“นกเงือก”เหยื่อฆ่าและพราก

     ในเมื่อสัตว์ป่าสงวนอย่าง “นกเงือก” ยังเป็นที่ต้องการของบรรดามนุษย์จำพวกเงินซื้อได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิตที่จะนำมาจองจำเพื่อสันทนาการของตนเอง แก๊งหรือหัวขโมยจึงยังคงทำมาหากินกับความสุ่มเสี่ยงที่พันธุ์นกหายากจะสูญไปจากประเทศไทย

     กลายเป็นว่ายิ่งพูดยิ่งรณรงค์เพื่อการอนุรักษ์นกเงือกมากเท่าไร การจับกุมกลุ่มคนที่ลักลอบพรากเอานกเงือกจากรังไปขายให้คนกระเป๋าหนักก็ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง

     25 เมษายน 2560 เพจเฟซบุ๊ก “เรารักษ์เกาะยาว” ได้แชร์ข้อความ และภาพลูกนกเงือก 2 ตัวบนเกาะยาวน้อย หมู่ 6 บ้านแหลมยาง อ.เกาะยาว จ.พังงา ที่หายไปจากรัง และแม่นกเงือกถูกฆ่าตาย สร้างความเศร้าใจให้แก่ชาวบ้าน และกลุ่มอนุรักษ์นกเงือกบนเกาะยาวน้อยเป็นอย่างมาก

     “เรารักษ์เกาะยาว” ระบุข้อความว่า วันนี้ตอนบ่ายไปดูโพรงรังนกเงือกที่ต้นเสม็ดแดงตามปกติ ซึ่งจะไปดูสองวันครั้ง ไปวันนี้ก็ให้รู้สึกแปลกๆ เพราะสภาพเงียบผิดปกติ ไม่มีเสียงลูกนกร้อง เลยเข้าไปดูใกล้ๆ สภาพโพรงที่ว่างเปล่า บอกให้รู้ว่าได้มีขโมยมาล้วงเอาลูกนกเงือกไปอีกแล้ว

     แต่รู้สึกแปลกใจว่าในโพรงน่าจะมีอะไรอยู่ เพราะสภาพในโพรงรังมืด ใช้แฟลชกล้องถ่ายรูปส่องดู เห็นมีนกเงือกนอนอยู่ในโพรง เลยลงไปชวนโกบกับรุสดิ้นขึ้นมาดู หลังจากกระเทาะดินด้านหน้าของโพรงออกแล้ว เจอแม่นกเงือกนอนตายอยู่ในโพรง แม่นกคงต่อสู้เพื่อปกป้องลูกของมันจากคนที่ไปขโมยลูก เลยถูกคนทำอันตรายถึงตาย น่าเศร้าใจจริงๆ ครับ

     นกเงือกแม้มันเป็นสัตว์ แต่ความรักที่มันมีต่อลูกน้อยของมัน มีค่ากว่าชีวิตของตัวเอง ยอมตายเพื่อจะปกป้องลูก วันนี้ อีกหนึ่งชีวิตแม่ที่จบสิ้น เพราะความรักลูก และเพราะความใจร้ายของคน วันนี้ที่ต้นเสม็ดแดง เคยมีเสียงลูกนกร้อง เสียงแม่นกเพรียกหาพ่อนก เสียงพ่อนกร้องเสียงดังก่อนที่จะไปป้อนอาหารที่รัง บัดนี้ไม่มีแล้ว

     อาจารย์ศิริวรรณ นาคขุนทด นักวิจัยโครงการศึกษานิเวศวิทยาของนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า พื้นที่ อ.เกาะยาว จ.พังงา เป็นพื้นที่ของพี่น้องชาวมุสลิมส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บนเกาะ ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มอนุรักษ์นกเงือก ได้ติดต่อประสานงานให้เจ้าหน้าที่นักวิจัยโครงการศึกษานิเวศวิทยาของนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงพื้นที่เกาะยาว เพื่อศึกษาการอนุรักษ์ดูแลนกเงือกบนเกาะยาว โดยการสร้างซุ้มนั่งดูนกเงือกทำรัง

