ข้างหลังภาพ'คุณหญิงบ่าวตั้ง' | คมชัดลึก

           24 ปีที่แล้ว ผมทำงานอยู่ที่หนังสือพิมพ์ “ผู้จัดการรายสัปดาห์” โดยรับผิดชอบเซกชั่น “ปริทรรศน์” ที่นำเสนอข่าวสารการเมือง สังคม กีฬา และวัฒนธรรม

           ช่วงเวลานั้น หนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับ ได้เสนอข่าวผู้หญิงชื่อ “ไก่” เป็นคนรวยใจบุญ ชอบโปรยทานหว่านเงิน เธอจะแจกเงินเป็นกระสอบ โดยเริ่มแจกตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป จนถึงล้านบาท

           โดยเฉพาะจังหวัดพิษณุโลก เธอแจกระห่ำ เพราะแฟนหนุ่ม ชื่อ “สารวัตรชิดชัย” เป็นตำรวจอยู่ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก

           อยู่มาวันหนึ่ง นักข่าวในทีมงานปริทรรศน์ ชื่อ นนท์ พลางวัน กำลังทำข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองภาคอีสาน ซึ่งโฟกัสไปที่ “เสี่ยเล้ง” เจริญ พัฒน์ดำรงจิตร ผู้มากบารมีเมืองขอนแก่น

           คนรุ่นหลังอาจไม่ทราบว่า “เสี่ยเล้ง” มีบทบาททางการเมืองสูงยิ่ง ระหว่างปี 2529-2531 ด้วยการเป็นสปอนเซอร์ให้ “นักเลือกตั้ง” ใน 4-5 จังหวัดอีสานเหนือ ได้เข้าสู่สภา จึงเรียกขานกันว่า “ส.ส.สายเสี่ยเล้ง”

           “นนท์” ติดต่อขอสัมภาษณ์เสี่ยเล้งได้ โดยฝ่ายเจ้าพ่อขอนแก่นนัดให้ไปพบกันที่หมู่บ้านเมืองเอก เขาและช่างภาพ จึงเดินทางไปตามนัด

           เมื่อไปถึงบ้านของเสี่ยเล้ง เขาได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่ง หน้าตาละม้ายคล้ายผู้หญิงชื่อ “ไก่” ที่กำลังตกเป็นข่าวเกรียวกราวอยู่

           หลังจากถามไถ่กันสักครู่ นนท์ก็ตัดสินใจขอสัมภาษณ์เธอ และโชคเข้าข้างนักข่าวหนุ่ม เมื่อ “ไก่” วันทนีย์ หยกวิริยะกุล ยอมเปิดปากเล่าที่มาที่ไปของคำว่า “คุณหญิงไก่”

           วันนั้น “วันทนีย์” ไม่ยอมปริปากบอกเล่าปูมหลังของเธอมากนัก วงศ์วานว่านเครือมาจากไหน แต่เธอเล่าว่า มีญาณหยั่งรู้ได้ในสิ่งเร้นลับมาตั้งแต่เด็กๆ พอโตขึ้น เธอเคยทดลองส่องตัวเลข “หวย” ปรากฏว่า แม่นทุกงวด

           แล้ววันหนึ่ง วันทนีย์ ได้มาเจอกับเสี่ยเล้ง มหาเศรษฐีเมืองขอนแก่น ที่ได้ชื่อว่าเป็น “นักเสี่ยงโชค” ตัวยง

           วันทนีย์จึงคบหากับเสี่ยเล้งแบบพ่อกับลูก โดยรู้จักกันในกรุงเทพฯ หลังจากนั้น ก็เดินมาด้วยกันตลอด

           เธอเป็นคู่เสี่ยงโชคให้เสี่ยเล้ง ทุกครั้งที่เสี่ยเล้งไปต่างประเทศ ก็จะพาเธอไปด้วยเสมอ เพราะเธอมีญาณวิเศษที่มองเห็นตัวเลข ทำให้เสี่ยเล้งมีโชคทุกครั้ง และเธอก็ได้เงินส่วนแบ่งจากการเสี่ยงโชคมานับร้อยล้านบาท

           วันทนีย์ จึงนำมาแจกจ่ายชาวบ้าน จนมีชื่อเสียงจากการแจกเงินให้คนจน และผู้ทุกข์ยากเดือดร้อน

           นอกจากนั้น คุณหญิงไก่ยังเล่าถึงความรักอันแสนหวาน ซึ่งเธอกำลังเตรียมตัวแต่งงานกับ “สารวัตรชิดชัย” หรือ ร.ต.อ.ชิดชัย แสงอรุณ

           ช่วงที่ทีมงานเราซักถามคุณหญิงไก่นานกว่าครึ่งชั่วโมง เสี่ยเล้งก็นิ่งฟัง รอจนหมดคำถามแล้ว ก็ถึงคิวเสี่ยเล้งเล่าเรื่องการเมืองบ้าง

           วันนั้น นนท์กลับมาถึงสำนักงานย่านถนนพระอาทิตย์ พร้อมกับข่าวใหญ่คือ ได้สัมภาษณ์คุณหญิงไก่

           ตอนนั้น ผมบอกทีมงานว่า เรายังจะไม่เล่นข่าวนี้ ต้องรอภาพชุดอภิมหาวิวาห์ ที่ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซ็นทรัล ในตอนค่ำวันที่ 11 เมษายน 2535 เสียก่อน

           ก่อนหน้านั้น วันทนีย์แจ้งว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กับ “คุณหญิงหลุยส์” จะมาเป็นประธานงานฉลองมงคลสมรส เหตุที่เป็น “บิ๊กจิ๋ว” เพราะตอนนั้น “เสี่ยเล้ง” ให้การสนับสนุนพรรคความหวังใหม่ แต่ถึงวันงานจริง “บิ๊กจิ๋ว” กับคุณหญิงกลับชิ่งหายตัวไป รวมถึงตัวเสี่ยเล้งก็ไม่มาร่วมงาน แถมในงานคืนนั้น คุณหญิงไก่ขึ้นประกาศบนเวทีว่า 17 เมษายน จะขอลาตาย เปรียบเหมือนละครชีวิต ถึงจุดสูงสุดแล้ว มีชีวิตต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ แจกเงินกี่กระสอบ คนจนก็ไม่หมดเสียที ขอลาตายเพื่อให้คนกราบไหว้เยี่ยงโพธิสัตว์กวนอิม

           สุดท้าย วันทนีย์ก็ไม่ได้ทำตามที่พูดไว้ และเธอก็กลับมาเป็นข่าวอีกครั้งในวันนี้

           24 ปีผ่านไป “นนท์” เลิกอาชีพทำข่าวไปทำธุรกิจส่วนตัวที่เชียงคาน โดยไม่นึกไม่ฝัน เขาเปิดทีวีเจอข่าวคุณหญิงไก่ มันช่างเหมือนนั่งยานย้อนเวลาหาอดีต นี่แหละหนอ..ชะตามนุษย์