4 เพลง สะท้อนอารมณ์ “บิ๊กตู่” | คมชัดลึก

 

            กลายเป็นนายกฯที่มีผลงานเพลงมากที่สุดไปแล้ว สำหรับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อยู่มา 2 ปีครึ่ง แต่งเพลงออกมา 4 เพลง

            เพลงแรกคลอดออกมาไม่กี่วันหลัง คสช.ยึดอำนาจ คือ เพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย”

            เพลงนี้มีความชัดเจนตั้งแต่ชื่อเพลงไปถึงเนื้อร้อง โดยชื่อเพลงพ้องกับรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ของหัวหน้า คสช.ที่จัดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจในทุกวันศุกร์

            ช่วงที่เพลงนี้ถูกปล่อยออกมา คือ 6 มิถุนายน ถือว่าเป็นช่วงฮันนีมูนของ พล.อ.ประยุทธ์ ตอนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะมาเป็น “นายกฯ” เป็นช่วงที่ผู้คนยังไม่ลืมอารมณ์เบื่อหน่ายกับความขัดแย้งอันยาวนานจนทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ ดังนั้นไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะทำอะไรก็ดูจะถูกใจไปซะหมด

            เนื้อเพลงบอกถึงเหตุผลในการเข้ามา ตลอดถึงความหวัง ความตั้งใจ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไว้ชัดเจน

“วันที่ชาติและองค์ราชา มวลประชาอยู่มาพ้นภัย 
ขอดูแลคุ้มครองด้วยใจ นี่คือคำสัญญา 
วันนี้ชาติเผชิญพาลภัย ไฟลุกโชนขึ้นมาทุกครา 
ขอเป็นคนที่เดินเข้ามา ไม่อาจให้สายไป 
เพื่อนำรักกลับมา ต้องใช้เวลาเท่าไร 
โปรดจงรอได้ไหม จะข้ามผ่านความบาดหมาง

เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน 
แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา 
เราจะทำอย่างซื่อตรง ขอแค่เธอจงไว้ใจและศรัทธา
แผ่นดินจะดีในไม่ช้า ขอคืนความสุขให้เธอ ประชาชน 

วันนี้ต้องเหน็ดเหนื่อยก็รู้ จะขอสู้กับอันตราย
ชาติทหารไม่ยอมแพ้พ่าย นี่คือคำสัญญา
วันนี้ชาติเผชิญพาลภัย ไฟลุกโชนขึ้นมาทุกครา
ขอเป็นคนที่เดินเข้ามา ไม่อาจให้สายไป 
แผ่นดินจะดีในไม่ช้า ความสุขจะคืนกลับมา ประเทศไทย”

 

            นอกจากจะมีเวอร์ชั่นที่ขับร้องโดยทหาร คือ จ่าสิบเอก พงศธร พอจิต ซึ่งร้องทั้งสี่เพลงที่นายกฯแต่ง เพลงนี้ก็ยังมีเวอร์ชั่นที่ขับร้องโดย “อัศนี โชติกุล” ด้วย และกลายเป็นเพลงฮิตติดปากของทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะท่อน “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน...” ที่ช่วงหลังถูกนำไปล้อเลียนด้วย

            ผ่านไปปีเศษ คือ 22 ธันวาคม 2558 พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตอนนั้นมีหมวกเพิ่มมาอีกใบ คือ “นายกรัฐมนตรี” ได้คลอดเพลงที่ 2 ออกมา คือเพลง “เพราะเธอคือประเทศไทย”

            อารมณ์เพลงนี้ต่างไปจากเพลงแรก สะท้อนให้เห็นว่าหลังผ่านมาปีเศษการทำสิ่งต่างๆก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด อารมณ์เพลงนี้สะท้อนออกมาว่า การทำให้ประเทศฟื้นคืนมาได้แม้จะยากเย็นเหน็ดเหนื่อยก็ไม่ท้อ แต่ก็ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนด้วย

            เนื้อความสำคัญ คือ
“ถ้าตัวฉันเองยังหายใจ จะยากเย็นแค่ไหนก็ไม่ท้อ...
แต่มีเพียงสองมือกับหนึ่งลมหายใจ 
พลังคงไม่พอจะสร้างฝันให้เป็นไป
แต่หากเราร่วมมือต่อเติมลมหายใจ 
วันที่หวังนั้นคงไม่ไกล เพื่อประเทศไทยของทุกคน” 

 

            เพลงนี้ไม่ดังเปรี้ยงปร้างเหมือนเพลงแรก เช่นเดียวกับเพลงที่สาม "ความหวังความศรัทธา" ที่ “นายกฯลุงตู่” แต่งออกมาเมื่อ 26 ตุลาคม 2559 ในห้วงที่คนไทยกำลังเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9”  ซึ่งอาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นมีเพลงเกี่ยวกับในหลวงออกมาจำนวนมากด้วย

            มาถึงผลงานเพลงล่าสุด คือ เพลง "สะพาน" ที่เพิ่งปล่อยออกมาในช่วงปีใหม่

            นายกฯบอกว่า ครม.ต้องทำตัวเป็นสะพานให้คนเขาเหยียบย้ำและก้าวข้ามพ้นน้ำที่เชี่ยวกรากที่เปรียบเสมือนอุปสรรคสิ่งกีดขวางทั้งหมดไปให้ได้ รวมทั้งอยากให้ทุกคนร่วมกันเป็นสะพาน และขอประชาชนอย่าแออัดกันข้ามสะพาน เดี๋ยวจะเหยียบกันตายอีก

            ที่น่าสนใจคือ มีการนำเอาท่อนฮุคของเพลงแรกมาใส่ด้วย คือ “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงาม จะคืนกลับมา” ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็บอกว่า สัญญาของตนคือประชาธิปไตย ไม่ต้องมาทวงสัญญา แต่ก็ถามกลับว่าปัญหาทั้งหมดแก้หมดและแก้ได้แล้วหรือยัง

            แต่ถ้าดูจากเนื้อเพลงแล้ว มีหลายถ้อยคำในเพลงสุดท้ายที่ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการจะสื่อว่า จะต้องอยู่ด้วยกันอีกนานหรือไม่

            “เพื่อแผ่นดินที่แสนรักมั่น นานแค่ไหนรู้ไว้ไม่หวั่นหัวใจ...อย่าเพิ่งท้อแท้ เพราะฉันไม่เคยจะท้อถอย สองมือจะไม่ปล่อย ขอจงอย่าหวั่นใดใด...ต่อให้ล้มยังลุกขึ้นใหม่ทุกครา เกิดมามีชีวิตเพื่อเธอ เพื่อแผ่นดินที่แสนมีค่า จะตอบแทนจะสู้จนกว่าสิ้นใจ”

            จากเพลงแรก "ขอเวลาอีกไม่นาน..." เพลงสุดท้าย "...จนกว่าสิ้นใจ" !!??

(เรื่องที่เกี่ยวข้อง : เปิดใจ "จ.ส.อ.พงศธร พอจิต" นักร้องคู่บุญ "บิ๊กตู่" )