทำงานร้านคาราโอเกะ ไปเป็นนักร้อง นั่งกับแขก ถ้าเราร้องเพลงเพราะก็ให้โต๊ะ 500 บ้าง 1,000 บ้าง เก็บไว้ไม่ได้ใช้ เพราะต้องเอาไปจ่ายค่าเช่าบ้าน เอามาให้พ่อให้แม่หมด

     ส่วนบ้านที่เปรี้ยวกำลังสร้างให้แม่นั้น นางสาคารบอกว่า เปรี้ยวเคยบอกว่าเปรี้ยวสนุกมามากแล้ว บ้านหลังที่แม่อยู่เป็นบ้านพี่สาว เผื่อว่าพี่สาวจะกลับมาอยู่บ้าน อยากมีบ้านให้แม่ ให้แม่มีบ้านอยู่จะได้สบายใจ แต่ก็ไม่รู้บ้านจะเสร็จไหม วันนี้แม่ตั้งใจเตรียมของไปหาเปรี้ยว

     สิ่งแรกที่อยากบอกคือ เปรี้ยวทำถูกแล้วที่มอบตัว หนักก็จะได้เป็นเบา แม่รักลูกทุกคน แม่ให้อภัยทุกคน แม่ไม่เคยโกรธลูก ลูกเป็นคนดี สังคมที่่ประณามลูกเปรี้ยวขอให้ถามแม่ก่อนว่าความประพฤติของเปรี้ยวเป็นอย่างไร สังคมประณามเปรี้ยวแม่ก็เสียใจ เพราะแม่ก็เลี้ยงลูกแม่มา แม้ลูกจะเยอะ แต่แม่ก็เลี้ยงลูกมาไม่เคยขโมยใครกิน เพื่อนบ้านช่วยเหลือกัน เวลามีการงาน แม่จะไปล้างจานช่วยงานบุญงานแต่งเขาให้เท่าไหร่แม่ก็เอา ที่ดินก็ไม่มี

     “ส่วนตัวแม่ ในหัวใจแม่ไม่เชื่อว่าเปรี้ยวทำ เพื่อนบ้านมาบอกแม่ก็ไม่เชื่อ คนชื่อเปรี้ยวเยอะ ปรียานุชก็มีคนตั้งเยอะ ตอนแรกไม่ออกนามสกุล แม่ก็ไม่คิดว่าเป็นลูก เขาบอกเป็นเปรี้ยว แต่แม่ต้องรอฟังก่อนว่านามสกุลอะไร พอรู้ว่าเป็นนามสกุลพ่อ หัวใจของแม่ก็สลาย ตั้งแต่วันนั้นมาข้าวปลาก็ไม่อยากจะกิน เสียใจ” นางสาคร บอกเล่า ในวันที่แม้เธอจะรู้ว่าลูกปลอดภัยดี แต่หัวอกคนเป็นแม่ก็ยังทุกข์ใจไม่คลาย

โดย สุมาลี สุวรรณกร