
‘ลีลาวดี’ ลีลานี้...ต้อง ‘ธรรมกาย’
รายงานพิเศษ
จากการเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ของ ลีลาวดี วัชโรบล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และตัวแทนสมาชิกเครือข่ายวัดพระธรรมกาย 7 คน เพื่อขอให้ ยกเลิก ม.44 และให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ ทหาร ออกจากพื้นที่วัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย และพื้นที่ควบคุมตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2560 นั้น ได้รับความสนใจกว้างขวาง
โดยก่อนหน้านี้ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 ทางด้าน ดร.ลีลาวดี วัชโรบล ได้โพสต์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวัดด้วย พร้อมภาพ ข้าวเปล่า 1 ห่อ และไข่ต้ม 3 ฟอง
“คสช.ห้ามไม่ให้พระเณรบิณฑบาตเข้าออกวัดพระธรรมกายเป็นวันที่ 10 แล้ว อาหารเพลของพระในวัดพระธรรมกายเมื่อวานนี้ ท่านบอกว่าไข่ใบแรก คือของเมื่อวานก่อน ทานแทนที่ไม่ได้ฉัน. ใบที่2 ของเพลวันนี้ ส่วนอีกใบที่ 3 คือของพรุ่งนี้เพราะไม่รู้จะได้ฉันไหม นี่คือเมืองพุทธจริงๆ หรือคะ...."
นับเป็นอีกครั้งของการออกมาปกป้องวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโยนั้น เพราะก่อนหน้านี้ เธอออกมาแล้วหลายครั้ง โดยข่าวฮือฮาที่สุดเมื่อปีก่อนเห็นจะเป็นข่าวลือที่เธอได้โพสต์ข้อความให้สังคมเห็นใจ กรณี “คนพาลรังแกพระชรา” และยังเป็น “พระอาพาธผู้ชรา” ในห้วงเวลาที่พระธัมมชโยอาพาธอยู่บนเตียงจนเป็นเหตุให้ไม่สามารถเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ได้ เมื่อ 26 พฤษภาคม 2559
“...ช่างเป็นภาพที่เหยียบหัวใจชาวพุทธได้ดีจริงๆ... วินาทีต่อไปนี้ ขอถามไปถึงใจของผู้ประกาศตัวว่าเป็นชาวพุทธด้วยเถอะ...พระอาพาธผู้ชราอายุ 72 ปี ที่ท่านสั่งสอนให้คนรักบุญกลัวบาป ท่านไม่มีแรงจะหนีไปไหน ท่านบอกแล้วว่าพร้อมตายในวัด แต่ดูสิ่งที่พวกท่านทำ” ลีลาวดี โพสต์ข้อความพร้อมแชร์ภาพพระวัดธรรมกาย และรถฮัมวี่ของทหารที่จอดอยู่หน้าวัดธรรมกาย
ในเวลาไม่นานนักก็มีกระแสข่าวด้วยว่า เธอได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊คอีกครั้งว่า "ถ้าหลวงพ่อผิดจริง ดิฉันกับลูกศิษย์จะผูกคอตาย”
แต่ภายหลังต่อมา เธอได้ชี้แจงว่าเป็นเท็จ ถูกมือดีโพสต์แทน จึงแจ้งความที่ดำเนินคดีกับผู้โพสต์ไว้ที่ สภ.คลองหลวง เพราะเธอไม่ได้โพสต์ข้อความดังกล่าว อีกทั้งเรื่องฆ่าตัวตายไม่เคยอยู่ในหัวของเธอเลย
เมื่อครั้งที่มีการดำเนินคดีเรื่องฟอกเงินใหม่ๆ และสืบค้นกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เธอก็ได้พยายามอธิบายรายละเอียดผ่านช่อง DMC และอีกหลายต่อหลายครั้งที่เธอยืนยันสถานภาพ “ศิษยานุศิษย์” วัดพระธรรมกายเต็มตัว จนถึงขั้นได้รับฉายา “ศิษย์เอกวัดพระธรรมกาย” เลยทีเดียว โดยเธอยอมรับว่าได้ไปทำบุญที่วัดตั้งแต่ปี 2525
