
กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ชีวิตที่ต้องถาม..มาได้ไง!!
กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ชีวิตที่ต้องถาม..มาได้ไง!!
ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังเสียงเพลงจาก “กอล์ฟ” ที่กล่อมเกลาย้อมใจคนฟังให้อิ่มเอมเปรมปรีดิ์ กลับมีความความเศร้าและปัญหารุมเร้าอยู่อย่างมาก และสิ่งนี้ทำให้เราอยากรู้จักนักร้องแร็ปเปอร์ ผู้เก่งทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังคนนี้อีกครั้ง
นพดล ศรีหมอก หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อว่า "กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่" แร็ปเปอร์ตัวใหญ่ชื่อดัง ที่เพิ่งสูญเสียคุณพ่อจากการผูกคอตายอยู่ริมระเบียงคอนโดย่านหัวหมาก เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น
แน่นอนว่าข่าวนี้ทำให้ทุกคนช็อค แต่คงเทียบไม่ได้กับผู้เป็นบุตรชาย ที่ยอมรับทั้งน้ำตาว่า ตนนั้นมีปัญหากับพ่อมาตลอด เพราะพ่อติดสุราอย่างหนัก จนทะเลาะและไม่พูดกันนานกว่าสองสัปดาห์
เรื่องนี้จึงยิ่งสร้างความสลด เพราะใครจะรู้ว่าเบื้องหลังเสียงเพลงจาก กอล์ฟ ที่กล่อมเกลาย้อมใจคนฟังให้อิ่มเอมเปรมปรีดิ์ กลับมีความความเศร้าและปัญหารุมเร้าอยู่อย่างมาก
และสิ่งนี้ทำให้เราอยากรู้จักนักร้องแร็ปเปอร์ ผู้เก่งทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังคนนี้อีกครั้ง
ณัฐวุฒิ ศรีหมอก ชื่อเล่น กอล์ฟ เกิดเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2522 ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนดรุณราษฎร์วิทยา ระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ระดับอุดมศึกษา จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
กอล์ฟมีภรรยา คือ ยุภาพร ฤทธิญาณ (เบลล์) โดยทั้งคู่พบเจอกันในผับเดโม่ มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน ชื่อ น้องชูใจ ซึ่งคลอดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 แถมยังเป็นเจ้าของชื่อเพลง ชูใจ อันโด่งดังที่กอล์ฟแต่งให้ลูกสาวโดยเฉพาะ
กอล์ฟเป็นนักร้องแร็ปเปอร์ แนวเสียดสีสังคม และยังเป็นนักแต่งเพลงในสังกัดก้านคอคลับ นอกจากนี้ยังเป็นนักแสดงอีกด้วย
กอล์ฟนั้นเป็นสมาชิกวง “สิงห์เสือเหนือเสือใต้” ซึ่งมีชื่อเสียงแนวหน้าของวงการฮิปฮอป โดยเฉพาะ “ราตรีสวัสดิ์” ที่ร่วมร้องกับ “ธีร์ ไชยเดช” ซึ่งเป็นเนื้อหาที่กล่าวถึงทหารที่ทำหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสามารถคว้ารางวัลเพลงยอดเยี่ยมในงานคมชัดลึกอวอร์ดครั้งที่ 7
