คอลัมนิสต์

ย้อนรอย  คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าโหด!! น้องโสน

ย้อนรอย คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าโหด!! น้องโสน

31 มี.ค. 2560

1 ปีกว่า ของกระบวนการยุติธรรมก่อนที่จะนำไปสู่คำตัดสินของศาลให้ประหารชีวิต"ผญบ.สีถาน" ฆ่าโหด"น้องโสน"นักเรียนหญิงวัย18

               เป็นอีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญที่คนร้ายพยายามข่มขืนน้องโสน นักเรียนหญิงชั้น ม.6  แต่ถึงแม้เธอจะหนีรอดเงื้อมมือเพชฌฆาตมาได้ แต่อาการที่ถูกทำร้ายอย่างสาหัสเกินเยียวยาเป็นเหตุให้เธอต้องเสียชีวิตในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาถึง 4 เดือนจนสามารถจับกุมคนร้ายก่อนที่จะส่งฟ้องศาลในเวลาต่อมา และในวันนี้ (30 มี.ค.) ศาลได้ตัดสินประหารชีวิตคนที่ทำร้ายเธอท่ามกลางญาติพี่น้องที่ยังคงเสียใจกับการจากไปของเธอ

               ย้อนเหตุการณ์ในช่วงเช้าของวันที่ 23 ธันวาคม 2558 ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือ “น้องโสน” อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ยังคงดำเนินชีวิตอย่างปกติ โดยวันนั้นขี่รถจักรยานยนต์ไปเรียนหนังสือ 

 

ย้อนรอย  คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าโหด!! น้องโสน

 

               แต่ในช่วงเย็นระหว่างขี่รถกลับบ้านเธอถูกคนร้ายสะกดรอยขี่รถจักรยานยนต์ประกบและใช้เท้าถีบรถจนเสียหลัก พร้อมกับลงไปฉุดกระชากต่อยท้องหลายครั้งเพื่อข่มขืน แต่เธอพยายามต่อสู้ เมื่อคนร้ายใช้มือปิดปากเธอก็กัดมือและบีบลูกอัณฑะคนร้าย จนสามารถหนีมาได้ ก่อนจะรีบโทรศัพท์หาพ่อเพื่อขอความช่วยเหลือ 

               น้องโสนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกมลาไสย ก่อนที่จะถูกส่งต่อมายังโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ตามลำดับ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บสาหัสจากการถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง 

               ข่าวของเธอปลุกให้สังคมรับรู้ด้วยการแชร์ในโลกโซเชียลเพื่อขอรับบริจาคเลือด กระทั่ง 25 ธันวาคมน้องโสน เด็กนักเรียนสาวอนาคตไกลวัย 18 ปี ก็เสียชีวิตลงด้วยสาเหตุตับและเส้นเลือดในท้องแตก...!!

               เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความโศกเศร้าให้แก่พ่อแม่ ญาติพี่น้อง รวมถึงเพื่อนนักเรียน คณะครูอาจารย์โรงเรียนร่องคำ อย่างมากต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของเธอ และมีพิธีฌาปนกิจ ที่วัดบ้านโนนเมือง ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ในวันที่ 28 ธันวาคม 

 

ย้อนรอย  คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าโหด!! น้องโสน

 

               “ครอบครัวเสียใจมากที่เสียลูกสาวไป อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้และไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้กับใครอีก ลูกสาวมีความฝันอยากเป็นพยาบาลเพื่อช่วยคน แต่ก็มาเจอคนใจร้ายพรากเอาชีวิตไป ส่วนตัวเชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน” นางลำไย พลประสิทธิ์ มารดาน้องโสน กล่าว

               ครอบครัวน้องโสนมีอาชีพค้าขาย แต่ปกติพ่อก็จะขับรถมารับ-ส่งเธอทุกๆ วัน แต่เพราะวันเกิดเหตุเป็นวันงานกีฬาสี โรงเรียนมีกิจกรรม เธอจึงขี่รถจักรยานยนต์เดินทางไป-กลับเพียงลำพัง นั่นหมายถึงพลาดเพียงแค่วันเดียวก็คือพลาดไปทั้งชีวิต ความรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญ

               กระแสสังคมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว  เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ  

               กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมมีการตั้งรางวัลนำจับถึง 1 แสนบาท

