คอลัมนิสต์

ไตวาย-ชีวิตดับ เพราะ “ยาชุด” 5-10 บาท

ไตวาย-ชีวิตดับ เพราะ “ยาชุด” 5-10 บาท

14 มี.ค. 2560

“ธนพล ดอกแก้ว” ที่ป่วยไตวายตั้งแต่อายุ 30 ปี และ “ลูกชายป้าผกา” ที่เสียชีวิตตั้งแต่อายุ 17 ปี น่าจะเป็นบทเรียนช่วยกระตุกและกระตุ้นให้คนไทยหยุด ! ใช้ยาชุด

 

           “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา”เป็นสำนวนที่ใช้ได้ดีกับคนไทยที่นิยมซื้อยาชุดมากินเอง ด้วยการหาซื้อง่าย ราคาที่ไม่แพง โดยไม่รู้เลยว่ามันแฝงไว้ด้วยอันตรายอย่างมหันต์ 

           “ตอนทำงานพี่ซื้อกินเองนะยา ตามร้านค้าทั่วไปได้มาเป็นชุดๆ ชุดละ 5-10 บาท มารู้ว่าอันตรายก็ไตวายไปแล้ว” ธนพล ดอกแก้ว ประธานชมรมเพื่อโรคไตแห่งประเทศไทย นึกย้อนถึงสาเหตุที่ทำให้ไตพังตั้งแต่อายุ 30 ปี

           ธนพล ในวัย 45 ปี เล่าว่า เมื่อ 10 ปีก่อนทำงานเป็นพนักบริษัทอันดับต้นๆของประเทศไทย ตำแหน่งไม่เล็ก เงินเดือนสูงพอสมควร มุมานะทำงาน เมื่อปวดเมื่อยตามร่างกายก็ไปซื้อยาที่เป็นยาชุดมากินเอง เพราะหาซื้อง่าย สะดวกตามร้านขายยาที่คนขายไม่น่าจะใช่เภสัชกร และกินแล้วก็หายปวด หายเมื่อย จากครั้งละ 1 ชุด ก็เพิ่มจำนวนไปครั้งละ 3-4 ชุดจึงจะดีขึ้น ซื้อมากินแบบนี้ตลอด

ไตวาย-ชีวิตดับ เพราะ “ยาชุด” 5-10 บาท

           กระทั่ง เริ่มมีอาการบวม ตอนนั้นอายุเพียง 30 ต้นๆ ก็ไปเข้ารับการตรวจ แพทย์บอกว่าเป็นไตวายระยะที่ 3 ต้องฟอกไต ก็มิวายแสวงหายาอื่นๆนอกจากวิธีรักษาที่แพทย์แนะนำ เพราะหลงเชื่อคำโฆษณาที่ระบุว่ายารักษาได้ครอบจักรวาล รักษาโรคโน่นนั่นนี่ได้หมด ด้วยความที่อยากหายป่วย แม้จะมีราคาแพงมากชุดละ 12,000 -25,000 บาทก็ซื้อมากิน ประมาณ 3 เดือนติดต่อกัน

           หลังจากนั้น เมื่อมาเข้ารับการตรวจผลแสดงว่าไตแย่ลงเรื่อยๆ จากค่าไต 2.5 พุ่งไปเป็น 5.4 เป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย และมีการเจาะเนื้อไตไปตรวจก็พบว่าเป็นผลจากการใช้ยา ตอนนั้นตัวเริ่มตึง เหนื่อยง่าย และต้องฟอกไต ใช้ชีวิตที่ลำบากและทรมานมากมีชีวิตรอดมาด้วยการฟอกเลือด 3 ครั้งต่อ 1 สัปดาห์มาตลอด 10 ปี แม้ปัจจุบันจะได้รับการปลูกถ่ายเปลี่ยนไตมาร่วม 11 เดือนแล้วหลังจากรอมาถึง 10 ปี แต่ก็ยังต้องกินยากดภูมิตลอดชีวิต

           ธนพล บอกว่า ยาที่เขียนว่าบำรุงไต รักษาไต พี่ซื้อมากินแทบหมดแล้ว อันที่เป็นกล่องสีเขียว เมื่อกินแล้วจะฉี่เป็นสีฟ้า ก็ยิ่งตอกย้ำเราว่านี่แหล่ะเป็นการล้างพิษในไตออกมา ก็ยิ่งไปซื้อมากิน แต่ความเป็นจริงยาพวกนี้ เราซื้อมากินโดยไม่รู้เลยว่าในยามีสารอะไรบ้าง จะทำลายตับ ไตหรือไม่ อย่างไร และเป็นอันตรายต่อร่างกายมากแค่ไหน  

ไตวาย-ชีวิตดับ เพราะ “ยาชุด” 5-10 บาท

       ธนพล ดอกแก้ว

           “โรคไตเป็นโรคที่ร้ายแรงที่คงไม่มีใครอยากเป็น ปัจจุบันมีการโฆษณาชวนเชื่อของยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรวมทั้งยาสมุนไพรต่างๆที่เกินจริง หากผู้ป่วยหลงเชื่อตามโฆษณาแล้วซื้อไปกินอาจได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งในผู้ที่มีภาวะเสี่ยงและประชาชนทั่วไป ยกตัวอย่างยาที่เรียกว่า ยาบำรุงล้างไต ที่โฆษณาว่าผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ฟอกเลือดอยู่ ถ้าหากกินยาบำรุงล้างไตนี้แล้วจะไม่ต้องมาฟอกเลือดอีกเลย ซึ่งเป็นการโฆษณาเกินจริง ความจริงแล้วผู้ป่วยโรคไตวายทั่วไปต้องกินยาตามแพทย์สั่ง ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายมีวิธีการบำบัดทดแทนไต ผู้ป่วยโรคไตในระยะเริ่มต้น ถ้าหากซื้อยากินเองตามคำชวนเชื่อหรือคำโฆษณาอาจจะทำให้ไตวายเร็วขึ้นและเสียชีวิตได้”ธนพลเตือน

           ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ธนพล บอกว่า คือ ในกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ที่แต่ละปีมีจำนวนไม่น้อย เมื่อได้รับคำโฆษณาว่าสามารถรักษาโรคไตได้ เป็นยาบำรุงไต ล้างพิษไตก็จะเชื่อและหาซื้อมากิน จนละเลยการรักษาและปฏิบัติตัวตามที่แพทย์แนะนำ จนทำให้ไตยิ่งเสื่อม ซึ่งบริษัทที่ขายยาพวกนี้ทำกำไรกับผู้ป่วยมากมายมหาศาล ต้นทุนการผลิตไม่มาก แต่ขายคนป่วย 7,000-25,000 บาท

           เช่นเดียวกับเรื่องราวของลูกชายป้าผกา(นามสมมติ) เด็กหนุ่มนักกีฬาดาวเด่นที่ต้องจบชีวิตลงด้วยวัยเพียง 17 ปี พญ.ชัญวลี ศรีสุโข กรรมการแพทยสภา ถ่ายทอดไว้ในเอกสารคณะทำงานสร้างเสริมความเข้มแข็งภาคประชาชนด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล เมื่อ 5 ตุลาคม 2558ว่า ป้าผกา อายุ 45 ปี มาหาฉันด้วยเรื่องขอตรวจเช็คภายใน เมื่อตรวจร่างกายฉันพบว่ามีแผลผ่าตัดพาดยาวที่เอวขวา จึงถามว่าผ่าตัดอะไรไปคะ ป้าบอกว่า บริจาคไตให้ลูกชาย ฟังแล้วน่าสงสารมากจึงถามต่อ

ไตวาย-ชีวิตดับ เพราะ “ยาชุด” 5-10 บาท

           ป้าผกา จึงเล่ารายละเอียดให้ฟังว่า ป้ามีลูกชายคนเดียว อายุ 17 ปี เป็นนักฟุตบอลเยาวชนดาวเด่นของจังหวัด จะคัดตัวไปเล่นระดับประเทศ การซ้อมหนักทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเป็นประจำ จึงไปซื้อยาแก้ปวดเมื่อยที่เพื่อนๆนักกีฬากินกัน เมื่อกินอาการปวดกล้ามเนื้อก็หายจริง เขาจึงกินยาเป็นประจำต่อเนื่องมาเป็นปี

           มารู้ว่าไตเสื่อมก็เมื่ออยู่ดีๆก็ไม่มีแรง ลงซ้อมฟุตบอลไม่ได้ หายใจไม่สะดวก เมื่อพาไปโรงพยาบาลพบว่ามีอาการปอดบวมน้ำ และไตวาย ต้องฟอกไต หมอแนะนำป้าผากว่า หากอยากให้ลูกชายมีคุณภาพชีวิตดี ให้เปลี่ยนไต ป้าผกาไม่รีรอเลยที่จะบริจาคไตตนเองให้ลูกชาย ป้าดีใจมากที่หลังผ่าตัดเปลี่ยนไต ลูกชายมากราบสำนึกพระคุณ เขาแข็งแรงดีมาก บอกอยากกลับไปเล่นฟุตบอล

           ปีต่อมาป้าผากมาตรวจภายในตามนัด ป้าสวมชุดสีดำ ใบหน้าหม่นหมอง บอกว่าลูกชายแพ้ไต ติดเชื้อเสียชีวิต เป็นแม่ แต่ต้องเผาลูก ฉันทำใจไม่ได้หรอกหมอ ป้าร้องไห้อยู่นานด้วยความเสียใจ ป้าผกาบอกฉันว่า เป็นความผิดของป้าเองที่ให้ไตลูกไม่ได้ แต่ฉันบอกป้าว่า ป้าอย่าโทษตนเองเลย ป้าทำดีที่สุดแล้ว ที่ลูกชายคุณป้าต้องจากไปตั้งแต่อายุน้อย เป็นเพราะกินยาต้านการอักเสบเอ็นเสด(NSAID)ที่ผสมอยู่ในยาชุดที่มีผลทำให้ไตของเขาเสื่อมจนเกิดไตวาย

ไตวาย-ชีวิตดับ เพราะ “ยาชุด” 5-10 บาท

           ท้ายที่สุด ศ.นพ.ชัยรัตน์ ฉายากุล อายุรแพทย์โรคไต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล แนะนำว่า อย่าซื้อยามากินเอง โดยเฉพาะยาที่ไม่รู้จักหรือแม้เป็นยาที่รู้จัก แต่เก็บไว้นานแล้วก็ไม่ควรนำมากิน เพราะมีผลอันตรายต่อไตทั้งสิ้น

           ธนพล ดอกแก้ว และลูกชายป้าผกา ป่วยไตวายเพราะยาชุด แต่ผู้ป่วยโรคไตในประเทศไทยมีราว 8 ล้านคน ในจำนวนนี้ 5-10 % ก็ป่วยอันเนื่องมาจากการใช้ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อ “ยาชุด”มากินเอง!!!

ติดตาม แกะซอง“ยาชุด”ชำแหล่ะสารอันตราย รักษา(ไม่)หายเพิ่มพิษ 2-3 เท่า ในตอนต่อไป

0 พวงชมพู ประเสริฐ 0