“เบื้องลึก” “ทนายสมศักดิ์” รู้ดี ทีมอุ้ม “พระไชยบูลย์" | คมชัดลึก

เรื่องนี้มี “เบื้องลึก” “ทนายสมศักดิ์” รู้ดี ทีมอุ้ม “พระไชยบูลย์”

ยุทธการปิดล้อมวัดพระธรรมกาย ปิดฉากลงอย่างงงๆ ทำเอากองเชียร์ กองแช่งตั้งหลักกันแทบไม่ทัน

จริงๆแล้ว เรื่องนี้มี “เบื้องลึก”

วันที่ 9 มี.ค.2560 พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เดินทางเข้าไปพบพระเผด็จ ทัตตชีโว แม่ทัพใหญ่ฝ่ายวัดพระธรรมกาย เปิดเจรจาขอให้ทางดีเอสไอ เข้ามาตรวจค้นวัดทุกจุด ก่อนที่จะมีการประชุมมหาเถรสมาคม เพื่อพิจารณาข้อเสนอของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)

ที่น่าสนใจ ในการเจรจาวันนั้น มี “ทนายสายวัดปากน้ำ”สมศักดิ์ โตรักษาผู้แทนสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เข้าร่วมปรึกษาหารือ

การเจรจาได้ข้อยุติ และมีผลดีแก่ทั้งฝ่ายอำนาจรัฐ และฝ่ายคณะสงฆ์

เล่ากันว่า ระหว่างการเจรจา ทางดีเอสไอได้เปิดสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้ใช้ได้ เพื่อการสื่อสารระหว่างดีเอสไอกับทีมเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พลอยทำให้ศิษย์วัดพระธรรมกายที่อยู่ภายในวัด ดีอกดีใจส่งข่าวมาหาญาติพี่น้องทางบ้าน

9 โมงเช้า วันที่ 10 มี.ค.พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พ.ต.อ.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นภายในพื้นที่วัดพระธรรมกายได้อย่างง่ายดาย

สมศักดิ์ โตรักษา ผู้แทนสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นใคร??

กลางปีที่แล้ว มีการเจรจา4 ฝ่าย กรณีการดำเนินคดีกับพระไชยบูลย์ ที่วัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี ปรากฏว่า มีทนายชื่อดัง สมศักดิ์ โตรักษาเข้ามาร่วมเจรจาในฐานะ “ทนายความที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี”

ก่อนหน้านั้น คนทั่วไปก็ทราบดีว่า สมศักดิ์ โตรักษา ได้เข้ามาเป็นที่ปรึกษากฎหมาย ให้แก่ “สมเด็จช่วง” วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คดีรถเบนซ์คลาสสิก

สมศักดิ์เป็นใคร มาจากไหน ทำไมต้องมารับเป็น “มือกฎหมาย” ให้พระชั้นผู้ใหญ่

สมศักดิ์ โตรักษาเปิดสำนักงานกฎหมายอยู่ที่ 182/9 ซ.อุดมสุข 20 ถ.สุขุมวิท แขวงและเขตบางนา กทม.

ทนายสมศักดิ์ เป็นชาวกรุงเทพฯ เกิดย่านบางซื่อ จบการศึกษาทางด้านนิติศาสนตร์ ระดับ ป.ตรี ป.โท ป.เอก จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

“ก่อนที่ผมจะมายึดอาชีพทนายความ เคยเป็นอาจารย์สอนกฎหมายตามมหาวิทยาลัยต่างๆ สำหรับอาชีพทนายความ ผมเริ่มว่าความมาตั้งแต่อายุ 20 กว่าๆ จนถึงปัจจุบัน ผมทำอาชีพทนายความมากว่า 30 ปีแล้ว ผ่านการทำคดีมานับพันคดี” สมศักดิ์ เคยเล่าให้นักข่าวเครือเนชั่นฟัง

ก่อนที่เขาจะมายึดอาชีพทนายความ เคยเป็นอาจารย์สอนกฎหมายตามมหาวิทยาลัยต่างๆ

นอกจากบทบาทในอาชีพทนายความแล้ว “สมศักดิ์” ได้ลงทุนเปิดธุรกิจรีสอร์ท “ยังโทนเฮ็ลธปาร์ค” ริมแม่น้ำแควน้อย จ.กาญจนบุรี บนเนื้อที่ 300 ไร่ ให้บริการบ้านพักโรงแรมค่ายลูกเสือ-เนตรนารี

ทนายสมศักดิ์ เคยเป็นทนายความแก้ต่างให้แก่ “นักการเมือง” พรรคไทยรักไทยหรือพรรคเพื่อไทย ในคดีสำคัญๆ หลายคน

อย่างเช่น พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหม, โภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย และปลอดประสพ สุรัสวดี

ส่วนการเข้ามาเป็นทนายความให้สมเด็จช่วงนั้น สมศักดิ์เล่าว่าได้มีเจ้าคุณวัดดังแห่งหนึ่ง ติดต่อให้เขามาช่วยเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้แก่สมเด็จวัดปากน้ำ

“ครอบครัวให้ความเคารพนับถือสมเด็จวัดปากน้ำอยู่แล้ว ถือว่าเป็นลูกศิษย์คนหนึ่ง และได้มีวัดหลายวัดด้วยกัน ได้ติดต่อให้เขามาช่วยเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้แก่สมเด็จวัดปากน้ำและไม่ใช่มีเฉพาะตัวเขาเท่านั้น ที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้ในเรื่องนี้”

นับแต่มีการเปลี่ยนตัวทีมทนายความในคดีเบนซ์โบราณของสมเด็จช่วง วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มาเป็น สมศักดิ์ โตรักษา ทำให้รูปคดีพลิกจาก “ฝ่ายรับ” เป็น “ฝ่ายรุก” ในทันที

ด้วย“คอนเนกชั่นวัดปากน้ำ”จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ทนายสมศักดิ์ จะปรากฏตัวอีกครั้งในบทบาท“ตัวแทนสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง”

เพื่อไม่ให้ “พระชั้นสมเด็จ” ในมหาเถรสมาคม ต้องแบกรับความกดดันจากทางโลก

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ หรือสมเด็จสมศักดิ์ จึงอาสารับงาน “สึก” พระไชยบูลย์ และพระเผด็จ ทัตตชีโว เพื่อปลดล็อก “วิกฤตธรรมกาย” ในยกแรก

ละครฉากนี้ ว่ากันว่า ทนายสมศักดิ์ เป็นคนเขียนสคริปต์??.