การมีวันนี้ของกอล์ฟ เขาเคยให้สัมภาษณ์ในรายสะบัดช่อ ไว้ว่า เขาเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวที่มีฐานะยากจน แต่พ่อแม่ก็ทำงานส่งเสียให้เขาได้เข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนดีๆ และมีเพื่อนๆ ในกลุ่มที่รักและมักช่วยเหลือแบ่งปันให้เขาเสมอ จนทำให้เขาได้รู้จักเพลงฮิปฮอป โดยเฉพาะศิลปินดูโอ Kris Kross ซึ่งชอบมาก และมี “โจอี้ บอย” เจ้าพ่อแร็พเปอร์เป็นไอดอล
แต่ที่สุด หลังจากเอ็นทรานซ์ไม่ติด กอล์ฟก็ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้ากรุงเทพฯตามคำแนะนำของครูสอนคณิตศาตร์ที่บอกว่า "หากอยากจะเป็นผู้นำครอบครัวต้องมาอยู่กรุงเทพฯ” จึงสมัครเรียนที่คณะนิติศาสตร์ รามคำแหง
แต่ความรักในสายดนตรี ฮิปฮอปแร็ปเปอร์ยังอยู่ในเส้นเลือด ถึงขนาดไปดักเจอโจอี้ บอย ที่ห้องส่งของรายการหนึ่งสมัยนั้น เพื่อส่งเดโมเพลงของตัวเองให้กับเขา จนได้รับการติดต่อจากให้ขึ้นไปประกวดร้องเพลงแร็พ
ที่สุด เขาจึงเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวแร็ปเปอร์ และก้าวหน้าในสายดนตรีจนโจอี้ บอย ชักชวนมาเป็นศิลปินในค่าย ช่วงปี 2545 แถมยังได้พักอยู่ในอพาร์ทเม้นต์สุดหรูด้วยกันอีกต่างหาก
แต่ใครจะรู้ว่า กอล์ฟ ต้องมีชีวิตที่แสนสาหัส เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าห้องที่ต้องออกร่วมกับโจอี้ บอย คนละห้าพันบาท ถึงขนาดต้องแอบฉกเงินที่ โจอี้ บอย ฝากจ่ายไปใช้กิน
แต่ก็ยังไม่พอจนบางครั้งต้องกินข้าวเปล่ากับซอส ดื่มน้ำประปา หรือแม้แต่ขโมยอาหารแมวมากิน แอบทานข้าวเหลือจากจานคนอื่นที่วางหน้าห้องรอพนักงานมาเก็บ ก็ทำมาแล้ว!!
จนกระทั่งเขาถูกจับได้เรื่องเงินค่าห้อง และต้องระเห็จออกจากที่พักไปด้วยละอาย เพราะเจ้าของห้องไม่ด่าสักคำ แถมยังรับงานแสดงมาจ่ายค่าห้องให้ทั้งหมด
ที่สุดเมื่อ อัลบั้ม “สิงห์เหนือเสือใต้” ออกสู่ตลาด เขาจึงพอได้เงินก้อนแรกไว้จ่ายค่าห้องเช่าเล็กๆ อยู่ และทำงานในสายอาชีพที่รัก จนประสบความสำเร็จมีครอบครัวที่อบอุ่นมาจนทุกวันนี้
วันนั้นกอล์ฟ บอกในรายการว่า ทุกวันนี้กอล์ฟสามารถส่งเงินเลี้ยงพ่อแม่ได้ตามที่ครูเคยแนะนำไว้ว่า “หากอยากจะเป็นผู้นำครอบครัวต้องมาอยู่กรุงเทพฯ”
“กรุงเทพฯ สอนอะไรผมหลายอย่างมากจากที่เกลียด แต่ตอนนี้กรุงเทพฯ คือครูของผม กรุงเทพฯ ทำให้มีอย่างวันนี้ทำให้พ่อแม่ผมสบาย ขอบคุณกรุงเทพฯ”
เพียงแต่ล่าสุด กอล์ฟต้องมาเจอมรสุมใหญ่ในชีวิตอีกครั้ง แต่เขาก็เข้าใจเรื่องนีดี เพราะเขาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า
"ผมได้ทำหน้าที่ลูกดีที่สุดแล้ว ขอให้พ่อหมดกรรมในภพนี้ ส่วนผมนั้นคงต้องใช้กรรมต่อไป สุดท้ายขอให้พ่อหลับให้สบายไม่ต้องเป็นห่วงอะไร"
นี่คือเรื่องราวของ กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ที่เราต้องขอแสดงความเสียใจกับเขาอย่างสุดซึ้ง และจะขอให้กำลังใจเขาเดินต่อไปในวันข้างหน้า