
จากชายขอบสู่เมืองหลวง เส้นทางโสเภณีข้ามชาติ
การจับกุมหญิงชาวต่างชาติที่สถานอาบอบนวดนาตารี สะท้อนให้เห็นปัญหาไทยยังคงเป็นแหล่งขายบริการสำคัญของผู้หญิงที่มีถิ่นฐานอยู่ตามตะเข็บชายแดน
“แถวๆ บ้านหนูใครเขาก็ทำกันทั้งนั้นล่ะพี่ บ้านไหนมีลูกสาวถือว่าโชคดีมาทำงานกันหมด อย่างว่าอยู่บ้านไม่รู้จะทำอะไร มาทำงานที่นี่ได้เงินดี นี่หนูก็ส่งเงินให้ที่บ้านทุกเดือน คิดว่าพอสร้างบ้านเสร็จก็จะเลิกแล้ว กลับไปอยู่บ้าน ไม่ได้คิดว่าต้องทำไปอย่างนี้ตลอดหรอก”
หล้า หญิงสาวซึ่งอ้างว่ามีอายุ 23 ปี และอาศัยอยู่ที่เชียงราย แต่เมื่อผ่านการสนทนาระยะหนึ่ง เธอกลับยอมรับว่า เป็นสาวไทยใหญ่ วัยเพียง 19 ปี และอาศัยอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ฝั่งเมียนมาร์ บอกถึงเหตุผลที่จากแผ่นดินเกิดมาทำงานอยู่ในอาบอบนวดแห่งหนึ่งย่านพระราม 9
หล้า บอกว่า เดิมทีทำงานอยู่ที่อาบอบนวดที่โด่งดังอยู่ในเวลานี้ เพิ่งย้ายมาอยู่อาบอบนวดแห่งใหม่ได้ไม่นาน เพราะการชักชวนของเพื่อนที่อยู่ในละแวกบ้านว่า สถานที่แห่งใหม่มีลูกค้าหมุนเวียนไปใช้บริการมากกว่าอาบอบนวดที่เธอเคยทำงานอยู่
หล้า บอกว่า เธอและเพื่อนไม่ได้ถูกบังคับให้มาทำงาน แต่เป็นความสมัครใจเอง เพราะเห็นคนในหมู่บ้านมีชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากเดินทางมาทำงานในไทยได้ไม่นาน หลังจากตัดสินใจแล้วจะมีคนที่รู้จักกัน ซึ่งกว้างขวางรู้จักคนในไทย นำเงินก้อนแรกไปให้ครอบครัวเธอราว 5 หมื่นบาท เป็นเงินก้อนแรกที่สร้างความไว้วางใจให้แก่ครอบครัวว่าเมื่อเธอเข้ามาทำงานแล้วจะมีรายได้ดี
“เงิน 5 หมื่น เขาให้หนูมาทำงานชดใช้เอา ครั้งสองครั้งแรกก็เกือบหมดแล้ว เพราะเขาเอาหนูไปส่งให้แขกเปิดบริสุทธิ์ทำอย่างนี้อยู่ 4-5 ครั้ง ก็หายกัน หลังจากนั้นเขาก็จะพามาฝึกทำงาน มีคนสอนว่าต้องทำอย่างไร มีการบอกวิธีการทำให้แขกพอใจ ก่อนจะส่งเข้าตู้กระจก หนูถูกจัดว่าหน้าตาค่อนข้างดี จึงได้นั่งในราคาที่แพงสุด” หล้า ให้ข้อมูล
หญิงสาวบอกด้วยว่า ในช่วงระหว่างฝึกงาน หากใครที่มีเรือนร่างที่ไม่เข้าที่จะมีการศัลยกรรม ส่วนมากเป็นจมูก และหน้าอก ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้ผู้ที่ดูแลอยู่จะจ่ายให้ก่อน และให้ทำงานผ่อนให้ทีหลัง เช่นเดียวกับสถานที่พักจะมีผู้ที่ดูแลจัดหาไว้ให้ ซึ่งปัจจุบันจะอาศัยอยู่กันมากตามอพาร์ตเมนต์ และห้องพักให้เช่าในละแวกห้วยขวาง และพระราม 9
“บอกแล้วพี่เขาไม่ได้บังคับ ไปไหนมาไหนเขาก็ให้เดินทางไปเอง ยิ่งจ่ายเงินจ่ายทองกันหมดแล้วชีวิตเป็นของเรา จะย้ายที่ทำงานไปไหนก็ได้ แรกๆ เขาก็เปลี่ยนเราจากที่หนึ่งไปที่หนึ่งบ้าง ซึ่งที่ไปก็อยู่ในเครือข่ายหมุนเวียนกันอยู่แล้ว บางทีเดือนสองเดือนหมุนที แต่พอนานๆ แล้วแต่เรา นี่หนูทำที่นี่มาครึ่งปีแล้ว” หล้า บอก
ข้อมูลนี้สอดคล้องกับป๋อง อดีตผู้จัดหาหญิงสาวประจำอาบอบนวดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ให้ข้อมูลว่า หญิงสาวจากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาขายบริการเปลี่ยนไป ปัจจุบันเรื่องหลอกกันอาจจะมีบ้างแต่น้อยมาก ส่วนใหญ่รู้ดีว่า เมื่อเข้ามาในไทยเพื่อขายบริการทางเพศ โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อยทางเหนือของไทย หลายหมู่บ้านนิยมส่งบุตรสาวเข้ามาทำงานในไทย
