คอลัมนิสต์

ผ่าอาณาจักรค้ายา "ไซซะนะ-อุสมาน"

ผ่าอาณาจักรค้ายา "ไซซะนะ-อุสมาน"

08 ก.พ. 2560

ขบวนการค้ายาของ "ไซซะนะ" มีเครือข่ายไม่เพียงแต่ทางอีสาน แต่ขยายถึงภาคใต้ ส่งลำเลียงสินค้าออกไปต่างประเทศ โดยมีหัวขบวนทางตอนใต้เป็นตัวการใหญ่

ผ่าอาณาจักรค้ายา“ไซซะนะ-อุสมาน"

ลาว-ไทย ผ่านชายแดนใต้ไปประเทศที่สาม

     ปฏิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี” ที่นำมาสู่การจับกุม “นายไซซะนะ แก้วพิมพา” นักค้ายาเสพติดชาวลาว ซึ่งมีเครือข่ายกว้างไกลลำดับต้นๆ ของอาเซียนนั้น ไม่ใช่เรื่องฟลุกหรือจับโดยบังเอิญ แต่มาจากการแกะรอย และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานมานานถึง 5 ปี

     โดยเฉพาะการถอดรหัสการจับกุมคดียาบ้าสำคัญ 4 คดี ซึ่ง พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส.ให้ข้อมูลตรงกันว่า เป็นคดี “จับยา” ที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดไม่ได้จับเองโดยตรง แต่เป็นการทำงานของตำรวจทางหลวงและตำรวจภูธร ก็ บช.ปส.ก็ไม่ยอมปล่อยผ่าน ได้ระดมพนักงานสอบสวนทั้ง 4 คดีมาให้ข้อมูล ก่อนจะค่อยๆ ไล่เรียงจนพบว่าทุกคดีเชื่อมโยงกับนายไซซะนะ

    “ทีมล่าความจริง” ย้อนรอย 4 คดีดังกล่าว พบว่ามีการจับกุมตั้งแต่ปี 2558 ต่อเนื่องถึง 2559

     คดีที่ 1 วันที่ 16 กันยายน 2558 ตำรวจทางหลวงจับยาบ้า 2.3 ล้านเม็ดที่ จ.ชุมพร สามารถจับกุม นายวิทยา หรือ วิท โสภา ชาวจังหวัดนครพนมได้ และขยายผลออกหมายจับอีก 5 คน โดยหนึ่งในนั้นคือ น.ส.อ้อยทิพย์ ปัญญารักษ์

ผ่าอาณาจักรค้ายา \"ไซซะนะ-อุสมาน\"

    คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2559 ตำรวจจับยาบ้า 6.4 แสนเม็ด พร้อมเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่งที่ จ.นครราชสีมา จับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน คือ นายกิตติศักดิ์ แก้วนา นายปิยะ เครือหมื่น นายพุทธรักษ์ เพ็งอินทร์ นายวิษณุพงษ์ ดวนลี และนายชัยวัฒน์ ศรีปัญญา

    คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559 ตำรวจจับยาบ้า 1 ล้านเม็ด ที่ จ.ชุมพร ผู้ต้องหาคือ นายวิวัฒน์ชัย เดชสหโรจนธร นายศักดา อัครศักดิ์ศรี และ นายชนระวิทย์ กลิ่นจันทร์

    คดีที่ 4 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2559 ตำรวจจับยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด ที่ด่านสีคิ้ว จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาคือ นายทรรศพล พลธี กับ นายไกรราช สุภาพ จากนั้นขยายผลจับเพิ่มอีก 3 คน ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คือ นายไพฑูรย์ ทองเสม เป็นพี่เขยนายไกรราช น.ส.เกศญาณัฐฐ์ ธงวาด เป็นภรรยาคนที่ 2 ของนายไพฑูรย์ และนายนิอุสมัน ปะจู

ผ่าอาณาจักรค้ายา \"ไซซะนะ-อุสมาน\"

   นายนิอุสมัน ปะจู ที่ถูกจับในคดีที่ 4 เชื่อมโยงกับ น.ส.ไรดา จาโก เครือข่ายยาเสพติดภาคใต้ตอนล่าง โดย น.ส.ไรดาเป็นภรรยาของ นายไซนูเด็ง มะ ที่มีเส้นสายโยงใยกับกลุ่มของนายวิวัฒน์ชัย ซึ่งถูกจับในคดีที่ 3 ทำให้เห็นภาพว่าผู้ต้องหาใน 4 คดีนี้ บางส่วนเกี่ยวข้องกัน

