
ว่าด้วยเรื่อง “ป๋า” : สปท. เขาว่ากันอย่างไร
แค่ชั่วข้ามคืน ชื่อของ "อนุสร จิรพงศ์" ก็เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ ในฐานะ "ป๋า" มาดูกันว่าเพื่อน สปท. ของเขา คุยเรื่องนี้กันอย่างไร
คำว่า ”ป๋า”กลายเป็นคำฮิตติดลมบน ไม่ว่าจะในโลกโซเซียล สภากาแฟ วงสนทนาต่างๆ หยิบมาพูดมาเล่นกันอย่างสนุกปาก ทั้งนี้ก็สืบเนื่องมาจากสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)นาม“อนุสร จิรพงศ์ “สร้างวีกรรม เขกกกระโหลกบาร์เทนเดอร์ นายชาตอลงกรณ์ นิลยาน พนักงานร้านอาหาร เกรฮาวด์ ชั้น 1 ห้างลาวิลลา ซ.อารีย์ โทษฐานเรียกตนเองว่า “ป่า”
เรื่องฉาวโผล่มาเมื่อพนักงานบาร์เทนเดอร์คนดังกล่าวต้องวิ่งโร่แจ้งความที่โรงพัก สน.บางซื่อ ในข้อหา ทำร้ายร่างกาย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 10 มี.ค.ที่ “อนุสร” ไปรับประทานอาหารที่ร้านดังกล่าว และปรากฏคลิปเผยแพร่ทางโซเซียลจนลั่นสนั่นเมือง จาก สปท.โนเนม กลายเป็นที่รู้จักหรืออยากรู้จักของผู้คนโดยทั่วไปชั่วข้ามคืน ด้วยคำว่า “ป๋า” แท้ๆ
เมื่อพลิกดูความหมายของคำว่า “ป๋า” ในพจนานุกรมหมายถึง พ่อ บิดา แต่คำนี้ก็นำมาใช้เป็นสรรพนามเรียกชายสูงอายุ ดูภูมิฐานเป็นผู้ใหญ่ ใจดี มีเงิน สปอร์ต กว้างขวาง มีอิทธิพล
ซึ่งคำว่า”ป๋า” เป็นคำเรียกที่ให้การเคารพยอมรับนับถือจากผู้คนในหลายๆด้าน โดย”ป๋า”มีทั้งนักธุรกิจ นักการเมือง บุคคลทั่วไป ที่เรารู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมือง คือ “ป๋าเปรม”พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ:ซึ่งเป็นบุคคลที่มีคุโณปการให้กับบ้านเมืองมากมาย
ในส่วนของแวดวงการเมือง ไม่มีใครไม่รู้จัก "ป๋าเหนาะ “นายเสนาะ เทียนทอง อดีตหัวหน้าพรรคประชาราช ผู้คว่ำหวอดการเมืองมาหลายยุคหลายสมัย ผู้คนหลากหลายวงการต่างให้ความเคารพนับถือ
ด้านวงการดารา ตลก ก็มี “ป๋าเทพ “เทพ โพธิ์งาม "ป๋าต๊อก“ หรือ ”ล้อต๊อก “ สวง ทรัพย์สำรวย ขณะที่ด้านกีฬาที่คนไทยชอบเรียก ป๋าเฟอร์กี้”เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
บุคลที่ถูกเรียกว่าว่า ”ป๋า”ถือเป็นบุคคลที่ทุกคนให้ความเคารพ กริ่งเกรง ด้วยความเป็นคนใจกว้าง กระเป๋าหนัก ใครเดือนเนื้อร้อนใจพึ่ง”ป๋า”ได้ หลายคนพอใจและภูมิใจเมื่อใครๆเรียกว่า”ป๋า” โดยไม่มีข้อแม้
แต่เหรียญก็ยังมี 2 ด้าน เพราะอีกด้านหนี่งชอบให้เรียก”ป๋า” อีกด้านหนึ่งก็ยังมีหลายคนไม่ชอบ เพราะคำว่า”ป๋า”บางทีก็หมายถึงในแง่ไม่ดีกับผู้หญิง หื่นกาม เหมือนเป็นเฒ่าหัวงู มีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ ใครถูกเรียกก็อาจไม่พอใจเหมือนเหตุการณ์ สปท.อนุสร ก็ได้