“เดี๋ยวนี้เขามีพาสปอร์ตเดินทางไปไหนมาไหนก็ได้ มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขารู้ดีเข้ามาแล้วต้องทำอะไร มันก็มีคนฝั่งเรานี่ล่ะเข้าไปติดต่อกับคนฝั่งโน่นให้ชักชวนกันมา พอมาแล้วมีการส่งเงินกลับไปให้ที่บ้าน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น คราวนี้ก็ชวนกันมา ที่ไหนดีที่ไหนอยู่แล้วสบายจะบอกต่อๆ กัน หมดยุคที่จะบังคับกันแล้ว ตอนนี้ที่มามากสุดคือฝั่งรัฐฉาน และจากฝั่งลาว” ป๋อง ให้ข้อมูล
ทั้งนี้เส้นทางการเข้ามาในไทยของหญิงต่างชาติพบว่า ปัจจุบันมีอยู่ 3 เส้นทางหลัก คือ จากย่างกุ้ง และจังหวัดทางตอนกลางของเมียนมาร์ เข้ามาพักที่เกาะสอง ซึ่งที่นั่นมีซ่องเปิดให้บริการอยู่หลายแห่ง จำนวนนั้นมีเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี รวมอยู่ด้วยหลายแห่ง หญิงสาวแต่ละรายจะอยู่ที่นี่ประมาณ 3 เดือน ระหว่างนี้จะฝึกพูดภาษาไทย เมื่อสื่อสารได้แล้วจะถูกส่งเข้ามายังฝั่งไทยที่ จ.ระนอง ก่อนถูกส่งไปที่ จ.ชุมพร ไปยังกรุงเทพมหานครและปริมณฑล บางส่วนไปยังภูเก็ตและจังหวัดทางภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะที่ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา และ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งหากผ่านเส้นทางนี้ส่วนมากจะถูกส่งไปขายบริการทางเพศตามร้านคาราโอเกะ รวมถึงที่แฝงอยู่ตามโรงแรม สถานที่พักต่างๆ
เส้นทางสำคัญคือจากทาง จ.ท่าขี้เหล็ก เข้ามายัง จ.เชียงราย เดินทางต่อเข้ามายังกรุงเทพมหานคร เส้นทางนี้มักถูกส่งเข้าสถานบริการประเภทอาบอบนวด มีแหล่งหลักอยู่ในย่านห้วยขวาง และพระราม 9 บางส่วนไปยัง จังหวัดปริมณฑล โดยเฉพาะนครปฐม เมื่อทำงานได้ระยะหนึ่งแล้วจะไปต่อยังจังหวัดทางภาคใต้ตอนล่าง
อีกเส้นทางคือ จากเวียงจันทน์ ใช้หนองคายเป็นทางผ่านหลัก ไปยังอุดรธานี ขอนแก่น ไปยังภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร เมื่อทำได้ระยะเวลาหนึ่งจะกระจายไปยังพื้นที่อื่น รวมถึงภาคใต้ตอนล่าง อย่างด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา ในจำนวนนี้มีไม่น้อยที่เดินทางต่อไปยังมาเลเซีย
จะเด็ด เชาว์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ซึ่งติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับผู้หญิง ให้ข้อมูลว่า ขบวนการนำพาผู้หญิงต่างชาติเข้ามาค้าบริการทางเพศยังคงเป็นตัวจักรสำคัญที่นำผู้หญิงเข้ามา ประเทศรอบบ้านของไทยยังพบมีการเข้ามามาก สิ่งที่ปรากฏทำให้เห็นว่ากระบวนการดำเนินการของภาครัฐยังเป็นปัญหา
“หญิงที่เข้ามาไม่ใช่เฉพาะที่รัฐฉาน ไม่ใช่แค่พม่าหรือลาว แต่ทางตอนล่างของจีนก็มีเข้ามา มีขบวนการเข้าไปชักนำไปบอกว่ารายได้ดี คนที่เข้ามาก่อนแล้วเมื่อกลับบ้านมีเงินมีทองก็บอกกันต่อ ทำให้เกิดการเห็นตัวอย่าง” ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล บอก
การจับกุมหญิงชาวต่างชาติที่สถานอาบอบนวดนาตารี สะท้อนให้เห็นปัญหาไทยยังคงเป็นแหล่งขายบริการสำคัญของผู้หญิงที่มีถิ่นฐานอยู่ตามตะเข็บชายแดน หรือที่เรียกว่าชายขอบ พื้นที่บริเวณนี้ส่วนใหญ่ยังคงเหลื่อมล้ำ ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ยังคงขาดโอกาส ส่วนใหญ่มีฐานะที่ไม่ดีนัก เมื่อช่องทางใดที่สามารถทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นจะฉกฉวยไว้ทันที จึงไม่แปลกที่เวลานี้หญิงสาวจากพื้นที่ชายขอบจะทะลักเข้าสู่เมืองหลวง และมักกระโดดเข้าสู่วังวนของหญิงบริการ
-----------------
(เรื่องเล่าข่าวดัง : จากชายขอบสู่เมืองหลวง เส้นทางโสเภณีข้ามชาติ : โดย...ทัศชยันต์ วาหะรักษ์)