    จากการถอดรหัส 4 คดี ทำให้ตำรวจออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 9 ราย เป็นคนไทย 7 ราย ต่างชาติ 2 ราย หนึ่งในนั้นคือ นายไซซะนะ แก้วพิมพา 

    19 มกราคม 2560 ตำรวจปราบปรามยาเสพติดเปิดปฏิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี 60/1” สามารถจับกุมนายไซซะนะได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยข้อมูลการเดินทางของนายไซซะนะ มาจากการซัดทอดของผู้ต้องหา 4 คดีแรก

ผ่าอาณาจักรค้ายา \"ไซซะนะ-อุสมาน\"

    วันเดียวกันนั้น ตำรวจขยายผลปิดล้อมอีก 36 เป้าหมายทั่วประเทศ และจับกุม นายชุมพร พนมไพร อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี, นายปุ่น ชรินทร์ อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร และ น.ส.อ้อยทิพย์ ปัญญารักษ์ อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาร่วมค้ายาเสพติดในคดีที่ 1 ก่อนโยงมาถึงแก๊งไซซะนะ

    นายชุมพร พนมไพร และนายไกรราช สุภาพ เป็นตัวกลางเชื่อมโยงเครือข่ายนายไซซะนะทั้งหมด โดยเป็นผู้ติดต่อประสานงานกับผู้ค้ายาเสพติด 4 คดีแรก โดยเฉพาะระดับหัวหน้าทีม

    ตำรวจยังไม่หยุดแค่ตัวนายไซซะนะ แต่ยังขยายผลทลายเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยเปิดปฏิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี 60/2” เมื่อวันที่ 1 ต่อเนื่องวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปิดล้อมตรวจค้นอีก 40 เป้าหมายทั่วประเทศ และสามารถจับกุมจิ๊กซอว์ตัวสำคัญอย่าง นายณัฐพล หรือบอย นาคคำ, น.ส.อรันญา สิงห์ผงาด และนายชัยวัฒน์ หรือแป๊ะ ชูสาย

ผ่าอาณาจักรค้ายา \"ไซซะนะ-อุสมาน\"     โดยตำรวจมีข้อมูลว่าเครือข่ายนี้เชื่อมโยงกับคนในแวดวงไฮโซ และคนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ก่อนจะพบข้อมูลเชื่อมโยงจนตามไปค้นร้าน Area 51 ของ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามีของ “แพท” ณปภา ตันตระกูล ดารานักแสดงชื่อดัง

    สปอตไลท์ฉายจับไปที่ นายเบนซ์ ในฐานะสามีดาราอย่าง “แพท” ณปภา โดยเจ้าตัวสร้างความฮือฮาด้วยการหอบหลักฐานเข้าชี้แจงข้อมูลต่อตำรวจเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์

ผ่าอาณาจักรค้ายา \"ไซซะนะ-อุสมาน\"

   ประเด็นที่ตำรวจตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวนายเบนซ์ คือ ความสัมพันธ์กับนายบอย ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดให้แก่นายไซซะนะ และรถลัมโบร์กินีคันงาม มูลค่าถึง 20 ล้านบาท ซึ่งนายเบนซ์อ้างว่าเป็นของตนเอง

     ข้อมูลที่ยังคงสับสนและไม่ตรงกันก็คือ ตำรวจอ้างคำให้การของนายบอย ว่า มอบหมายให้นายเบนซ์ดูแลทรัพย์สินทั้งหมด และฝากรถลัมโบร์กินีไว้ที่นายเบนซ์ โดยประวัติของนายบอยเคยถูกตำรวจอายัดทรัพย์เมื่อปี 2553 และเมื่อนายไซซะนะเดินทางมาไทย นายบอยจะนำรถลัมโบร์กินีที่ฝากนายเบนซ์ไว้ ขับไปรับนายไซซะนะและพาเที่ยว

     ขณะที่ฝั่งนายเบนซ์ อ้างว่ายืมเงินนายบอย 6 ล้านบาท ไปดาวน์รถลัมโบร์กินีมาขับ โดยเป็นการกู้ยืมปากเปล่า ไม่มีหลักประกันใดๆ หนำซ้ำรถหรูคันนี้ยังติดป้ายทะเบียนรถคันอื่น ทำให้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายเบนซ์