เพราะยึดมั่นเชื่อในสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอน จึงทำให้เธอจากคนเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ได้ หันมาทำบุญทำทานพร้อมคนที่บ้านอย่างมีความสุข
สำหรับ ลีลาวดี วัชโรบล อายุ 50 ปี เป็นอดีตรองนางสาวไทยอันดับหนึ่ง และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสเอเชียแปซิฟิกในปี 2528 ด้วยหน้าสวยใสจึงเข้าสู่วงการโทรทัศน โดยมี “นายร้อยสอยดาว” เป็นผลงานละครเรื่องแรกในปี 2529 จากนั้นทำงานในวงการบันเทิงมาจนถึงปี 2548 จึงเรียนต่อต่างประเทศ แต่แล้วเมื่อบิดาล้มป่วยจึงตัดสินใจกลับบ้าน หลังจากที่ไปเรียนได้เพียงหกเดือน
กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญทำให้เธอหันมาสนใจด้านธรรมะ และอธิษฐานจิตไปด้วย ปรากฏว่าปฏิบัติธรรมเพียง 7 วัน คุณพ่อของเธอก็หายป่วยสามารถเดินได้เป็นปกติ ทำให้เธอเรียกเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า “ปาฏิหาริย์”
ต่อมารู้ซึ้งในการปฎิบัติธรรมอีกครั้งเมื่อทำตามคำสอนของพระธัมมชโยที่เธอเคารพศรัทธา กระทั่งเลิกทั้งเหล้าและบุหรี่ได้จนหมดสิ้น รวมถึงความเครียดที่เกิดจากความอ้วนผลพวงจากการกินยาลดความอ้วนสมัยทำงานในวงการบันเทิง จึงทำบุญที่วัดมาตลอด
เส้นทางการเมือง โดยมี สมัคร สุนทรเวช เป็นแรงบันดาลใจ และชักชวนให้ไปทำงานการเมืองลงสมัครสส.กทม. แต่ไม่สมหวังทีเดียวนัก เพราะสอบตกทั้ง 2 สมัย แต่ก็ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นโฆษกพรรค
ต่อเมื่อ สมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปเป็นหัวหน้าพรรค “พลังประชาชน” ภายหลังพรรค “ไทยรักไทย” ถูกยุบไปนั้น ส่งผลให้มีการเลือกตั้งใหม่ เธอก็ตามไปลงเลือกตั้งอีกครั้งในนาม “พลังประชาชน” ถึงแม้สอบตก แต่คะแนนเข้าตาหัวหน้าพรรคอีกครั้ง จึงได้ไปเป็น “เลขานุการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สมชาย วงศ์สวัสดิ์
ลีลาวดีอยู่ที่ไหนก็มักเป็นข่าวอยู่เสมอ ในปี 2551 ตกเป็นข่าวเรื่องการนำนักเรียน 5 แสนคนเข้าวัดธรรมกาย ซึ่งเป็นวันเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นัดหมายโฟนอินกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่สนามศุภชลาศัย ทำให้เธอออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้อง เป็นเพียงการอบรมธรรมะโครงการโรงเรียนต้นแบบฟื้นฟูศีลธรรมโลก และเยาวชนต้นแบบด้านศีลธรรม หรือดาวแห่งความดี V-Star (Virtuous Star) เท่านั้นเอง
กระทั่งปี 2554 เมื่อ “พลังประชาชน” จากไป กระแสพรรคใหม่ “เพื่อไทย” มาแรง ลีลาวดี เป็นหนึ่งในนั้น ได้ลงสนามเป็นสส.บัญชีรายชื่อเพื่อไทย และได้รับเลือกเป็น ส.ส.กทม. เขต 5 พื้นที่ดุสิต-ราชเทวี ตามที่ตั้งใจแต่ต้น
พร้อมทำกิจกรรมและเป็นปากเสียงให้กับพี่น้องคนเสื้อแดงเสมอมา รวมถึงการออกมาปกป้อง “ธรรมกาย” อย่างต่อเนื่อง กระทั่งในปัจจุบันยังออกตัวแรงเช่นเดิม!!