
เปิดกฎหมาย “เกษตรพันธสัญญา” : หวังเกษตรกรมีอำนาจต่อรอง
"เกษตรพันธสัญญา" ที่ถูกระบุว่าทำให้เกษตรกรเสียเปรียบและทำลายวิถีการผลิต พรุ่งนี้ สนช. จะพิจารณาร่างกฎหมายควบคุม เพื่อสร้างความเป็นธรรมกับเกษตรกร
ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ย. 2559) สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะมีการประชุมเพื่อพิจารณา "ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ...." ซึ่งเสนอโดยคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ที่ผ่านมาเรามีคำถามถึงปัญหาเกษตรพันธสัญญาว่าเป็นธรรมหรือไม่ และทำลายระบบการผลิตเพียงใด
เราจึงมาเปิดร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวดู ซึ่งแม้จะมีชื่อว่า “ส่งเสริม” แต่โดยเนื้อหาเป็นการควบคุมอยู่ไม่น้อย ทั้งนี้ ในหลักการและเหตุผลระบุความจำเป็นของการมีกฎหมายฉบับนี้ว่า ปัจจุบันมีการนำระบบเกษตรพันธสัญญามาใช้เป็นจำนวนมาก แต่ก็มีลักษระผสมผสานการจ้างทำของ จ้างแรงงาน และสัญญาซื้อขาย ซึ่งมีความซับซ้อนและยุ่งยาก ส่งผลให้เกษตรกรรายย่อย ที่เป็นคู่สัญญามีอำนาจต่อรองน้อยกว่าผู้ประกอบการ รวมถึงมีความเสี่ยง ในการปฏิบัติตามสัญญา จึงสมควรที่จะกำหนดหลักเกณฑืในการทำสัญญาเพื่อความเป็นธรรม
สำหรับเนื้อหาในกฎหมายกำหนดให้ ผู้ทีจะประกอบธุรกิจเกษตรพันธสัญาต้องจดแจ้งการประกอบธุรกิจ่อสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้ผู้ประกอบธุรกิจต้องทำเอกสารชี้ชวยให้เกษตรกรทราบเป็นการล่วงหน้า ก่อนทำสัญญาในระบบเกษตรพันธสัญญา โดยต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วนและรอบด้าน
ทั้งนี้ในสัญญาต้องมีชื่อคู่สัญญา วัตถุประสงค์ของสัญญา ระยะเวลปฏฺบัติตามสัญญา รายละเอียดสถานที่ผลิต หน้าที่ของคู่สัญญา ราคาและวิธีการคำนวณราคาวัตถุดิบและผลิตผล วันส่งมอบผลผลิตและกำหนดวันชำระเงิน ผู้รับความเสี่ยยงในกรณีที่ผลผลิตไม่สามารถจำหน่ายได้ตามราคาที่กำหนด การเยียวยาการเสียหาย จากการผิดสัญญา
นอกจากนี้ยังกำหนดข้อห้ามในสัญญาประกอบด้วย 1.ข้อตกลงที่เกษตรกรต้องรับมอบพันธุ์พืชหรือสัตว์ อาหารยา และปัจจัยการผลิต สารเคมี เครื่องมือ อุปกรณ์ ที่ไม่มีคุณภาพ หรือไม่มีฉลากหรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานสินค้า 2.ข้อตกลงที่ยกเว้นความรับผิดชอบของผู้ประกอบธุรกิจ กรณีไม่เป็นไปตามมาตรฐานของพันธุ์พืชสัตว์ หรืออุปกรณ์ 3.ข้อตกลงที่ให้จำหน่ายทรัพย์สินของเกษตรกรให้ผู้ประกอบธุรกิจหลังเลิกสัญญา 4. ข้อตกลงที่ให้เกษตรกรต้องรับผิดในสัญญาแม้เกิดเหตุสุดวิสัยหรือสาธารณภัย
5.ข้อตกลงที่ให้สิทธิผู้ประกอบธุรกิจในการเลิกสัญญาโดยเกษตรกรไม่ได้ผิดสัญญาในสาระสำคัญ 6.ข้อตกลงที่ให้เกษตรกรต้องมีภาระเพิ่มขึ้นมากกว่าภาระกำหนดในสัญญา 7.ข้อตกลงในการนำเงินชดเชยของเกษตรกรที่ได้รับจากทางราชการหรือค่าทดแทนจากการประกันภัยมอบให้ผู้ประกอบธุรกิจ 8.ข้อตกลงที่ให้ผู้ประกอบธุรกิจเปลี่ยนแปลงราคาวัตถุดิบในการผลิต หรือค่าตอบแทนในการผลิตได้แต่เพียงฝ่ายเดียว และ 9.ข้อตกลงที่มีผลให้เกษตรกรต้องรับภาระเกินกว่าที่จะพึงคาดหมายได้ตามปกติ
และหากกฎหมายมีผลบังคับใช้ก็ให้สัญญที่มีผลอยู่จนสิ้นสุดสัญญา แต่ต้องไม่เกิน 1 ปี นับแต่กฎหมายบังคับใช้
-------
อรรถยุทธ บุตรศรีภูมิ