    จากกลุ่มบุคคลและเครือข่ายค้ายาที่มีนายไซซะนะเป็นหัวหน้าใหญ่ จะเห็นได้ว่าเขาใช้เส้นทางภาคอีสานของไทยเป็นจุดรับยาจากฝั่งลาว จากนั้นจึงเคลื่อนย้ายเข้าสู่ภาคกลาง และขนลงภาคใต้

ผ่าอาณาจักรค้ายา \"ไซซะนะ-อุสมาน\"

     นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวกับ “ทีมล่าความจริง” ว่า เส้นทางการค้ายาของเครือข่ายไซซะนะ เริ่มตั้งแต่แหล่งผลิตและจุดส่งยาจากประเทศเมียนมาร์ โดยเขารับยาจากกลุ่ม “พันโทยี่เซ” แล้วลำเลียงผ่านลำน้ำโขงช่วงที่ติดพรมแดนลาว ส่งยาเข้าไปพักในลาว ที่เมืองมอม และเมืองต้นผึ้ง แขวงไซยะบุรี ก่อนจะลักลอบขนเข้าไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางเรือด้าน จ.นครพนม และทางรถยนต์ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่ จ.หนองคาย และนำมากระจายในประเทศไทย ขณะที่บางส่วนส่งลงภาคใต้ ปลายทางไปไกลถึงมาเลเซีย

    ข้อมูลจาก ผบช.ปส.อย่าง พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข สอดคล้องกับเลขาธิการ ป.ป.ส. คือ ยาเสพติดจากเครือข่ายนายไซซะนะ จำนวนหนึ่งจะเคลื่อนลงใต้ โดยมีเครือข่ายค้ายาเสพติดชายแดนใต้รอรับ นั่นก็คือเครือข่ายของ "นายอุสมาน สะแลแมง" โดยอุสมานเป็นอีกแก๊งหนึ่งที่ขนยาจากลาวลงใต้

ผ่าอาณาจักรค้ายา \"ไซซะนะ-อุสมาน\"      นายอุสมาน มีฐานใหญ่อยู่ใน จ.นราธิวาส รับยาเสพติดจากลาว ก่อนลำเลียงเข้าพื้นที่เพื่อกระจายยา และส่งข้ามไปมาเลเซีย ยาวไปถึงออสเตรเลีย

     นายอุสมานเคยถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกเข้ารายงานตัวหลังเข้าควบคุมการปกครองใหม่ๆ แต่เขาไม่ปรากฏตัว เชื่อกันว่า นายอุสมานไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่เครือข่ายของเขาแข็งแกร่งมาก

    เม็ดเงินสะพัดจากการค้ายาเสพติดของนายอุสมาน มีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เงินสดๆ เกือบ 10 ล้านบาท ที่ซุกอยู่ในรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดได้จากบ้านเครือข่ายย่านสะพานสูง กรุงเทพฯ เมื่อปี 2548 โดยที่ไม่รู้ว่าในรถมีเงินซุกอยู่ใต้แผงประตู กระทั่งเรื่องมาแดงในปี 2552 เปิดแผงประตูออกมาเจอเงินสดๆ 9,998,000 บาท จนเป็นที่ฮือฮา

    3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นฐานที่มั่นใหญ่ของเครือข่ายค้ายา นอกจากกลุ่มของนายอุสมานแล้ว ยังมีเครือข่ายของ นายมะยากี ยะโก๊ะ เคลื่อนไหวอยู่ในเขต อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับยาเสพติดจากภาคเหนือเพื่อลำเลียงเข้าพื้นที่ ก่อนส่งข้ามไปมาเลเซีย

    นายมะยากีเคยถูกค้นบ้านเมื่อปี 2550 และพบเงินสดๆ 30 ล้านบาทซุกอยู่ในท่อพีวีซี จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั้งประเทศ ภายหลังนายมะยากีถูกจับโดยตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาเลเซีย ก่อนส่งตัวให้ทางการไทย ทำให้เครือข่ายของนายมะยากีลดอิทธิพลลงไปบ้าง

    ทั้งหมดนี้คือความน่ากลัวของขบวนการค้ายาเสพติดที่สยายปีก แผ่อิทธิพลไปทั่วประเทศ โดยมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเป็นใบเบิกทาง!

                                                                ทีมล่าความจริง ช่อง NOW 26