โดยเจ้าตัวผู้เกลียดคำว่า ”ป๋า” ออกตัวแรงประกาศลั่น ไม่ชอบให้ใครมาเรียกเช่นนี้ ก็เลยจัดการด้วยการเขกกะโหลกบาร์เทนเดอร์ ซัก 1 ที เป็นการสั่งสอน แต่ด้วยเจ้าตัวสวมหัวโขนเป็นถึง”สปท.”เรื่องราวก็กลายใหญ่โต จนเจ้าตัวต้องออกมาขอโทษและยอมโดยเสียค่าปรับ 1 หมื่นบาท และเรื่องนี้เองเจ้าตัวก็เปิดเผยว่าหลังเหตุการณ์นี้ออกไป สมาชิกสปท.ก็โทรศัพท์มาถามไถ่กันจำนวนมาก จากคนที่ไม่เคยใครรู้จัก ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา พอเคสนี้เกิดขึ้น”อนุสร” จึงเป็นที่รู้จักของเพื่อนสมาชิกสปทซ.ทันที
แต่เรื่องยังไม่จบ เมื่อ ”เสี่ยจ้อน”อลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสปท.คนที่ 1 ออกมาบอกว่า เรื่องของนายอนุสร ในฐานะทีเป็น สปท.ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ซึ่งนายอนุสรก็ยอมรับผิด แต่เรื่องนี้ตนก็ให้คณะกรรมการตรวจสอบด้านจริยธรรมของสปท.เข้าไปดำเนินการพิจารณาว่าจะมีผลต่อสมาชิกภาพการเป็นสปท.หรือไม่ โดยจะใช้เวลาตรวจสอบ 60 วัน ซึ่งกรณีนี้ความผิดเฉพาะตัวเพราะการกระทำดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ของสปท.แต่อย่างใด
หลังเหตุการณ์ “ไม่ชอบให้เรียกป๋า” วงสนทนา เม้าท์มอย ในสปท.ก็เป็นเรื่องที่พูดกันแบบขำขัน ทีเล่นทีจริง บางคนก็ชอบบางคนก็ไม่ชอบ อย่าง ”พี่เสรี” นายเสรี สุวรรณภานนท์ สปท. บอกว่า “ถ้าเรียก”ป๋า”ก็ดี แต่ถ้าเรียก”พี่”จะดีกว่า” พร้อมทั้งให้ข้อคิดฝากเพื่อนสปท.ว่า เราเป็นคนสาธารณะ จะทำอะไรก็มักจะถูกคนจับตามอง ดังนั้นเรื่องบางเรื่องก็อย่าเก็บมาคิดเล็กคิดน้อย ไม่งั้นอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเช่นเดียวกับ”อนุสร”ก็เป็นไปได้
ขณะที่สปท.คนอื่นก็หยิบเรื่อง”ป๋า”มาพูดแซวเล่นๆในวงสนทนาต่างๆ บางคนบอกว่า “ผมไม่ใช่ป๋า เพราะหุ่นไม่เข้าข่าย แถมกระเป๋าไม่หนักไม่ตุง ใครจะมาเรียกผม แต่ถ้าเรียก “เฮีย”ก็น่าจะสมน้ำสมเนื้อกันหน่อย”
ส่วน เสธ.อู้ “พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช”ก็บอกว่า เรื่องของอนุสร เป็นเรื่องจิ๊บๆ ไมได้เป็นเรื่องน่ากลัว หรือเรื่องใหญ่อะไร แต่ก็เป็นบทเรียนไป
นอกจากนี้ยังยังมีการสนทนาไม่เพียงแต่สปท.สื่อมวลชน ข้าราชการต่างก็ตั้งวงสนทนาถึงคำจำกัดความของสรรพนามต่างที่สังคมเรียกกันคุ้นปาก ทั้งคำว่า “ป๋า” “เฮีย” เสี่ย"“ลุง” หมายความว่าอย่างไร ซึ่งแต่ละคนก็ให้ความหมายไปหลากหลายแบบ แต่ทุกคนก็บอกเสียงเดียวว่า เรียก”พี่”ดีที่สุดอ้ายน้อง เพราะเรียกพี่แล้วยังไม่โดนเขกกะโหลกแถมจะได้ทิปไปอีก 5555
แต่ที่แน่ๆนาทีนี้ คนที่ไม่ชอบถูกเรียกว่า “ป๋า” กำลัง ถูกคนทั้งประเทศเรียกเขาว่า “ป๋า”
--------