คอลัมนิสต์

เลิกเหล้าเข้าพรรษา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เลิกเหล้าเข้าพรรษา : บทความพิเศษ โดยดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

            เรื่องของการเลิกเหล้าเข้าพรรษา มีการพูดกันมานานแล้วหลายปี จากตัวเลขการรณรงค์ นับว่าได้ผลเป็นอย่างยิ่ง เพราะบางปีสามารถลดการดื่มเหล้าในช่วงดังกล่าวได้ถึง ร้อยละ 30 เลยทีเดียว

            การงดเหล้าเข้าพรรษาแค่เพียง 3 เดือน จากข้อมูลการงดเหล้าเข้าพรรษาปี 2549 มีผู้งดเหล้าเข้าพรรษา 5 ล้านคน ทำให้คนงดเหล้าเข้าพรรษามีเงินเพิ่มขึ้น เฉลี่ยเดือนละ 1,188.97 บาท เท่ากับว่า 3 เดือนเข้าพรรษา จะมีเงินเก็บ 6,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

            ถ้าเราจะคิดง่ายๆ ถ้าเราตั้งสมมุติฐานว่า หากชาวบ้านจำนวน 100 คนดื่มอย่างหนักวันละ 1 เป๊ก ราคาเป๊กละ 5 บาท จะสูญเงินลงขวดเท่ากับ 500 บาท ถ้า 30 วัน จะสูญเงินเท่ากับ 15,000 บาท ถ้า 90 วันหรือ 3 เดือน จะสูญเงินเท่ากับ 45,000 บาท เลยทีเดียว

            เท่ากับซื้อรถจักรยานยนต์คันใหม่ได้ถึง 1 คัน แถมการลด ละ เลิก 3 เดือนในช่วงเข้าพรรษา ยังทำให้ช่วยลดอุบัติเหตุต่างๆ รวมทั้งการทะเลาะวิวาทอีกด้วย การเลิกเหล้า เลิกจน แล้วนำเงินที่ดื่มเหล้ามาออม คือความคิดที่ควรนำมาใช้ให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในชุมชน หมู่บ้าน

            เพราะถ้าหากทุกชุมชน ทุกหมู่บ้านแก้ไขปัญหาการดื่มเหล้า ดื่มสุราได้ตรงจุด จะทำให้ชุมชนเข้มแข็ง มีเงินหมุนเวียนใช้จ่ายในชุมชนอย่างมากมายมหาศาล โครงการเลิกเหล้าเข้าพรรษาเป็นโครงการที่ดี

            แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง น่าจะมีโครงการต่อเนื่องให้คนที่เลิกเหล้าเข้าพรรษาได้เข้าโครงการเลิกดื่มไปเลย คือ ให้เลิกดื่มจาก 3 เดือน เป็นเลิก 12 เดือนไปเลย เพื่อสุขภาพ เพื่อครอบครัว เพื่อสังคม และเพื่อประเทศชาติ

            สำหรับตลาดของการดื่มเหล้า บริษัทขายเหล้าได้พยายามขยายตลาดโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น เป็นตลาดกลุ่มใหม่ของบริษัทขายเหล้า ขายเบียร์ ซึ่งเด็กเยาวชนและวัยรุ่น เป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

            เพราะการตลาดของบริษัทขายเหล้า ขายเบียร์ มีการใช้กลยุทธ์หลายอย่างเพื่อจูงใจให้เด็กกลุ่มดังกล่าวได้มีโอกาสดื่มเหล้ามากขึ้น และกลุ่มนี้ เมื่อได้ดื่มแล้ว คงต้องดื่มไปได้อีกนานเนื่องจากอายุยังน้อยเมื่อเทียบกับวัยผู้ใหญ่ ดังจะเห็นได้จากกรณีมีการถ่ายคลิป การซื้อเหล้า เบียร์ตามบริเวณใกล้สถานศึกษา เมื่อไม่นานมานี้

            อีกทั้งกลุ่มเด็ก เยาวชนไม่มีรายได้ ต้องพึ่งผู้ปกครอง พ่อแม่ และเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา สำหรับเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา สมัยก่อนไม่มี เพิ่งมามีไม่กี่ปี ข้อดีของเงินกู้เพื่อการศึกษาก็คือ ทำให้เด็กที่ต้องการศึกษาต่อมีโอกาสในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น

            แต่ผลเสียก็อย่างที่มีคนกล่าวถึงก็คือ เด็กบางคนนำเงินไปซื้อมือถือ ผ่อนรถจักรยานยนต์ เที่ยว และที่สำคัญคือนำเงินไปซื้อเหล้า เบียร์ เป็นต้น และรัฐบาลปัจจุบันก็มีแนวคิดจะขยายเพดานรายได้ครอบครัวของผู้มีสิทธิ์กู้กองทุน กยศ. เป็น 2.5 แสนบาทต่อปี จากเดิม 2 แสนบาทต่อปี

            ในด้านหนึ่งคิดว่าเป็นการช่วยเหลือเด็กยากจนและเด็กด้อยโอกาสเพิ่มมากขึ้น แต่รัฐบาลต้องมีภาระเพิ่มขึ้น เนื่องจากการกู้ กยศ.ไม่ได้สิ้นสุดเพียงแค่ปีเดียว ก็ต้องฝากเด็กที่มีสิทธิ์กู้กองทุน กยศ. เมื่อมีโอกาสก็ต้องใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ไม่ควรนำเงินไปใช้นอกวัตถุประสงค์ของผู้ให้กู้

            สำหรับในวันเข้าพรรษา 2559 ตรงกับวันที่ 20 กรกฎาคม 2559 อยากจะฝากแง่คิดของ ท่าน ว.วชิรเมธี เพื่อให้กำลังใจคนตั้งใจอธิษฐานงดเหล้าเข้าพรรษาว่า “ขอให้ตั้งใจดีๆ เพราะถ้าตั้งใจก็ถือว่าสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ขอให้เพียรพยายามต่อไป อย่าท้อ หากล้มเหลวก็จงให้อภัยตัวเองแล้วเริ่มต้นใหม่ เชื่อว่าในที่สุดต้องเอาชนะเหล้าได้อย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้เราไม่ดื่มเหล้าเราก็อยู่ได้ และถ้าวันหนึ่งเราจะประกาศอิสรภาพจากเหล้า เราก็ต้องทำได้เช่นกัน”

            ความรักความห่วงใย คือ สายใยของครอบครัว

 

...........................

(หมายเหตุ : http://www.oknation.net/blog/markandtony/2016/07/22/entry-1)

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