     “นักวิจัยโครงการศึกษานิเวศวิทยาของนกเงือก ได้แนะนำการดูนกเงือกว่า สามารถทำเป็นท่องเที่ยวได้ เพราะที่นั่นมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาก จะสร้างรายได้ให้คนในเกาะยาว หลังจากนักวิจัยโครงการศึกษานิเวศวิทยาของนกเงือก เดินทางกลับมาแล้วได้มีคนเข้าไปขโมยลูกนก และฆ่าแม่นกเงือกตาย”

     ขณะนี้ทางกลุ่ม “เรารักษ์เกาะยาว” ได้มีการแชร์ภาพนกเงือกที่ถูกทำร้าย และประกาศตามหาลูกนกเงือกที่หายไปจากรังจำนวน 2 ตัว ซึ่งขณะนี้มีคนเอามาคืน 1 ตัว ส่วนอีก 1 ตัวยังหาไม่เจอ ระหว่างนี้ได้ให้ชาวบ้านกลุ่มที่รักนกเงือกดูแลลูกนกเงือกที่มีคนเอามาคืนก่อนที่จะประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับไปเลี้ยงดูต่อไป

     เรื่องราวของนกเงือกยังคงเป็นข่าวอย่างสม่ำเสมอ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางปี 2559 เจ้าหน้าที่จับกุม 3 วัยรุ่นติดยาเสพติด ที่ขโมยลูกนกเงือกหัวแรดอายุ 2 เดือน จากโพรงเบอร์ 29 บนเทือกเขาบูโด เขตอุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส

     โดยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2559 ทีมนักวิจัยโครงการศึกษานิเวศวิทยาของนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และช่างภาพสารคดี ได้ไปถ่ายภาพและติดตามดูการเจริญเติบโตของลูกนกเงือกในโพรง หรือรังหมายเลข 29 พบว่าลูกนกเงือกหัวแรด อายุ 2 เดือนถูกขโมย จึงได้ประสานทางเขตอุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดีให้รับทราบ และเข้าแจ้งความที่ สภ.บาเจาะ กระทั่งวันที่ 16 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัววัยรุ่นจำนวน 3 คน ใน อ.บาเจาะ ซึ่งให้การรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยลูกนกเงือกหัวแรดจากโพรงเบอร์ 29 โดยทั้ง 3 คนให้การว่าได้นำลูกนกเงือกหัวแรดไปขายให้แก่พ่อค้าที่ อ.ยี่งอ ในราคา 3,200 บาท เพื่อนำเงินมาซื้อยาเสพติด

     สำหรับลูกนกเงือกหัวแรดที่ถูกวัยรุ่นติดยาเสพติดขโมยไปจากโพรงเบอร์ 29 นั้นถูกนำไปไว้โนโพรงเบอร์ 29 เช่นเดิม เพื่อให้แม่นกเงือกดูแล เพราะแม่นกยังบินวนรอเพื่อจะป้อนอาหารให้ลูก

     ผู้ที่รับซื้อหรือพ่อค้าจะมีความผิดค้าสัตว์ป่า โทษของผู้รับซื้อหรือพ่อค้าคือจำคุกสถานเดียว ส่วนวัยรุ่น 3 คนที่ขโมยลูกนกเงือกหัวแรดนั้นมีความผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า

     สำหรับพ่อค้ารับซื้อที่ อ.ยี่งอ รายนี้ จะรับซื้อสัตว์ป่าหายากจากคนที่ขโมยมา เพื่อนำไปขายต่อให้แก่ลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นขาประจำ เป็นผู้ที่มีฐานะทางการเงิน และชื่นชอบสัตว์ป่าหายาก เป็นกลุ่มลูกค้าเฉพาะมากกว่า

     ทั้งนี้ การจับกุมคนที่ขโมยและขยายผลจนถึงผู้รับซื้อถือเป็นรายแรกของปี 2559 และถือเป็นผู้รับซื้อที่จัดอยู่ในกลุ่มผู้รับซื้อสัตว์ป่าหายากรายใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าจะขยายผลไปสู่ผู้รับซื้อรายอื่นในพื้นที่ รวมถึงกลุ่มที่นำสัตว์ป่าหายากมาขายให้แก่พ่อค้าในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งคิดว่าน่าจะมีอีก

     ยังเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง สำหรับสัตว์สงวนอย่างนกเงือก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว โดยเฉพาะต้องตัดวงจร “อุปสงค์-อุปทาน” อันเป็นต้นตอของปัญหาให้ได้