 

ย้อนรอย  คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าโหด!! น้องโสน

 

                ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ก็ไม่นิ่งนอนใจ โดยตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ จัดชุดไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง พร้อมสืบหาวางเป้าหมายผู้ต้องสงสัยไว้ มีการประกบตัวผู้ต้องสงสัย รวมถึงเข้าสอบปากคำพยาน หาหลักฐานต่างๆ ที่จะไปมัดตัวคนร้ายที่แท้จริงให้ได้ 

                 มีการสอบปากคำกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้าน 4-5 ราย และสั่งประกบผู้ต้องสงสัยอีกกลุ่มหนึ่งในหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งมีวัยรุ่นต้องสงสัยอีก 1 ราย เป็นคนต่างถิ่น เป็นทหารเกณฑ์ในหมู่บ้านใกล้เคียงที่นั่งร่วมวงดื่มสุรากับ วัยรุ่น 4-5 คน ที่ตำรวจได้สอบปากคำไปก่อนหน้านี้

                 การสืบสวนล่วงเลยเข้าปีใหม่ พ.ศ.2559 มีการแจ้งเบาะแสจากประชาชนหลายราย ก็ได้ผู้ต้องสงสัยซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องทางคดี 15 ราย พอสอบสวนอย่างต่อเนื่องและตีกรอบให้แคบขึ้น ปรากฏว่ามีเพียง 3 รายเท่านั้นที่น่าสงสัยที่สุด

                 ทุกฝ่ายตั้งตารอเพราะเหลือเพียงผลการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น จึงออกหมายจับฆาตกรโหดได้...???

                 กระทั่ง 4 เมษายน วันที่ทุกฝ่ายรอคอยก็มาถึง เมื่อ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย พร้อมหมายจับเข้าจับกุม กฤติเดช ระเวงวรรณ วัย 34 ปี ผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ขณะนำลูกบ้านไปเกณฑ์ทหาร

 

ย้อนรอย  คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าโหด!! น้องโสน

 

                 แม้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธแต่เจ้าหน้าที่มั่นใจในพยานหลักฐานคือรอยกัดที่นิ้วหัวแม่มือขวาของ กฤติเดช ที่เจ้าตัวอ้างว่ามาจากหนูนา แต่จากการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์แพทย์ยืนยันว่าเป็นรอยฟันมนุษย์

                 นอกจากนี้ ยังมีรอยข่วนบริเวณนิ้วชี้ขวา แก้มซ้าย เอวด้านซ้าย และบริเวณหลัง รวมทั้งเศษดินและหญ้าแห้งที่พบในเสื้อผ้า    ของผู้ต้องหา รวมถึงรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-ขาว ทะเบียน ขคธ 185 กาฬสินธุ์ ของผู้ต้องหาที่มีร่องรอยการเฉี่ยวชนกับรถของน้องโสน ทะเบียบ ขนว 443 ร้อยเอ็ด

                  จากพยานหลักฐานเหล่านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาฉกรรจ์ “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย" และคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญและผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพล  

                 ขณะที่นายอำเภอกมลาไสยก็ได้สั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงและให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านจนกว่าคดีถึงที่สุด

 

ย้อนรอย  คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าโหด!! น้องโสน

 

                  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสำนวนถึงอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งอัยการจังหวัดได้ตั้งองค์คณะขึ้นมาพิจารณาคดี 1 เดือน แล้วส่งฟ้องศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2559 

                 ศาลได้รับเป็นคดีดำที่ 2112/2559 นัดสืบพยานโจทก์รวม 40 ปากพร้อมพยานเอกสาร ในเดือนพฤศจิกายน 2559 สืบพยานจำเลย 11 ปาก ในช่วงเดือนธันวาคม 2559 และนัดฟังคำตัดสินคดี ในเช้าวันที่ 30 มีนาคม 2560

               อย่างไรก็ตาม กระบวนการตัดสินของศาลชั้นต้นได้สิ้นสุดลงด้วยการสั่งประหารชีวิตพร้อมให้จ่ายสินไหมทดแทน 2.39 ล้านบาท โดยผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ เหลืออีก2ศาลซึ่่งต้องจับตากันต่อไปว่าบทลงโทษของคดีน้องโสนจะจบลงเช่นไร..?